DSI สืบขยายเบื้องหลังหมูเถื่อน 161 ตู้ เตรียมประชุม ปปง. 28 ส.ค. หลังพบหลักฐานเส้นเงินมากกว่าสิบล้านบาท สั่งหมูนอกเข้าไทย ส่งผลกระทบเกษตรกร
วันที่ 25 สิงหาคม 2566 ที่ห้องรับรองกรมสอบสวนคดีพิเศษ ชั้น 2 ศูนย์ราช การฯอาคารเอ ถ.แจ้งวัฒนะ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ นางพิชญา ธารากรสันติ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ หัวหน้าพนักงานสอบสวน และ ร.ต.อ.ชาญณรงค์ ทับสาร รองผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ร่วมแถลงรายละเอียดในประเด็นความคืบหน้าคดีหมูเถื่อนแช่แข็ง 161 ตู้
พ.ต.ต.ณฐพล เปิดเผยว่า จากที่ได้ดำเนินการทางคดีมาอย่างต่อเนื่องนั้น พบว่านอกจาก 17 สายเรือที่มีความเกี่ยวข้องกับการนำเข้าหมูเถื่อนดังกล่าว ยังมีอีก 2 สายเรือ รวมทั้งหมด 19 สายเรือ ซึ่งหลังจากนี้เราจะออกหมายเรียกพยาน 2สายเรือให้เข้าชี้แจงต่อไป สิ่งที่สำคัญคือเราต้องการหาตัวผู้กระทำความผิดและผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนได้กระจายกำลังเข้าตรวจค้น 11 บริษัท(ชิปปิ้งเอกชน) ตามสถานที่ต่างๆทั่วกรุงเทพมหานคร ลพบุรี และนครปฐม เนื่องจากเป็นบริษัทที่มีชื่อในการสั่งสินค้าซากสุกรเข้ามาในไทย ภายหลังการตรวจค้นพบว่าเป็นบริษัทขนาดเล็ก บางบริษัทก็ปิดร้างลง อย่างไรก็ตาม จากการขยายผลเราเชื่อว่าจะมีผู้บงการหรือนายทุนอยู่เบื้องหลังแน่นอน และบางส่วนจาก 11 ชิปปิ้งเอกชนเหล่านี้ เราได้ออกหมายเรียกพยานไปแล้ว ทั้งนี้ ดีเอสไอต้องการสืบสวนขยายผลไปสู่เจ้าของขบวนการที่แท้จริง เนื่องจาก 11 บริษัทที่เราได้ไปตรวจค้นมานั้น ไม่น่าจะเป็นผู้สั่งการ
พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวอีกว่า จากการขยายผลเรายังพบว่ามีอีก 2 บริษัทที่อยู่ทางภาคใต้ มีส่วนเกี่ยวข้องในขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนครั้งนี้ และขณะนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสารของ 2 บริษัทนี้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าว่าบริษัทเป็นของใคร ตั้งอยู่ที่ไหน มีวัตถุประสงค์จัดตั้งเพื่ออะไร และมีใครอยู่ในโครงสร้างบริษัทบ้าง
สำหรับการขนย้ายของกลางทั้งหมด 161 ตู้จากท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี มายังพื้นที่จังหวัดสระแก้ว คาดว่าจะใช้เวลา 4 วัน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีหมูเริ่มเน่าแล้ว 4 ตู้ และใน 4 ตู้นี้จะมีรถเผาของกรมปศุสัตว์ที่จะดำเนินการเผาทิ้งที่ท่าเรือแหลมฉบัง เพราะถ้าหากขนย้ายไปฝังกลบด้วยก็จะเสี่ยงต่อการเกิดโรคระบาดได้
ซึ่งในส่วนการทำลายของกลางนั้น เจ้าของตู้ที่แท้จริง 19 สายเรือ หรือบริษัทว่าจ้าง 19 สายเรือ จะต้องเป็นผู้ดำเนินการออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ซึ่งบริษัทสายเรือส่วนใหญ่ก็ได้ช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายดังกล่าว แล้วก็เป็นเรื่องของกรมปศุสัตว์ที่จะต้องไปเรียกค่าเสียหายจากผู้กระทำความผิดด้วย
ด้าน ร.ต.อ.ชาญณรงค์ ระบุว่า เรารับคดีหมูเถื่อนมาเป็นคดีพิเศษเพราะเกษตรกรไทยได้รับผลกระทบอย่างมาก เพราะราคาหมูหน้าฟาร์มที่สามารถจำหน่ายได้ เป็นราคาที่เขาขาดทุนอยู่ประมาณ กิโลกรัมละ 30 บาท และในหนึ่งวันคนไทยทั่วประเทศบริโภคเนื้อหมูอยู่ที่ 5 ล้านกิโลกรัม ดังนั้น เกษตรกรไทยจะเสียหายวันละ 150 ล้านบาท และจากการปฏิบัติการอย่างเข้มข้นเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรไทย ขณะนี้ราคาหมูสดหน้าฟาร์มกับราคาที่เขาขาดทุน ตอนนี้ลดลงเหลือส่วนต่างของต้นทุนกับที่เขาขายได้ อยู่ที่ประมาณ 12 บาท เราช่วยให้พวกเขาขาดทุนน้อยลง แต่วัตถุประ สงค์คือต้องการให้ราคาเนื้อหมูกลับมาสู่ภาวะความจริง ในเมื่อเกษตรกรไทยเลี้ยงสุกร ก็ต้องขายได้ราคาบ้าง ไม่ใช่ขาดทุนสะสม
ร.ต.อ.ชาญณรงค์ ระบุถึงการสืบสวนขยายผลเรื่องเส้นทางการเงินว่า ในวันจันทร์ที่ 28 ส.ค.นี้ เราได้เชิญเจ้าหน้าที่ ปปง. มาร่วมตรวจสอบเส้นทางเงิน เพราะการนำเข้าหมูเถื่อนนั้น ต้องใช้เงินในการสั่งซื้อเนื้อหมูที่ต่างประเทศ แต่ในระหว่างนี้เราพบผู้เกี่ยวข้องในเส้นทางการเงิน พบว่ามีการโอนเงินจากบุคคลใดบ้างเพื่อไปชำระค่าเนื้อหมูปลายทาง ซึ่งตัวบุคคลที่ทำธุรกรรมทางการเงิน มีทั้งที่อยู่ในโครงสร้างของบริษัท รับหน้าที่เป็นกรรมการบริษัท และมีทั้งที่อยู่นอกโครงสร้างของบริษัทด้วย
"ซึ่งการที่ตัวบุคคลใดอยู่นอกโครง สร้างบริษัทและไม่ได้มีอำนาจในการทำธุรกรรม เราต้องหาสาเหตุว่าทำไมพวกเขาถึงมีเส้นทางการเงินเกิดขึ้น ส่วนจำนวนเงินที่พบว่ามีการโอนไปสั่งซื้อหมูนั้นค่อนข้างมีจำนวนมาก เบื้องต้นพบช่วงปีที่ผิดสังเกต คือ ปี 64-65 เพราะเป็นปีที่เกิดการนำเข้าเนื้อสุกรแช่แข็ง เนื่องจากมีการนำเข้าที่เยอะผิดปกติ ทั้งนี้ พบบริษัทนำเข้า 10 แห่งที่มีเส้นทางเงินพัวพันในการสั่งซื้อหมู และแต่ละบริษัทก็มีกรรมการผู้มีอำนาจประมาณ 2-3 ราย ที่มีธุรกรรมทางการเงิน ดังนั้น แต่ละบริษัทจะมีผู้เกี่ยวข้องในเรื่องการทำธุรกรรมไม่ต่ำกว่า 5 ราย เบื้องต้นเกินหลักสิบล้านบาทแน่นอนสำหรับ 470,000 กิโลกรัม หรือ 161 ตู้คอนเทเนอร์"ร.ต.อ.ชาญณรงค์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี