รองโฆษกอัยการระบุ’’อสส.มีคำสั่งคดี สว.“อุปกิต”สบคบกันฟอกเงินฯเเล้ว เเต่สว.อุปกิตใช้เอกสิทธิ์ คุ้มครองระหว่างสมัยประชุมสภาเลื่อนฟังคำสั่งคดี 28 ส.ค.นี้
วันที่ 25 สิงหาคม 2566 นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยความคืบหน้ากรณีที่ พนักงานอัยการคดียาเสพติดนัดฟังคำสั่งคดีที่ พนักงานสอบสวนที่ อัยการสูงสุด(อสส.)มอบหมาย ให้อัยการสำนักงานการสอบสวนร่วมกับพนักงานสอบสวน บช.ปส.3 ซึ่งมีความเห็นควรสั่งฟ้องนายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ฐานเป็นสมาชิกวุฒิสภาสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้กระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน เป็นสมาชิกวุฒิสภาร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติโดยสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงอันเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ มีส่วนร่วมกระทำการใดๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในกิจกรรมหรือการดำเนินการขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
โดยรู้ถึงวัตถุประสงค์และการดำเนินกิจกรรมหรือโดยรู้ถึงเจตนาที่จะกระทำความผิดร้ายแรงขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติดังกล่าว ว่า เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา พนักงานอัยการสำนักงานคดียาเสพติดได้นัดนายอุปกิตมาฟังคำสั่งคดีของอัยการ เเต่นายอุปกิต ได้เเจ้งขอเลื่อนนัดฟังคำสั่งโดยอ้างว่า อยู่ระหว่างสมัยประชุมสภาฯ ซึ่งได้รับสิทธิ์คุ้มครองตามกฎหมาย ซึ่งอัยการพิจารณาแล้ว จึงให้เลื่อนฟังคำสั่งคดีออกไปก่อนตามกฎหมายเป็นวันที่ 28 ส.ค.นี้ โดยขณะนี้ อัยการสูงสุดได้ตรวจสำนวน เเละมีคำสั่งเด็ดขาดในคดีเรียบร้อยเเล้ว เเต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดคำสั่งได้ จนกว่าจะถึงวันนัดฟังคำสั่งเพื่อเเจ้งต่อนายอุปกิต โดยวันดังกล่าวหากนายอุปกิตขอเลื่อนฟังคำสั่งอีกพนักงานอัยการก็จะพิจารณาตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรัฐธรรมนูญ มาตรา 131 บัญัญัติเรื่องความคุ้มกันสมาชิกสภาผู้เเทนฯไว้ว่า ห้ามมิให้จับ คุมขัง หรือหมายเรียกตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสมาชิกวุฒิสภา ไปทำการสอบสวนในฐานะที่สมาชิกผู้นั้นเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากสภาที่ผู้นั้นเป็นสมาชิก หรือในกรณีที่จับในขณะกระทำความผิด
กรณีที่มีการฟ้องสมาชิกรัฐสภาในคดีอาญาไม่ว่าจะฟ้องในหรือนอกสมัยประชุม ศาลจะพิจารณาคดีระหว่างสมัยประชุมมิได้ (ยื่นฟ้องคดีได้แต่พิจารณาคดีไม่ได้)ยกเว้น 2 กรณี คือได้รับอนุญาตจากสภาฯที่ผู้นั้นเป็นสมาชิก หรือ กรณีที่เป็นคดีเกี่ยวกับ พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา, พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง หรือ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง แต่การพิจารณาคดีต้องไม่เป็นการขัดขวางต่อการที่สมาชิกผู้นั้นจะมาประชุมสภาซึ่งจะคุ้มครองเฉพาะบุคคลที่มีสถานภาพเป็นสมาชิกรัฐสภาเฉพาะกรณีของคดีอาญาโดยเป็นเพียงการคุ้มครองชั่วคราวในระหว่างสมัยประชุมเท่านั้นเมื่อพ้นสมัยประชุมการคุ้มครองสมาชิกรัฐสภาจะหมดตามวาระสมัยการประชุมไปด้วย.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี