"ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ" ลงพื้นที่นครราชสีมา สั่ง 4 มาตรการเร่งแก้ปัญหาลำตะคองวิกฤต

วันนี้ (3 พ.ค.68) ที่ห้องประชุมพลับพลา อ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พร้อมด้วย ดร.สุรสีห์ กิตติมงคล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำที่อ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว ซึ่งถือเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญต่อภาคเกษตรกรรมและระบบชลประทานในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง โดยมีนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม, นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ ก่อนที่จะได้ประชุมร่วมกับทุกฝ่าย เพื่อหารือแนวทางการบริหารจัดการน้ำในระยะเร่งด่วนและระยะยาว เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 8 นครราชสีมา รายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา (ข้อมูล ณ วันที่ 3 พฤษภาคม 2568) พบว่า ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 4 แห่ง และขนาดกลาง 24 แห่งในจังหวัดนครราชสีมา มีปริมาณน้ำอยู่รวมทั้งสิ้น 411.89 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 33.74 ของความจุอ่างทั้งหมด และมีปริมาณน้ำที่สามารถใช้การได้อยู่ที่ร้อยละ 30.15 ของความจุกักเก็บทั้งหมด ส่วนอ่างเก็บน้ำลำตะคอง ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำหลักของพื้นที่ มีปริมาณน้ำใช้การได้อยู่ที่ 50.40 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น ร้อยละ 16.03 ของความจุ มีปริมาณน้ำที่ใช้การได้ 27.68 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 9.49 ของความจุกักเก็บทั้งหมด ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับวิกฤต โดยเมื่อวานนี้ (2 พ.ค.) มีน้ำไหลเข้าอ่าง 5.032 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีการระบายออก 1.042 ล้านลูกบาศก์เมตร มีแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของปริมาณน้ำกักเก็บเล็กน้อย แต่ยังจำเป็นต้องอาศัยฝนจากฤดูฝนที่จะมาถึง เพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านน้ำในระยะต่อไป  

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กล่าวว่า ภาพรวมสถานการณ์น้ำในจังหวัดนครราชสีมาอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย โดยมีปริมาณน้ำต้นทุนเฉลี่ย 32% อย่างไรก็ตาม เขื่อนลำตะคองเป็นจุดที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากมีปริมาณน้ำต้นทุนเพียง 16% ซึ่งแม้จะยังอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย แต่ก็ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมมาตรการทั้งระยะสั้นและระยะยาวเพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำ โดยเฉพาะในพื้นที่เปราะบางที่อาจมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอ  

นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า ปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนขณะนี้อยู่ที่ 16% ซึ่งถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย และคาดการณ์ว่าในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้ ปริมาณน้ำฝนจะดี และน่าจะมีปริมาณน้ำเข้าสู่เขื่อนในระยะที่ปลอดภัย ถึงแม้ว่าจะมีปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนลำตะคองอยู่ที่ 16% ซึ่งเป็นจุดที่น่าเป็นห่วงและต้องจับตาดูอย่างระมัดระวัง รัฐบาลได้เตรียมแผนสำรองไว้แล้ว ได้แก่ โครงการทำฝนหลวง เพื่อรองรับกรณีที่ฝนไม่ตกตามที่คาดการณ์ไว้ หรือเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง  

นอกจากนี้ ตนเองยังได้สั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 4 ข้อ ได้แก่ 1. สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ให้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมชลประทาน จังหวัด เพื่อวางแผนบูรณาการป้องกันสถานการณ์ล่วงหน้า โดยเฉพาะในพื้นที่เปราะบาง 2. กรมชลประทาน ให้บริหารจัดการน้ำต้นทุนในเขตพื้นที่ทั้งหมด โดยภาพรวมของจังหวัดอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย (32%) แต่ต้องเฝ้าระวังเขื่อนลำตะคองที่มีเพียง 16% 3. กรมฝนหลวง ให้เตรียมดำเนินการทำฝนเทียม และ 4. จังหวัดนครราชสีมา กรมชลประทาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ดำเนินการซ่อมแซมฝาย อ่างเก็บน้ำ และแหล่งกักเก็บน้ำต่างๆ ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานและรองรับปริมาณน้ำ  

สำหรับโครงการระยะยาว มีการนำเสนอโครงการผันน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มายังลำตะคอง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจออกแบบ หากมีความจำเป็นและสามารถแก้ไขปัญหาได้ก็จะนำเสนอต่อรัฐบาลต่อไป  

นายประเสริฐฯ ยังได้ยืนยันความมั่นใจสำหรับประชาชนว่า พี่น้องประชาชนใน 5 อำเภอของโคราชมั่นใจได้ว่าจะมีน้ำประปาใช้แน่นอน เนื่องจากมีแผนสำรองไว้แล้ว และขณะนี้ฝนก็เริ่มตกแล้ว ซึ่งถือเป็นการเข้าสู่ฤดูฝน ทั้งนี้ รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชน และนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้เข้ามาดูแล เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากฝนทิ้งช่วงหรือภาวะขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค