รายงานพิเศษ : เปิดเมนู เคาหยก มีประวัติมายาวนาน อาหารพื้นถิ่นของ จ.ตรัง  หลังได้รับเลือกให้เป็น 1 เมนู ชูอาหารถิ่น ของกระทรวงวัฒนธรรม

รายงานพิเศษ : เปิดเมนู เคาหยก มีประวัติมายาวนาน อาหารพื้นถิ่นของ จ.ตรัง หลังได้รับเลือกให้เป็น 1 เมนู ชูอาหารถิ่น ของกระทรวงวัฒนธรรม

วันเสาร์ ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2566, 06.00 น.

นางจันทิมา มุณีกุล หรือ เอ๋ สีฟ้า ผู้ประกอบการเจ้าของร้านสีฟ้าไลฟ์สไตล์ฟู้ดตรัง นำผู้สื่อข่าวประจำ จ.ตรัง เปิดครัวเพื่อดูขั้นตอนในการทำเคาหยก อาหารพื้นถิ่นจังหวัดตรัง ที่ต้องใช้เวลานานกว่าจะมาเป็นอาหารที่รสชาติอร่อย และมีความหมายที่เป็นมงคล โดยวัตถุดิบที่จะนำมาทำเคาหยกนั้นมีเครื่องปรุง เช่น เหล้าจีน หมูสามชั้น เผือก กระเทียม รากผักชี น้ำตาลแดง และอื่นๆ ขั้นตอนการทำนั้นทางร้านจะทอดหมู 3 ชั้น ให้สุกและนำมาใส่ในน้ำ แล้วเอาพักไว้ก่อนให้แห้ง จากนั้นนำเครื่องปรุงดังกล่าวมาใส่กระทะเคี่ยวให้เข้ากัน จากนั้นหั่นหมู 3 ชั้น และเผือกเป็นชิ้นพอประมาณ แล้วนำมาใส่ในกระทะที่มีเครื่องปรุง รอจนกว่าส่วนผสมจะเข้ากันดี จากนั้นตักใส่ถ้วยแล้วนำไปนึ่งในหม้อนึ่งอีกครั้งหนึ่ง ใช้เวลานึ่งตามที่กำหนด เมื่อถึงเวลาก็นำออกแล้วนำมาคว่ำใส่จานดูสวยงามพร้อมเสิร์ฟให้กับลูกค้า การทำเคาหยกนั้นต้องใช้ระยะเวลาการทำประมาณ 1 วัน เนื้อหมูที่อยู่ในน้ำซอสถึงจะอร่อยและพร้อมจะรับประทาน

นางจันทิมา มุณีกุล ผู้ประกอบการร้านสีฟ้า ไลฟ์สไตล์ฟู้ด กล่าวว่าเคาหยกเป็นอาหารจีนกวางตุ้งสมัยโบราณ สำหรับที่จังหวัดตรัง ชาติพันธุ์เชื้อสายจีนมาอาศัยอยู่ที่จังหวัดตรังจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือชาวกวางตุ้ง ส่วนต้นตระกูลนั้นมาจากจีนกวางตุ้ง ภาษาที่ใช้คือ ภาษากวางตุ้ง เมนูนี้เป็นอาหารจีนกวางตุ้งเรียกว่าเคาหยก ซึ่งเคาหยกมี 3 ภาษาที่เรียกกัน คือ ภาษาจีนกลาง เรียก “โค่วโร่ว” ภาษากวางตุ้ง  เรียก “เคาหยก” และภาษาแต้จิ๋ว เรียก “คะบะ” จะมีแค่ 3 ภาษาเท่านั้น ในสมัยโบราณเมนูเคาหยกที่มีประวัติความเป็นมาคือ “จุงเป๋า” (หมายถึงคนทำอาหารหรือพ่อครัวของจีน) ได้ทำเมนูในเทศกาลต่างๆ ในสมัยโบราณที่อพยพกันมาได้ทำเคาหยกในงานแต่งงาน งานเลี้ยงหรือไหว้เจ้า เมนูเคาหยกก็จะถูกนำมาวางบนโต๊ะในงานต่างๆ เช่น งานเทศกาลตรุษจีน งานเชงเม้ง โดยชาวไทยเชื้อสายจีน มีความเชื่อว่า กินหมูแล้วทำอะไรก็ง่ายไปหมด เช่นเป็นเรื่องหมูๆ หมูก็เลยเป็นอาหารมงคลของคนตรัง เช่น หมูย่าง และเคาหยก


