หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงหัวหิน เผยเจอปัญหากระแสลมแรง ส่งผลให้การปฏิบัติการขึ้นบินทำฝนเทียมเมฆแตกกระจายตัว ทำฝนยากมาก ขณะที่หลายอำเภอของจังหวัดต่างๆ ทำหนังสือขอฝนช่วยภัยแล้ง ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก
วันนี้ (12 ก.ย.66) นายอนุรุจน์ อัครพงศ์ตระกูล หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ ซึ่งมีพื้นที่ดูแลครอบคลุมถึงพื้นที่ จ.ราชบุรี เปิดเผยปัญหาการทำฝนเทียมช่วงนี้ว่า ตอนนี้มีปัญหาหลักๆ คือลมที่จะขึ้นบินปฏิบัติการนั้นจะมีเงื่อนไขสภาพอากาศอยู่ว่า ความชื้นสัมพัทธ์ต้องได้ 60 ความเร็วลมต้องไม่เกิน 18 น็อต แต่ช่วงนี้คาดว่าน่าจะมีร่องความกดอากาศอยู่บริเวณภาคกลาง ภาคอีสาน ทำให้มวลอากาศที่ถูกดูดขึ้นไปกลายเป็นลมที่ได้จากปฏิบัติการเกิน 18 น็อต ส่วนใหญ่ช่วงนี้อยู่ที่ประมาณ 25 - 35 น็อต จึงส่งผลให้ไม่สามารถขึ้นบินปฏิบัติการได้ เพราะจะค่อนข้างเป็นอันตรายต่อนักบิน และผู้ปฏิบัติหน้าที่บนอากาศยาน
ส่วนช่วงนี้มีฝนตกโปรยปรายลงมาไม่มากส่วนใหญ่ จะเป็นฝนที่ตกลงมาจากเมฆชั้นกลาง แต่ที่ทำฝนเทียมจะเป็นเมฆชั้นต่ำเพื่อให้เติบโตเป็นเมฆชั้นกลางและชั้นสูงต่อไป แต่กรณีแบบนี้หากสังเกตแล้วจะเป็นฝนที่ตกไม่หนัก เพราะเป็นเมฆชั้นกลางลักษณะเป็นเมฆแผ่น ไม่ใช่ลักษณะเป็นก้อน
ขณะนี้สิ่งที่ทำได้คือต้องดูสภาพอาการอย่างเดียว จากการคาดการณ์คาดว่าน่าจะเป็นช่วงวันศุกร์หรือวันเสาร์ที่จะถึงนี้น่าจะขึ้นบินปฏิบัติการได้อีกครั้ง ซึ่งมีการประชุมพูดคุยกับส่วนที่เกี่ยวข้องของพื้นที่ราชบุรีแล้วว่าจะให้ราชบุรีเป็นพื้นที่เป้าหมายหลักอาจจะให้ราชบุรีขึ้นบินได้ลำละ 2 - 3 เที่ยวโดย 1 วัน ใช้เครื่องบินได้ประมาณ 4 เที่ยว ส่วนเมื่อวานมีการพูดคุยกับผู้ใหญ่ได้แจ้งว่าตั้งแต่พื้นที่ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ก็ได้รับผลกระทบเท่ากันหมดเลย ขณะที่ภาคใต้มีหน่วยปฏิบัติการแค่ 2 หน่วย คือ หน่วยนครศรีธรรมราช และหน่วยหัวหิน ซึ่งระยะทางค่อนข้างไกล จึงเป็นอุปสรรคในการย้ายหน่วยฯ คือ ภาคพื้นดินไม่พร้อม และถ้าเกิดสภาพอากาศเป็นแบบนี้ก็ขึ้นบินไม่ได้อยู่ดี อีกทั้งพื้นที่โซนประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรีก็ยังต้องการฝนเหมือนกัน สมมุติว่าย้ายหน่วยมาราชบุรี ก็จะมีปัญหาเรื่องระยะทางมาพื้นที่ประจวบเป็นระยะไกลเหมือนกัน
นายอนุรุจน์ อัครพงศ์ตระกูล หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้ใช้งบของรัฐบาลกลาง เพราะเป็นเงินที่ขอเพิ่มเติมมา ส่วนงบฝนหลวงโดยตรงหมดไปตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาแล้ว สำหรับงบของกรมฝนหลวงคงต้องรอ คาดว่าน่าจะประมาณปลายเดือนตุลาคม ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ทำหนังสือไปที่กรมฝนหลวงขอรับการสนับสนุนฝนหลวงในพื้นที่เช่นกัน จึงเป็นอุปสรรคหลายอย่างทั้งอุปสรรคการบิน เรื่องสภาพอากาศ เรื่องความเร็วลม ซึ่งหลักๆอุปสรรคคือ ความเร็วลม จากที่ผ่านมาที่สังเกตมาหลายปีพบว่าลมไม่เคยแรงเหมือนปีนี้ ลมอยู่พื้นก็แรง ลมปฏิบัติการก็แรงอีก จึงมีผลให้เมฆชั้นกลางมองเป็นฝ้าลักษณะสีออกเทาแตกฟุ้งบังทัศนียภาพ บังก้อนเมฆระดับล่างหมด ทำให้แสงแดดส่องผ่านไปถึงก้อนเมฆช้าลง ปัญหาตอนนี้ที่พบทุกจังหวัดที่อยู่ติดชายแดนคือ สภาพพื้นที่ติดภูเขาทำให้ขวางฝน ขวางเมฆ แต่ก็จะพยายามขึ้นบินปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่ที่กำลังประสบปัญหาเดือดร้อนอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางพื้นที่ตำบลทุ่งหลวง อ.ปากท่อ ซึ่งเกิดปัญหาน้ำแล้ง ภัยแล้ง ขาดน้ำอุปโภค บริโภค ทำการเกษตรทุกปี กำลังได้รับความเดือดร้อนเพิ่มอีก 1 อำเภอ ทางนายกเทศมนตรีตำบลทุ่งหลวงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งทำหนังสือขอรับการสนับสนุนทำฝนเทียมช่วยเหลือประชาชนพร้อมทั้งช่วยเติมแหล่งน้ำทำการเกษตรอ่างเก็บน้ำต่างๆที่อยู่ในพื้นที่อย่างเร่งด่วนแล้ว - 003
ภาพจากแฟ้ม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี