ผู้บังคับบัญชา ญาติมิตร ข้าราชการ และบุคคลที่เคยทำงานใกล้ชิดร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ"พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว"สารวัตรทางหลวงถูกยิงเสียชีวิต ท่ามกลางความโศกเศร้า

11 ก.ย.66  ที่ศาลามีนะนันทร์ 2 ศาลา 11 วัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน ครอบครัว รวมถึงญาติมิตรข้าราชการ และบุคคลที่เคยทำงานใกล้ชิดกับ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ “สารวัตรศิว” หรือ สารวัตรแบงค์ ทยอยกันเดินทางมาฟังเทศน์และร่วมฟังสวดพระพุทธมนต์ มาติกา-บังสกุล และร่วมกันถวายภัตตาหารเพล รวมถึงอยู่ร่วมส่งสารวัตรแบงค์

ส่วนบริเวณ เมรุ 1 ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพได้ตกแต่งเป็นไปอย่างเรียบง่าย ใช้ผ้าและดอกไม้และผ้า โทนสีน้ำเงิน-ขาว เป็นหลัก ในการนี้ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ประธานผ้าไตรบังสุกุล ทอดหน้าหีบศพ

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มเพื่อนนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 67 เพื่อนร่วมรุ่น พ.ต.ต.ศิวกร ร่วมกันขับร้องเพลงสน สามพราน ต่อหน้าศพสารวัตรศิวกร เพื่อสื่อให้ สว. ได้ยินว่าเพื่อนกันเป็นแล้วไม่หาย เป็นเพื่อนกันตลอดไป ทันทีที่ขับร้องฝนก็โปรยปรายลงมา ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่มีท่าทีว่าฝนจะตกแต่อย่างใด บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า มีเพื่อนข้าราชการตำรวจบางนายถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

เมื่อครอบครัวอ่านประวัติของสารวัตรศิวกร และยิ่งรู้ว่าสารวัตรศิวกรถูกยิงเสียชีวิต เพราะไม่ยอมรับสินบนของกลุ่มผู้มีอิทธิพล ทุกคนต่างเชิดชูและพูดถึงตำรวจน้ำดีท่านนี้ และในเวลา 13.00 น. ได้มีพิธีพระราชทานเพลิงศพ โดยมี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานนำข้าราชการตำรวจในการวางดอกไม้จันทน์ จากนั้นเพื่อนข้าราชการตำรวจทยอยเดินขึ้นวางดอกไม้จันทน์ ซึ่งพิธีถูกจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ

สำหรับประวัติของสารวัติศิวกร เริ่มรับราชการตำรวจ ตน.สารวัตสืบสวน ที่ สน.สามเสน ก่อนย้ายมาเป็นสารวัตรสืบสวน กอง 1 กองบังคับการปราบปราม เป็นนายตำรวจฝีมือดี ซื่อตรง เป็นลูกน้องที่ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ไว้วางใจ ถูกส่งไปแก้ปัญหาเรื่องส่วยรถบรรทุกในพื้นที่ทางหลวง 2 ก่อนถูกยิงเสียชีวิต