ทั้งนี้ เคาหยกจะมีวัตถุดิบหลัก 2 อย่าง คือ หมู 3 ชั้นกับเผือกความสวยของเมนูอยู่ที่เต้าหู้ยี้ ที่เอามาเป็นส่วนผสมหลักในการทำเคาหยก เวลาทานเคาหยกต้องเอาไปคว่ำเรียงแล้วเอาไปนึ่ง เคาหยกมีความหมายคือ หยกแปลว่าหมู เคาหยกสองคำเอามาเรียกรวมกันคือ “เนื้อหมูคว่ำเรียง” ก็เลยเป็นกระบวนการอย่างหนึ่งที่คนตรัง ที่อพยพมาจากเมืองจีน ทำเมนูนี้เพื่อความสวยงามของการจัดสรรวัตถุดิบและกระบวนการปรุง ในส่วนของการนิยมทานเคาหยกนั้นมาจากความเชื่อที่รับกันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ที่จะนำเคาหยกมาจัดวางบนโต๊ะอาหาร สำหรับบรรพบุรุษของตนนั้นเป็น “จุงเป๋า” ที่ลงอาหารตามงานเลี้ยงต่างๆ และมีความเชื่อว่างานเลี้ยงถ้ามีเคาหยกวางอยู่บนโต๊ะอาหาร บ่งบอกถึงฐานะอีกด้วยเนื่องจากเป็นเมนูที่มีความละเอียดอ่อนสวยงาม สำหรับทางร้านเมนูเคาหยกนั้นมีตลอด ลูกค้าสามารถมาสั่งรับประทานได้ มีทั้งแบบรับประทานที่ร้านและแบบฟรีซเย็น สำหรับส่งให้ลูกค้าที่ต้องการสั่งทั่วประเทศ โดยนำเอาไปอุ่นรับประทานได้ทันที และสามารถฟรีซเก็บได้ประมาณ 1 เดือน ส่วนราคาจะขายอยู่ที่ 200-250 บาท แต่ส่วนที่ส่งจะส่งที่ราคา 250 บาท ยังไม่รวมค่าขนส่ง ผู้ที่สนใจเดินทางมารับประทานหรือสั่งซื้อ สามารถติดต่อที่เฟซบุ๊กร้าน “สีฟ้าไลฟ์สไตล์ฟู้ด” หรือโทร 075-210139 

ในส่วนของการที่เคาหยกนั้นได้รับเลือกให้เป็น 1 จังหวัด 1 เมนูเชิดชูอาหารถิ่น ของกระทรวงวัฒนธรรม ตนเองรู้สึกดีใจที่มีการเห็นคุณค่าของเมนูเคาหยกของจังหวัดตรัง ซึ่งเคาหยกต้องใช้เวลาทำค่อนข้างนาน มีเรื่องราวจากบรรพบุรุษถ่ายทอดสู่ชนรุ่นหลัง เมนูเคาหยกนั้นเป็นเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ในวัฒนธรรมการกินของชาวจังหวัดตรัง และสามารถเก็บเอาเป็นมรดก สามารถต่อยอดได้ส่วนที่ผู้คนบางส่วนมีการเรียกว่า “โกยุก” นั้น คำว่า “โกยุก” ไม่มีความหมายเกี่ยวกับอาหารซึ่งได้พูดคุยกับทางวัฒนธรรมจังหวัดตรังแล้วเช่นกัน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top