เปิดเนื้อหาคำสั่ง‘รักษาราชการแทน ผบก.ทล.’สะบัดปากกาตั้งกรรมการสอบ‘ตำรวจทางหลวง’ร่วมงานเลี้ยง‘กำนันนก’ ก่อนเกิดเหตุ‘ไอ้หน่อง’ยิงสารวัตรตำรวจทางหลวง ตีกรอบภายใน 20 วัน รู้ผล เน้นประเด็น เหตุใดเพิกเฉยจับกุมปล่อยคนร้ายหนี
8 กันยายน 2566 ความคืบหน้ากรณีนายธนัญชัย หรือ “หน่อง ท่าผา” อายุ 45 ปี ลูกน้องของ “กำนันนก” ผู้กว้างขวางใน จ.นครปฐม ก่อเหตุยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. กลางงานเลี้ยงในบ้านพักของ “กำนันนก” จนถึงแก่ชีวิต กระสุนยังโดน พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล. บาดเจ็บ ภายหลัง “กำนันนก” ขอมอบตัว ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นผู้บังคับบัญชาระดับสูงของ ตร.ได้มีคำสั่งสอบ 21 นายตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ รวมทั้งทาง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รรท.ผบก.ทล. ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงข้าราชการตำรวจในสังกัด บก.ทล. (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : หลานคนเดียวขอไม่ได้!เปิดไทม์ไลน์ลูกน้อง‘กำนัน’คนดัง ยิงดับสารวัตรทางหลวง)
มีรายงานว่าในรายละเอียดคำสั่งดังกล่าวทาง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รรท.ผบก.ทล. ลงนามคำสั่ง กองบังคับการตำรวจทางหลวงที่ 168/2566 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีใจความว่า ตามที่ มีข้าราชการตำรวจทางหลวงหลายนาย ได้รับเชิญจากนายปวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก ให้ไปร่วมรับประทานอาหารเย็น ณ ลานหน้าบ้านเลขที่ 50 หมู่ 2 ตำบลตาก้อง อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม ในระหว่างนั้น นายปวีณ จันทร์คล้าย ได้พูดคุยกับ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง และเกิดความไม่พอใจ มีปากเสียงกัน หลังจากนั้นนายธนัญชัยหรือหน่อง หมั่นมาก ซึ่งเป็นลูกน้องของนายปวีณ จันทร์คล้าย เดินเข้ามาประชิดตัวแล้วใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงไปที่ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หลายนัดจนได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา และกระสุนปืนบางนัดยังไปถูก พ.ต.ท.วศิน พันปี ได้รับบาดเจ็บอีกด้วย ซึ่งเบื้องต้นรับฟังข้อเท็จจริงได้ว่า ในขณะเกิดเหตุมีข้าราชการตำรวจทางหลวงหลายนาย อยู่ในที่เกิดเหตุ
โดยที่การกระทำของนายธนัญชัย หมั่นมาก นั้น ถือได้ว่าเป็นความผิดซึ่งหน้าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 78 ซึ่งบัญญัติให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจทำการจับกุม แต่ข้าราชการตำรวจดังกล่าว กลับปล่อยให้ผู้กระทำผิดนั้นหลบหนีไปได้ ยังความสงสัยแก่ประชาชนทั่วไปว่า เหตุใดเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ จึงไม่ดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดตามกฎหมาย ซึ่งอาจกระทบต่อภาพลักษณ์การปฏิบัติงานของตำรวจทางหลวง นั้น
เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว รวมถึงเพื่อให้เกิดความชัดแจ้ง และความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกกล่าหา อาศัยความตามหนังสือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง แนวทางและขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีร้องเรียนข้าราชการตำรวจ พนักงานราชการและลูกจ้างในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ประกอบด้วยบุคคล ดังต่อไปนี้ พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ ปีตะบุตร รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เป็นประธานกรรมการ , พ.ต.อ.ชวลิต ชวลิตพงศ์พันธุ์ ผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจทางหลวงเป็นกรรมการ และ พ.ต.ท.รุ่งวิทย์ ขวัญมาสารวัตร ฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจทางหลวง เป็นกรรมการและเลขานุการ โดยให้ดำเนินการเกี่ยวกับการตรวจสอบข้อเท็จจริง อย่างเคร่งครัด และรายงานให้ทราบภายใน 20 วัน
อนึ่ง ถ้าคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เห็นว่ากรณีมีมูลว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยในเรื่องอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในคำสั่งนี้ หรือกรณีที่การตรวจสอบข้อเท็จจริงพาดพิงไปถึงข้าราชการตำรวจผู้อื่นและ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พิจารณาในเบื้องต้นแล้วเห็นว่า ข้าราชการตำรวจผู้นั้นมีส่วนร่วมหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำในเรื่องที่ตรวจสอบนั้นอยู่ด้วย ให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงทำการตรวจสอบต่อไป แล้วรายงานให้ทราบโดยเร็ว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี