วันที่ 29 สิงหาคม 2566 จากกรณีเกิดเหตุสลด พ่อใช้มีดทำร้ายลูกและภรรยา ในบ้านพักย่านสมุทรปราการ มีผู้เสียชีวิตทันที 3 ราย เหตุจากเป็นหนี้สินค้ำประกันเงินกู้ และภรรยาถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นแอปฯ เงินกู้ หลอกโอนเงิน 1.7 ล้านบาท ทำให้ผู้เป็นพ่อเกิดความเครียด จนก่อเหตุฆ่าตัวตายตาม อาการยังสาหัส
ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.ฐายุฏฐ์ จันทร์ถาวร รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยความคืบหน้าทางคดีว่า จากการตรวจสอบขณะนี้พบว่า ขบวนการดังกล่าวได้โอนเงินไปยังบัญชีม้า 2 แถว ทั้งหมดจำนวน 8 บัญชี มีคนร้ายที่เป็นเจ้าของบัญชี 5 คน ที่เป็นบัญชีม้า แถวที่ 1 ขณะนี้ออกหมายจับแล้ว อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัว และตรวจสอบเส้นทางการเงินที่โอนจากบัญชีแถวที่ 1 ไปยังแถวที่ 2 ซึ่งเบื้องต้นพบว่า เงินจำนวน 1.7 ล้านบาทนั้นได้มีการถอนเป็นเงินสดออกไปแล้วบางส่วน ซึ่งขณะนี้ตำรวจทราบปลายทางของเงินที่โอนไปจำนวนดังกล่าวแล้ว
นอกจากนี้ ตำรวจภูธรสมุทรปราการและตำรวจภูธรภาค 1 อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และประสานไปยังธนาคาร เพื่อติดตามเส้นทางการเงินของกลุ่มคนร้ายที่เหลือต่อไป พร้อมเตือนประชาชนก่อนตัดสินใจกู้เงินออนไลน์ผ่านแอปฯ ต่างๆ ให้ตรวจสอบรายชื่อบริษัทเงินกู้กับธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ พร้อมย้ำว่า การกู้เงินทุกรูปแบบจะไม่มีการให้ผู้กู้โอนเงินไปให้ผู้ปล่อยกู้ก่อน หากประชาชนเจอแอปฯ เงินกู้ใดให้โอนเงินไปให้ผู้ปล่อยกู้ก่อน ให้คิดไว้ก่อนว่าเป็นแอปฯ ปลอมของมิจฉาชีพ
ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 28 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ญาติผู้เสียชีวิตเข้าแจ้งความ โดยอ้างว่าญาติผู้ก่อเหตุไม่ทำตามข้อตกลง เรื่องสถานที่ตั้งศพบำเพ็ญกุศล แต่จากการที่ญาติทางฝ่ายผู้ก่อเหตุนำศพไป จ.กำแพงเพชร พบว่า เป็นความยินยอมของน้องสาวในสายเลือดของผู้ตาย ที่ให้ความยินยอมญาติทางฝ่ายผู้ก่อเหตุ โดยขณะนี้ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดในเขต อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร
ขณะที่หน่วยราชการที่เข้าช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิตปิดรับบริจาคแล้ว หลังมียอดเงินเข้าบัญชีสูงกว่า 2,300,000 บาท โดยทางโรงเรียนจะชี้แจงเรื่องเงินบริจาคต่อไปหลังเสร็จจากพิธีศพ ส่วนเรื่องเงินจะไม่ให้ญาติทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อตัดปัญหา อาจจะนำไปทำบุญกับโรงพยาบาล หรืออื่นๆตามวัตถุประสงค์ที่สมควร โดยจะมีการแถลงจากทางโรงเรียนอีกครั้ง
ขณะที่ช่วงสายวันนี้ (29 สิงหาคม 2566) นางนิภาลัย (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี พร้อมเพื่อนร่วมงานผู้ตาย 7 คน เดินทางเข้าแสดงความบริสุทธิ์กับทางเจ้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว ว่า พวกตนเป็นเพียงเพื่อนร่วมงานที่ให้ยืมเงินเท่านั้น ไม่ใช่กลุ่มเงินกู้นอกระบบ
นางนิภาลัย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่านมา น.ส.วิภาพร ผู้ตาย ได้ส่งข้อความมาขอยืมเงินตนว่าติดปัญหาเรื่องบ้าน ขอยืมเงิน 300,000 บาท แต่ตนให้ยืมไปแค่ 100,000 บาท ส่วนคนอื่นก็แสนสองแสน สูงสุดคือพี่ที่ทำงานอีกคนที่โดนยืมไป 900,000 บาท รวมทั้งหมดที่มาวันนี้ 1,39,0000 บาท ส่วนตัวตนไม่ได้ทำสัญญาเงินกู้ ที่ให้ยืมเพราะรู้จักกันมานานเป็นสิบปี หลังจากที่ให้ยืมไปแล้ว ทางผู้ตายก็โทรมาพูดคุยเรื่องที่ถูกแอปฯโกงไป ตนก็มีทวงถามไปว่าจะใช้เงินคืนตนอย่างไร ทางผู้ตายก็ร้องไห้ขอโทษตน
ด้าน พล.ต.ต พัลลภ แอร่มหล้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า ล่าสุดได้ออกหมายจับแล้ว 6 ราย เป็นบัญชีม้าแถวแรกที่ผู้ตายโอนไปให้แก๊งมิจฉาชีพ จำนวน 5 ราย ส่วนอีกรายเป็น หมายจับนายสาณิช ผู้ก่อเหตุ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตรตรองไว้ก่อน ส่วนรายละเอียดอยู่ระหว่างการสอบพยานเพิ่มเติมให้รอการแถลงอีกครั้ง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : พ่อคว้ามีดอีโต้ฆ่าลูกเมียดับ 3 ศพ เครียดค้ำประกันถูกยึดบ้าน-เมียเจอแก๊งคอลเซ็นเตอร์ลวง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี