วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
กรมวิทย์ฯยันไทยพบสายพันธุ์ HK.3 จริง ยังไม่มีหลักฐานเรื่องความรุนแรงเพิ่มขึ้น

กรมวิทย์ฯยันไทยพบสายพันธุ์ HK.3 จริง ยังไม่มีหลักฐานเรื่องความรุนแรงเพิ่มขึ้น

วันพุธ ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2566, 16.37 น.
Tag : กรมวิทย์ฯ สายพันธุ์ HK.3 โควิด
  •  

กรมวิทย์ฯ ยืนยันไทยพบสายพันธุ์ HK.3 จริง -ยังไม่มีหลักฐานเรื่องความรุนแรงเพิ่มขึ้น ทั่วโลกยังพบผู้ติดเชื้อน้อย

วันนี้ (30 สิงหาคม 2566)  ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข  จังหวัดนนทบุรี  นายแพทย์ศุภกิจ  ศิริลักษณ์  อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  พร้อมด้วย นายแพทย์บัลลังก์ อุปพงษ์ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ ดร.นายแพทย์อาชวินทร์ โรจนวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข แถลงข่าวอัพเดทสถานการณ์การเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด 19 ในประเทศไทย และโอมิครอน HK.3 


นายแพทย์ศุภกิจ กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมกับ เครือข่ายห้องปฏิบัติการ ติดตามการเปลี่ยนแปลง สายพันธุ์เชื้อไวรัสโควิด 19 พบเชื้อไวรัสมีการกลายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง สำหรับสายพันธุ์ที่องค์การอนามัยโลกติดตามใกล้ชิด ในปัจจุบัน ได้แก่ สายพันธุ์ที่เฝ้าระวัง หรือ Variants of Interest (VOI) 3 สายพันธุ์ ได้แก่ XBB.1.5* XBB.1.16* และ EG.5* 
สายพันธุ์ที่ต้องจับตามอง หรือ Variants under monitoring (VUM) 7 สายพันธุ์ ได้แก่ BA.2.75* BA.2.86 CH.1.1* XBB* XBB.1.9.1* XBB.1.9.2* และ XBB.2.3*

สถานการณ์ภาพรวมทั่วโลกจากฐานข้อมูลกลาง GISAID รอบสัปดาห์ที่ 26 ถึง 30 (เดือนกรกฎาคม 2566) พบ XBB.1.16 และ EG.5 เป็นสายพันธุ์ในกลุ่ม VOI ที่พบมากที่สุด ทั้งสองสายพันธุ์มีสัดส่วน 21.1% โดยมีรายงานพบ XBB.1.16 จาก 101 ประเทศ และพบ EG.5 จาก 50 ประเทศ โดย EG.5 มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นถึงสองเท่าในรอบหนึ่งเดือน ปัจจุบันยังไม่พบมีรายงานการเพิ่มความรุนแรงของโรค อย่างไรก็ตามจากความได้เปรียบในการเติบโต และคุณลักษณะ หลบภูมิคุ้มกัน จึงมีความเป็นไปได้ว่า EG.5 จะเพิ่มมากขึ้น และกลายเป็นสายพันธุ์หลักในระดับประเทศหรือทั่วโลก ในขณะที่ XBB.1.5 พบรายงานจาก 121 ประเทศทั่วโลก ซึ่งมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง

สำหรับประเทศไทย สถานการณ์โดยรวมในปัจจุบันพบว่า XBB.1.16 เป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาด โดยในรอบสัปดาห์ ที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 14 – 27 สิงหาคม 2566 ผลการถอดรหัสพันธุกรรมเชื้อก่อโรคโควิด 19 จำนวน 116 ราย พบส่วนใหญ่ 96.55% เป็นสายพันธุ์ลูกผสมกระจายทุกเขตสุขภาพ สายพันธุ์ XBB.1.16* พบสัดส่วนมากที่สุด (38.79%) ถัดมาคือ XBB.1.9.1* (14.66%), XBB.2.3* (16.38%), XBB* (10.34%) และ EG.5.1* พบสัดส่วน 6.90% (ในประเทศไทยพบระหว่างเดือนเมษายน - กรกฎาคม 2566 จำนวน 8 ราย และในเดือนสิงหาคม 2566 พบเพิ่มจำนวน 7 ราย ปัจจุบันพบสายพันธุ์ EG.5.1* แล้วจำนวน 15 ราย) ในขณะที่ XBB.1.5* พบ 2.59% และพบสายพันธุ์ XBB.1.9.2* อื่นๆ นอกเหนือจาก EG.5.1* 6.90% ข้อมูลจากห้องปฏิบัติการแสดงให้เห็นว่าสัดส่วนของ EG.5.1* มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สำหรับ XBB.1.5* พบในสัดส่วนลดลง

นายแพทย์ศุภกิจ กล่าวต่อว่า สำหรับสายพันธุ์ HK.3 (XBB.1.9.2.5.1.1.3) มีต้นตระกูลมาจาก EG.5.1 มีการกลายพันธุ์บนส่วนหนามสองตำแหน่งติดกันคือ L455F และ F456L ในภาพรวมทั่วโลก มีรายงานพบ HK.3 จำนวน 127 ราย จาก 12 ประเทศ คือ ออสเตรเลีย แคนาดา จีน เดนมาร์ก เยอรมัน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ สเปน สวีเดน สหรัฐอเมริกา และในประเทศไทย พบไวรัสที่มีการกลายพันธุ์ใน 2 ตำแหน่งดังกล่าวทั้งหมด 3 ราย แต่มีเพียง 2 รายที่จัดเป็น HK.3 โดยผู้ติดเชื้อทั้ง 2 ราย เป็นครอบครัวเดียวกัน ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้รายงานฐานข้อมูลกลาง GISAID เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2566

สำหรับข้อสงสัยเกี่ยวกับความได้เปรียบในการเติบโตของ HK.3 ที่มีความสามารถในการแพร่ได้เร็วกว่า XBB.1.16 ที่เป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดของประเทศไทยในปัจจุบันถึง 95% และหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้มากขึ้น ขอขี้แจงว่า การคำนวณ % อาจมีความคลาดเคลื่อน เนื่องจากจำนวนข้อมูลมีจำกัด ประกอบกับทั่วโลกมีรายงานตรวจพบ HK.3 เพียง 127 ราย เท่านั้น จาก 12 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก และยังไม่มีหลักฐานที่ส่งผลต่อความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และเครือข่ายห้องปฏิบัติการจะเฝ้าระวังและติดตามอย่างใกล้ชิด

ส่วนสายพันธุ์ BA.2.86 เป็นสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอน BA.2 และองค์การอนามัยโลกให้เป็นสายพันธุ์ที่ต้องจับตามอง (VUM) หากนำไปเปรียบเทียบกับ XBB.1.5 และ XBB.1.16 ที่เป็นสายพันธุ์หลักระบาดในปัจจุบัน จะพบความแตกต่างถึง 36 ตำแหน่ง โดยมีรายงานในฐานข้อมูล GISAID แล้ว 21 ราย พบใน 7 ประเทศคือ เดนมาร์ก สวีเดน โปรตุเกส อิสราเอล สหรัฐอเมริกา แอฟริกา และอังกฤษ ขณะนี้ยังไม่พบในประเทศไทย ขณะที่ Dr.Leshan Wannigama และทีมนักวิจัย จุฬาฯ ได้ถอดรหัสพันธุกรรมตัวอย่างไวรัสจากน้ำเสียที่เก็บในกรุงเทพ มหานคร ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา ในเฉพาะส่วน S-Gene (ไม่ใช่ทั้งตัวไวรัส) แล้วนำไปเทียบกับ BA.2.86 ทั้ง 9 ตัวอย่างที่รายงานใน GISAID พบว่าสอดคล้องกันทั้งนี้ ยังไม่พบข้อมูลที่บ่งชี้ว่ามีการเพิ่มความรุนแรง หลบภูมิคุ้มกันหรือแพร่เร็วขึ้นกว่าสายพันธุ์อื่นแต่อย่างใด

“จึงขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งตระหนกตกใจเกินไป สำหรับเชื้อไวรัสโควิด 19 กลายพันธุ์เป็นเรื่องปกติขอให้มั่นใจว่า กรมวิทยา ศาสตร์การแพทย์ และหน่วยงานทางการแพทย์ของไทยมีบุคลากร ความรู้ ความสามารถจะสามารถตรวจพบ ได้อย่างแน่นอน ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และเครือข่ายห้องปฏิบัติการ ยังคงเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในผู้ติดเชื้อที่มีอาการรุนแรง หรือเสียชีวิต สำหรับการป้องกันตนเองตามมาตรการสาธารณสุข ยังใช้ได้กับทุกสายพันธุ์” นายแพทย์ศุภกิจ กล่าว

-001

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'หมอธีระ\'เผยแค่อาทิตย์เดียว ป่วยโควิดเข้า รพ.กว่า 8,446 ราย 'หมอธีระ'เผยแค่อาทิตย์เดียว ป่วยโควิดเข้า รพ.กว่า 8,446 ราย
  • กรมวิทยาศาสตร์ฯเผยสายพันธุ์โควิด ที่พบมากสุดในไทย ยันไม่มี\'เดลตาครอน\'ระบาด กรมวิทยาศาสตร์ฯเผยสายพันธุ์โควิด ที่พบมากสุดในไทย ยันไม่มี'เดลตาครอน'ระบาด
  • ‘กสม.’แนะรัฐออกแนวทางเยียวยาสาธารณภัยอย่างทั่วถึง ยกเคสโควิดกลุ่ม‘พนักงานบริการ’ตกหล่น ‘กสม.’แนะรัฐออกแนวทางเยียวยาสาธารณภัยอย่างทั่วถึง ยกเคสโควิดกลุ่ม‘พนักงานบริการ’ตกหล่น
  • ‘หมอยง’เลคเชอร์‘โควิด’เปลี่ยนตามกาลเวลา ปีนี้ยุติแล้ว แต่‘ไวรัส’ยังอยู่ต่อไป ‘หมอยง’เลคเชอร์‘โควิด’เปลี่ยนตามกาลเวลา ปีนี้ยุติแล้ว แต่‘ไวรัส’ยังอยู่ต่อไป
  • ย้อนดู 5 ปี‘โควิด’! หมอยงหวนระลึก 2 ปีแรกของการระบาด ย้อนดู 5 ปี‘โควิด’! หมอยงหวนระลึก 2 ปีแรกของการระบาด
  • ‘โควิด’กลับมาระบาดใหม่ ‘หมอมนูญ’ชี้อย่าตื่นตระหนก รักษาตามอาการหายได้ ‘โควิด’กลับมาระบาดใหม่ ‘หมอมนูญ’ชี้อย่าตื่นตระหนก รักษาตามอาการหายได้
  •  

Breaking News

เซ็กซี่ขยี้ใจ! 'จันจิ จันจิรา'อวดหุ่นสวยแซ่บในชุดบิกินีริมหาด

เปิดเนื้อหาฉบับเต็ม! 'กกต.-DSI'ออกหมายเรียก 53 สว. แจงคดีฮั้ว

'สว.อลงกต'ย้ำชัด!พร้อมไปรับทราบข้อกล่าวหา‘คดีฮั้วเลือกสว.’ ถ้าหมายเรียกออกโดยกกต.

KNU ถล่มทหารเมียนมาอย่างหนัก ทำให้มีผู้ลี้ภัยหนีเข้าไทย 343 คน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved