สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ได้ออก “ระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคัดเลือกและจัดที่ดินให้แก่เกษตรกร การโอนหรือตกทอดทางมรดกสิทธิการเช่าหรือเช่าซื้อ และการจัดการทรัพย์สินและหนี้สินของเกษตรกรผู้ได้รับที่ดิน พ.ศ. 2564” มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค. 2564 กำหนดให้ทายาทของเกษตรกรผู้ได้รับการจัดที่ดินเสียชีวิตมายื่นคำขอรับมรดกสิทธิฯ ตามระเบียบข้อ 22 และ 23 หรือขอรับการจัดที่ดินแทนที่ผู้เสียชีวิตตามข้อ 30 และข้อ 31 ภายในระยะเวลา 1 ปี
ทั้งนี้ มีการกำหนดไว้ในบทเฉพาะกาล ว่า กรณีเกษตรกรผู้ได้รับการจัดที่ดินซึ่งเสียชีวิตก่อนวันที่ระเบียบนี้มีผลบังคับใช้ และทายาทยังไม่ได้มายื่นคำขอภายใน 1 ปี ตามที่ระเบียบกำหนด ให้เริ่มนับวันตั้งแต่วันที่ระเบียบนี้มีผลบังคับใช้และขยายวันไปอีกไม่เกิน 2 ปี จะต้องมายื่นคำขอรับการตกทอดทางมรดกสิทธิ/ขอรับการจัดที่ดินแทนที่ พร้อมทั้งต้องแสดงเหตุผลอันสมควรได้รับการจัดที่ดิน ภายในวันที่ 16 ก.ค. 2566
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ครั้งที่ 3/2566 เมื่อวันอังคารที่ 27 มิ.ย. 2566 ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบให้ “ขยายเวลาในการยื่นขอรับมรดกสิทธิ/การจัดการที่ดินแทนที่ กรณีที่เกษตรกรเสียชีวิต ไปจนถึงวันที่ 15 ก.ค. 2567” อำนวยความสะดวกให้ทายาทเกษตรกรที่ไม่สามารถยื่นคำขอรับการจัดที่ดินแทนที่ได้ทันภายในวันที่ 16 ก.ค. 2566 ลดข้อจำกัดอันเป็นอุปสรรคในการปฏิบัติงาน เช่นเรื่องการจัดการทรัพย์สิน หนี้สินของเกษตรกรผู้เสียชีวิต รวมทั้งเพื่อแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นภายใต้หลักการจัดที่ดินของ ส.ป.ก.
ตามระเบียบดังกล่าว กำหนดให้ทายาทผู้ตาย เช่น สามี ภรรยา บุตร ฯลฯ ของผู้ได้รับการจัดที่ดินจาก ส.ป.ก. ที่ถึงแก่ความตาย เป็นผู้ได้รับการพิจารณาให้ได้รับสิทธิการเช่า การเข้าทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าว ซึ่งในกรณีนี้หากมีทายาทของเกษตรกรเข้ายื่นคำขอต่อ ส.ป.ก.จังหวัด ภายใน 1 ปีนับแต่วันที่เกษตรกรเสียชีวิต ส.ป.ก. จะพิจารณาจัดที่ดินให้แก่ทายาทของเกษตรกรซึ่งมีคุณสมบัติเป็นเกษตรกรก่อน โดยทายาทที่มีคุณสมบัติเป็นเกษตรกรสามารถยื่นคำขอรับมรดกสิทธิ/รับการจัดที่ดินแทนที่ต่อ ส.ป.ก. จังหวัดที่ที่ดินตั้งอยู่ ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่เกษตรกรเสียชีวิต หรือเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 2 ปี หากมีเหตุสมควร
และแม้จะเป็น “ทายาทซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ” แต่หากมีความจำเป็นต้องประกอบอาชีพเกษตรกรรมเพื่อการยังชีพรายดังกล่าว มีความสามารถหรือมีประสบการณ์ในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม รวมทั้งมีคุณสมบัติเป็นเกษตรกรและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่ระเบียบกำหนด ย่อมมีสิทธิได้รับการจัดที่ดินแทนที่เกษตรกรผู้เสียชีวิตได้เช่นกัน โดยสำหรับ “ช่องทางการยื่นคำขอ” มีดังนี้ 1.ส.ป.ก.จังหวัด ที่ที่ดินตั้งอยู่ กับ 2.เว็บไซต์ศูนย์บริการประชาชนออนไลน์ ส.ป.ก. (https://servicecenter.alro.go.th/)
หากไม่มีทายาทยื่นคำขอ หรือทายาทไม่มีคุณสมบัติตามที่ระเบียบกำหนด ส.ป.ก. จะนำที่ดินนั้นกลับมาจัดให้แก่เกษตรกรรายอื่นต่อไป!!!
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี