2 นักเรียนหญิงที่อุดรธานีขับ จยย.ไปโรงเรียนในตัวเมืองหักหลบคนจูงจักรยานย้อนศรเสียหลักรถล้ม รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อตามหลังมาเบรกไม่ทันทับร่างเละเสียชีวิต "ยาย"รู้ข่าวถึงกับใจสลายเดินทางไปเห็นศพหลานทั้ง 2 คนร้องไห้แทบขาดใจ พี่ชาย 2 นักเรียนหญิงเผยลางสังหรณ์เมื่อคืนที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันพระฝูงสุนัขในหมู่บ้านได้พากันวิ่งหอนเข้าไปในวัดแล้ววิ่งหอนกลับมาบ้านที่น้องทั้ง 2 คนนอนอยู่ จนกระทั่งมาเกิดเหตุสลดในเช้าวันนี้
เมื่อเวลา 07.30 น.วันนี้ (25 ส.ค.66) ตำรวจ สภ.ห้วยหลวง อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งมีเหตุรถพ่วง 18 ล้อเหยียบร่างนักเรียนขณะขับรถ จยย.ไปโรงเรียนตอนเช้าที่ถนนสายอุดรธานี-หนองบัวลำภู เยื้องๆ กับสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดอุดรธานี จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกู้ภัยสว่างเมธาธรรม และแพทย์ ที่เกิดเหตุพบภาพที่น่าสลดใจร่างของนักเรียนหญิง 2 คนถูกรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อเหยียบร่างจนเละ เศษเนื้อสมองเกลื่อนพื้นถนน ใกล้ๆ มีกระเป๋านักเรียนตกอยู่ในที่เกิดเหตุและรถ จยย.สกุ๊ปปี้ สีดำคาดเหลือง ทะเบียน อุดรธานี ซึ่งเป็นของเด็กทั้ง 2 คนล้มอยู่ข้างๆ ทราบชื่อเด็กนักเรียนเคราะห์ร้ายทั้ง 2 คือ ด.ญ.ศุภิสรา ขอสงวนนามสกุล) อายุ 14 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.3 และ ด.ญ.เกศสุดา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.2 ทั้ง 2 คนเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน และเป็นชาวบ้าน ต.โคกสะอาด อ.เมือง จ.อุดรธานี
ต่อมานางสุบิน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 64 ปีผู้เป็นยายเดินทางมาหลังทราบข่าวหลานสาวตัวเองถูกรถชนเสียชีวิต 2 ราย เมื่อเห็นศพหลานนางสิบิน ร้องไห้แทบใจจะขาด พร้อมบอกว่า "หลานฉันๆ ทำไมไม่ให้ยายตายแทน ยายอยากตายแทนหลานได้ ไม่น่าไปก่อนยายเลย" โดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่พร้อมกับพยายามขอร้องไม่ให้คุณยายเข้าไปใกล้ที่เกิดเหตุ แต่คุณยายบอกว่า ขอให้ยายคลานไปดูหน้าหลานครั้งสุดท้ายหน่อย กู้ภัยและญาติๆ ต้องคอยให้ยาดมคุณยายตลอดเวลา
ห่างจากศพน้องนักเรียนไปประมาณ 500 เมตรพบรถพ่วง 18 ล้อยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียนหนองบัวลำภู ซึ่งบรรทุกหินมาเต็มคันรถ โดยคนขับยืนรอเจ้าหน้าที่อยู๋มราบชื่อนายอนันต์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี พร้อมเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนขับรถพ่วงบรรทุกหินจากโรงโม่ที่จังหวัดหนองบัวลำภู จะไปส่งที่อำเภอไชยวาน จังหวัดอุดรธานี วิ่งมาตามปกติ ช่วงเกิดเหตุไม่ได้ยินเสียงชนหรือทับอะไรเลย เพราะรถที่บรรทุกหินมาหนักพอเกิดเหตุก็ไม่ได้ขับหนี
นายยุทธนา (ขอสงวนนามสกุล) อยุ 19 ปี พี่ชายของเด็กหญิงทั้ง 2 คน บอกว่า เมื่อคืนมีลางสังหรณ์บอกเหตุ ไม่รู้เป็นอะไร ซึ่งเป็นวันพระด้วย สุนัขในหมู่บ้านเป็นฝูงหอนวิ่งไปวัดแล้วหอนวิ่งกลับมาบ้านที่น้องทั้ง 2 คนนอนอยู่ ตนไม่คิดว่าจะเป็นลางไม่ดี มาเช้าวันนี้รู้ข่าวน้องถูกรถชนเสียชีวิตเสียแล้ว
นางสุบิน ยายของเด็กทั้ง 2 คนบอกว่า หลาน 2 คนเป็นญาติลูกพี่ลูกน้องกัน เมื่อคืนมานอนที่บ้านด้วยกัน จึงพาขับรถจักรยานยนต์เพื่อไปโรงเรียน ซึ่งปกติแล้วหลานอีกคนจะไปกับรถตู้ส่วนหลานอีกคนไม่ได้ไปกับรถตู้ วันนี้เขาเลยพากันขี่รถจักรยานยนต์ไปโรงเรียนด้วยกัน พากันไม่ใส่หมวกกันน็อค ยายก็ห่วงบอกว่าให้ใส่หมวกกันน็อคด้วยนะลูก และขับรถให้ระวังเพราะเมื่อเช้ามีฝนตกถนนลื่น เห็นแต่ในข่าวทีวีรถชนนักเรียนตายแต่ไม่คิดว่าเช้าวันนี้จะมีข่าวร้ายกับตน
"จะให้ยายให้ตายแทนหลานก็ได้ เพราะยายแก่แล้ว หลานทั้ง 2 คนไม่น่าจะไปในวัยเรียนเลย" ยายสุบินกล่าวด้วยความเศร้าใจ
ทั้งนี้ จากการสอบสวนเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า น้องนักเรียนทั้ง 2 คนขับรถจักรยานยนต์จากบ้านกำลังไปโรงเรียนในตัวเมือง พอมาถึงที่เกิดเหตุมีคนจูงจักรยานย้อนศรมาน้องคนขับอาจจะมองไม่เห็นทำให้รถเสียหลักแล้วล้มลงกระเด็นไปเลนซ้ายของถนน ขณะเดียวกันมีรถบรรทุก 18 ล้อวิ่งตามหลังมา เหยียบร่างของน้องทั้ง 2 คนจนเสียชีวิตดังกล่าว - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี