เมื่อวันที่17กันยายน2566ที่ยโสธร น้ำลำเซบายล้นตลิ่งเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนหลายหมู่บ้าน พร้อมทั้งท่วมนาข้าวจมอยู่ใต้น้ำหลาย 1.000 ไร่ ก็ได้มีชาวบ้านกลางสระเกศหมู่7 ตำบลโพธิ์ไทร   อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร ได้ระดมสรรพกำลังกันออกไปทำการลื้อผักตบชวา ที่ถูกน้ำลำเซบายอุ้มมาขีดขวางทางน้ำ ทำให้น้ำไหลลงไม่สะดวกที่ถูกน้ำลำเซบายอุ้มมาขีดขวางทางน้ำ ทำให้น้ำไหลลงไม่สะดวก ที่น้ำลำเซบายตอนบนไหลลงมาสมทบกับนำห้วยโพง  จนเกิดทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน  ถูกน้ำท่วมขังสูงถึง 50 เซนติเมตร ส่งผลกระทบการเข้าออกลำบาก บางครัวเรือนถึงกับได้แต่นั่งเหมิอมองน้ำอยู่ถนนหน้าบ้านของตนเอง ทราบว่ายังไม่มีหน่วยงานไหนและหน่วยงานที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะหน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัด ลงไปติดตามตามตรวจสอบวางแผนการป้องกันเฝ้าระวังช่วยเหลือแต่อย่างใด เพราะมวลน้ำลำเซบายที่ไหลลงมาจากตอนเหนือลงมาสมทบในพื้นที่ตำบลนี้เหมือนประชาชนเคยประสบภัยน้ำท่วมแบบซ้ำซากเป็นประจำ

นายลุย มิ่งขวัญ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร พร้อมด้วย นางสาว เบ็ญวรรณ นามคง เลขานุการนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธรนายสายัญ  กิ่งจัน ผู้ใหญ่บ้านบ้านกลางสระเกษ ได้รวมพลังผู้นำหมู่บ้าน ผู้นำท้องที่และท้องถิ่น ช่วยกันระดมชาวบ้านออกทำการลื้อผักตบชวาซึ่งเป็นวัชพืชที่ทำให้ขีดขวางทางน้ำไหลไม่สะดวก โดยใช้กำลังคน และรถไถนาช่วยกันลื้อถอนเปิดทางให้น้ำไหลสะดวก เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

สำหรับบ้านกลาสงสระเกษ ถือว่าเป็นหมู่บ้านตั้งอยู่ติดกับล้ำเซบาย พอถึงฤดูน้ำหลาก หรือว่ามีพายุเข้ามักเกิดล้นฝั่งเข้าท่วมบ้านเรือเป็นประจำมาแล้วหลาย 10 ปี แต่ปัญหาตัวนี้ยังไม่เคยได้รับการปรับปรุงแก้ไข ปล่อยให้เกิดน้ำท่วมซ้ำซากเกิดน้ำท่วมขังถนน การสัญจรไปมาลำบาก ทุกครั้งที่มีภัยน้ำท่วมถนนบ้านเรือน สิ่งที่ประชาชนผจญในการดำรงชีวิตก็คือ ป่วยเป็นโรคมือเท้าเปื่อย หากรักษาไม่ทันก็กลายเป็นโรคหนังเน่า ส่วนพื้นที่น้ำท่วมขังนาข้าวก็คอบคุมไปยังหลายหมู่บ้าน อาทิ บ้านเตาไห บ้านศรีฐาน บ้านกุดสำโรง ตำบลศรีฐาน บ้านท่าลาด บ้านเซโนนม่วง บ้านเซียงเพ็ง ตำบลเชียงเพ็ง อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร พื้นที่หมู่บ้านที่กล่าวมานี้มีน้ำท่วมขังนาข้าวสูง 1.20 เซนติเมตร  เป็นบริเวณกว้าง ประมาน  2.975 ไร่ ส่วนมวลน้ำที่ไหลจากลำห้วยโพงสมทบกับลำเซบาย จะไหลลงไปสู่พื้นที่อำเภอคำเขื่อนแก้วต่อไป.-008