ฮือฮา! "หมอนักพัฒนา" ลาออกรองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี และ ผอ.รพ.ด่านมะขามเตี้ย ลงสู่สนามการเมืองท้องถิ่นชิงเก้าอี้นายก อบจ.กาญจนบุรี มั่นใจชนะการเลือกตั้ง "นายก อบจ.กาญจน์" พร้อมดันโรงพยาบาลสู่ระดับพรีเมียม คนจนคนรวยต้องเสมอภาคเท่าเทียม

วันนี้ (15 ก.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเปิดรับสมัครรับการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) กาญจนบุรี แทนตำแหน่งที่ว่างลงหลังจากนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ หรือ หมอหนุ่ย ที่ลาออกจากตำแหน่งนายก อบจ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมาเพื่อเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ที่เป็นโควตาคนนอกพรรคเพื่อไทยในคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐา 1 ซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเปิดรับสมัคร บรรยากาศโดยรวมเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากมีข้าราชการวงการแพทย์ที่มีชื่อเสียงได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งเพื่อลงสู่ถนนทางการเมืองมาสมัครนายก อบจ.กาญจนบุรี ในนามทีมพลังกาญจน์ ของนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม คือ นายแพทย์ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ นายแพทย์นักพัฒนา ที่ลาออกจากรองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี และ ผอ.รพ.ด่านมะขามเตี้ย

โดยนายแพทย์ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ ได้เดินทางมาถึงห้องบุษราคัม อบจ.กาญจนบุรี สถานที่เปิดรับสมัครในเวลา 09.20 น.จากนั้นได้เข้าไปรับสมัครตามขั้นตอนโดยมีนายชูศักดิ์ แม้นทิม หรือ สส.เจี๊ยบ สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย เขต 2 รวมทั้ง ส.อบจ.กาญจนบุรีทีมพลังกาญจน์เกือบ 30 คนและประชาชนจำนวนมากเดินทางมามอบดอกกุหลาบและพวงมาลัยดอกดาวเรืองเพื่อเป็นกำลังใจให้กับนายแพทย์ประวัติฯ ซึ่งการสมัครตามขั้นตอนใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ โดยนายแพทย์ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ ได้หมายเลข 2 ในการใช้สำหรับหาเสียงเลือกตั้ง

นายแพทย์ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ ผู้สมัครนายก อบจ.กาญจนบุรี ทีมพลังกาญจน์ เบอร์ 2 เปิดเผยภายหลังว่า ความจริงแล้วตนเป็นคนเมืองกาญจน์โดยกำเนิด เกิดที่ ต.ท่าเรือ อ.ท่ามะกา หลังจากเรียนจบแพทย์ก็กลับมาทำงานและใช้ทุนที่จังหวัดกาญจนบุรี ส่วนตัวมีความตั้งใจที่จะทำอะไรบางอย่างในจังหวัดกาญจนบุรีให้มันดีขึ้น เมื่อครั้งนี้เป็น ผอ.โรงพยาบาลด่านมะขามเตี้ย อ.ด่านมะขามเตี้ย ตนก็ทำให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่าจริงๆ ทุกอย่างมันสามารถเปลี่ยนได้และสามารถทำให้ดีขึ้นได้ ตนจึงมีความคิดต่อยอดไปว่าถ้าทุกอำเภอของจังหวัดกาญจนบุรีของเราพัฒนาได้ผมก็จะทำให้ให้ประชาชนมีชีวิตด้านสุขภาพที่ดีขึ้น

อย่างแรกเลยที่ตนจะทำก็คือเรื่องของโรงพยาบาล ซึ่งปัจจุบันในหลายอำเภอควรที่จะมีโรงพยาบาลที่ดีได้แล้ว คนไข้จะต้องไม่อนาถาเหมือนแต่ก่อนแล้ว ดังนั้น เราจะต้องพัฒนาโรงพยาบาลให้มันดีขึ้นให้ได้ โปรเจคในอนาคตอีก 2-4 ปีข้างหน้าโรงพยาบาลก็คงจะเป็นในลักษณะโรงพยาบาลของ อบจ. ที่คอยซัพพอร์ตคนกาญจนบุรี ที่ผ่านมาจุดเจ็บปวดของเราคือห้องพิเศษ

ที่ผ่านมาหากคนไข้มาโรงพยาบาลแล้วไม่มีเส้นสาย ไม่มีทางที่จะได้ห้องพิเศษ พูดตรงๆ ก็คือถ้าคนไม่มีเส้นจะเข้าถึงการบริการยากมาก การจะได้ห้องพิเศษห้องหนึ่งนั้นเป็นอะไรที่ยากลำบาก ผมจึงมีความตั้งใจที่จะเข้ามาลบภาพเหล่านี้ทิ้งไป คนไข้ทุกคนจะต้องมีความเสมอภาค ทุกคนต้องเท่าเทียมกัน ใครจะยากดีมีจนทุกคนจะต้องมีสิทธิ์เข้าห้องพิเศษได้ 

ประเด็นนี้จึงเป็นโปรเจคหนึ่งที่ทางท่านสุรพงษ์ ปิยะโชติ หรือหมอหนุ่ย อดีตนายก อบจ.กาญจนบุรี ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เคยคิดเอาไว้ก่อนแล้ว แต่มันสานต่อได้ยากเพราะติดปัญหาอะไรในหลายๆอย่าง แต่ครั้งนี้ผมจะมาสานต่อเพื่อให้มันเกิดเป็นรูปธรรม หนึ่งในนั้นก็คือเรื่องสาธารณสุข ซึ่งเราจะพัฒนาโรงพยาบาล อบจ.รวมทั้ง รพ.สต. ให้ดีขึ้นในระดับพรีเมียม รวมทั้งเอาปูชนียบุคคลมาจากส่วนกลางมาช่วยในเรื่องของการยกระดับบัตรทอง 30 บาทก็จะเริ่มที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เพราะปัจจุบันนี้ รพ.สต.ทั้งหมดอยู่ในความดูแลของ อบจ.แล้วจึงไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะพัฒนา

ส่วนเรื่องการคมนาคมถือว่าเป็นความโชคดีของคนเมืองกาญจน์ เพราะว่าท่านสุรพงษ์ ปิยะโชติ อดีตนายก อบจ.ได้เข้าไปเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม จากการที่ได้ฟังโปรเจคของท่านก็รู้สึกตื่นเต้นเพราะอีก 2-4 ปีข้างหน้าเมืองกาญจน์จะเกิดการก้าวกระโดดในหลายๆทาง ไม่ว่าจะเป็นบริเวณแยกท่าล้อ แยกแก่งเสี้ยน แยกวังสารภี รวมทั้งเส้นทางเชื่อมระหว่างน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นไปอำเภอทองผาภูมิ รวมทั้งแผนการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบริเวณถนนพัฒนากาญจน์ ซึ่งจากที่ได้ฟังโปรเจคจากท่านรัฐมนตรีช่วยฯ แล้วรู้สึกตื่นเต้นแทนชาวกาญจนบุรีเป็นอย่างมาก เพราะทั้งหมดคือความเดือดร้อนของประชาชนที่จะได้รับการแก้ไข

ถามว่าตนอายุยังน้อยอนาคตทางราชการยังอีกยาวไกล ทำไมถึงตัดสินใจลาออกเพื่อมาเล่นการเมืองนั้น ต้องบอกก่อนว่าตนเป็นคนไม่ยึดติดกับเรื่องรายได้หรือความมั่นคงของชีวิตสักเท่าไหร่ แต่การตัดสินใจลาออกจากราชการเพราะต้องการลงมาช่วยทำงานให้ชาวกาญจนบุรี และพอดีท่านสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ทาบทามผมมา การตัดสินใจจึงไม่ยากอะไรที่จะลาออกจากราชการ การลงสมัครนายก อบจ.ในครั้งนี้ผมมีความมั่นใจที่จะชนะการเลือกตั้ง เพราะสิ่งที่เราทำมาตลอดชีวิตราชการประชาชนต่างก็รู้กันดี อีกทั้งเรามีทีมงานและหัวหน้าที่ดี จึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับการเลือกตั้งในครั้งนี้แน่นอน - 003