‘บิ๊กโจ๊ก’จี้คดียิงสารวัตรแบงก์

ฟนตร.14นาย

เอาผิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่

อีก7รายช่วยคนเจ็บ-รอดคดี

DSIเร่งสอบเส้นทางการเงิน

เช็คบิล‘กำนันนก’ฮั้วประมูล

“บิ๊กโจ๊ก”เตรียมแจ้งข้อหา 14 ตำรวจ ละเว้นปฏิบัติหน้าที่-ให้การเท็จคดียิง สว.แบงก์ ส่วนอีก 7 ราย รอดเพราะช่วยคนเจ็บ ด้านรองผบก.ป.ย้ำดำเนินการตามพยานหลักฐานส่วน ผกก.พญาไท ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เผยมีพยานหลายปาก เห็นวินาทีลั่นไกใส่ สว.แบงก์

เมื่อวันที่ 17กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าคดียิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรแบงก์ หรือศิวสว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.ซึ่งต่อมามีการวิสามัญฆาตกรรมมือปืนที่ก่อเหตุคือ นายธนัญชัย หรือหน่อง หมั่นมาก อายุ 45ปี ลูกน้องของนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก กำนัน ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม เหตุเกิดภายในงานเลี้ยงบ้านกำนันนก ในพื้นที่หมู่ 1 ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม โดยทางกำนันนก ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ จากนั้นได้มีการเร่งสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อเอาผิดกำนันนก และผู้ที่อยู่ภายในงานเลี้ยงดังกล่าว ซึ่งมีทั้งตำรวจและพลเรือน ว่าที่ห้องประชุมเสสะเวช กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 จ.นครปฐม พนักงานสอบสวนได้รวบรวมข้อมูลเพื่อเตรียมให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ประชุมงานสืบสวนสอบสวนและติดตามความคืบหน้าทางคดี

รวบรวมหลักฐานภาพวงจรปิด

ทั้งนี้ ทางคณะทำงานคลี่คลายคดี ได้เร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด หลังจากกู้ภาพจากเซิร์ฟเวอร์กล้อง 15 ตัว เพื่อดำเนินคดีกับกำนันนก รวมทั้งตำรวจและพลเรือน ที่อยู่ภายในงานดังกล่าว โดยเฉพาะความคืบหน้าในการพิจารณาดำเนินคดีกับตำรวจ 14 นาย ว่าจะต้องถูกดำเนินคดีข้อหาใดบ้าง

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบสวนเพิ่มเติมพยานที่เป็นตำรวจและพลเรือนตามที่ปรากฏภาพในกล้องวงจรปิดนั้นมีบางส่วนที่คำให้การไม่สอดคล้องกับคำให้การเดิม ทำให้ต้องมีการสอบเพิ่มเติมอีกครั้ง คาดว่าน่าจะมีการดำเนินคดีกับตำรวจและพลเรือนจำนวนหนึ่ง

บิ๊กโจ๊กชี้ผู้ไม่ถูกดำเนินคดี7นาย

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้สัมภาษณ์สื่อผ่านทางโทรศัพท์ ระบุว่าขณะนี้มีผู้ที่ไม่ถูกดำเนินคดีทั้งหมด 7 นาย ที่ให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และ 1นาย คือ พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล.ที่อยู่ในฐานะผู้เสียหาย ส่วนผู้ที่ถูกดำเนินคดีจะถูกดำเนินคดีในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157และให้การเท็จ โดยจะต้องดำเนินคดีกับตำรวจทุกนายที่มีพฤติกรรมในการกระทำผิด

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุอีกว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีตำรวจที่เข้าข่ายกระทำความผิดรวม 14 นาย เป็นกลุ่มตำรวจที่ไม่ให้การช่วยเหลือสว.แบงก์ และรองฯ วศิน เช่น พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร ผกก.สน.พญาไท เข้าข่ายถูกดำเนินคดีในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ส่วนข้อหาให้การเท็จนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณา

ผกก.เบิ้มเสียชีวิตแล้วไม่นับรวม

รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ในส่วนของผู้กำกับเบิ้ม ก็มีข้อมูลอีกว่าจะต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เช่นเดียวกัน แต่เนื่องจากได้เสียชีวิตไปแล้ว ทางพนักงานสอบสวนจะระบุท้ายสำนวนว่าเสียชีวิตแล้ว ซึ่งจะไม่นับรวม 14 นายที่จะถูกดำเนินคดี โดยทั้ง 14 นาย จะเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ทั้งหมด

เปิดรายชื่อ14ตร.ถูกดำเนินคดี

สำหรับตำรวจที่จะถูกดำเนินคดี 14นาย ประกอบด้วย 1.พ.ต.อ.ภาณุทัต เหลืองสัจจกุล ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม 2.พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร ผกก.สน.พญาไท 3.จ.ส.ต.พิสิฐ ชิวปรีชา ผบ.หมู่ ส.ทล.กก.2 , 4.ร.ต.อ.นุชิต บรรณชัย รอง สว.กก.5 บก.ปทส.5.จ.ส.ต.อภิรักษ์ โรจน์พวง ผบ.หมู่กก.5บก.ปคม.6.ส.ต.ท.สุทธิกานต์ แซ่ล้อ ผบ.หมู่คฝ.ภ.จว.นครปฐม 7.ส.ต.ต.ธนทัต ท่าน้ำตื้น ผบ.หมู่ คฝ.ภ.จว.นครปฐม 8.ร.ต.อ.ประสมมาศ แสงสุขมี รอง สว.จร.สภ.กำแพงแสง 9.ด.ต.ถนอม ศักดิ์มีศรี ผบ.หมู่ สภ.สามความเผือก 10.ส.ต.ต.สรรเสริญ ศรีอุบล ผบ.หมู่คฝ.ภ.จว.นครปฐม 11.ด.ต.สมโชค บัวไชย ผบ.หมู่ บก.สสภ.7 ,12.ร.ต.อ.จตุรวิทย์ ชวาลเกียรติธนา รองสว.ป.สภ.เมืองนครปฐม 13.ร.ต.ท.มนัส จันทร์มีทรัพย์ รอง สว.จร.สภ.นครชัยศรีและ 14.ร.ต.อ.ศิริชัย รูปสวย รอง สว.บก.ป.

7รายช่วยคนเจ็บไม่ถูกดำเนินคดี

ส่วนตำรวจที่ไม่ถูกดำเนินคดี 7นาย ประกอบด้วย 1.ด.ต.ชนาณัฐ วุฒิยากร ผบ.หมู่ บก.ทล.2.ด.ต.สราวุฒิ เชียงทอง สทล.1 กก.2 บก.ทล.3.จ.ส.ต.เมทิศกร พันศ์สีจันทร์ ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.4.พ.ต.ต.ณรงค์ พิทักษ์ฉนวน สว.ฝอ.กก.2 บก.ทล.5.จ.ส.ต.ทศพร แซ่อึ้ง ผบ.หมู่ บก.ทล.6.พ.ต.ท.ภทรวรญาวิสุทธิ์ สว.สภ.สระยายโสม ภ.จว.สุพรรณบุรี และ 7.พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล.(ผู้บาดเจ็บ)

รองผบก.ป.ย้ำตรวจสำนวนเข้ม

วันเดียวกัน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป.กล่าวว่า คณะทำงานในส่วนของกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ได้เข้ามาสอบสวนพยานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม หลังจากรับโอนสำนวนคดีมาดำเนินการ โดยจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าสำนวนเดิมดำเนินการครบถ้วนหรือไม่ ถ้าครบถ้วนถูกต้องแล้วก็ไม่ต้องดำเนินการอะไรเพิ่มเติม แต่หากยังไม่ครบถ้วนถูกต้อง ก็จะต้องทำให้ครบถ้วนสมบูรณ์

พิจารณาเอาผิดตามข้อเท็จจริง

พ.ต.อ.เอนก กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีของตำรวจที่อยู่ในที่เกิดเหตุจะถูกดำเนินคดีหรือไม่ อย่างไร ต้องนำข้อเท็จจริงมาพิจารณาส่วนเรื่องที่ตำรวจให้การไม่ตรงกันจะจริงหรือเท็จต้องดูว่าในการสอบสวนครั้งแรกที่ตำรวจแต่ละนายให้การไว้ให้การไว้ครบถ้วนหรือไม่บางกรณีให้การไว้ในมุมที่เขารับรู้ แต่ภายหลังที่ได้สอบเพิ่มเติมเขาอาจให้การเพิ่มเติมอย่างนี้ไม่ได้ให้ข้อมูลเท็จแต่ในบางรายก็ให้การว่าไม่รู้ไม่เห็นเลยแต่ภายหลังบอกว่ารู้เห็นก็ต้องไปดู ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาว่าเข้าข่ายให้การเท็จหรือไม่

ผกก.พญาไทก็ต้องดูรายละเอียด

รอง ผบก.ป.กล่าวว่า ในส่วนของพ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร ผกก.สน.พญาไท ต้องดูข้อมูลอย่างละเอียดด้วยเช่นกัน ยืนยันว่าพนักงานสอบสวนทำงานอย่างละเอียดและพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนที่มีข้อมูลคำให้การของ ผกก.สน.พญาไท อ้างว่าช่วงเกิดเหตุ เป็นคนสั่งให้ลูกน้องช่วยเหลือสารวัตรแบงก์ และรองฯ วศิน เรื่องนี้ก็ต้องดูว่าผู้ที่เกี่ยวข้องมีข้อมูลยืนยันหรือไม่ เพราะสิ่งที่แต่ละคนให้การต้องขึ้นอยู่กับพยานวัตถุคือกล้องวงจรปิดว่าสามารถรับฟังได้หรือไม่

มีพยานหลายปากเห็นวินาทียิง

เมื่อถามว่าการให้ปากคำของ ผกก.สน.พญาไทเรียกว่าแถหรือไม่ พ.ต.อ.เอนกระบุว่ายังไปเรียกอย่างนั้นไม่ได้ เพราะถือว่าเขาให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมาตั้งแต่วันแรกที่ สภ.เมืองนครปฐม และในขั้นตอนที่พนักงานสอบสวน บก.ป.ได้สอบสวน ซึ่งไม่ได้บิดพลิ้ว หรือให้การว่าไม่รู้ไม่เห็น อย่างไรก็ดี ในส่วนคดียิงสารวัตรแบงก์ ยืนยันว่ามีพยานหลายปากเห็นวินาทียิงทั้ง 2 ส่วน ทั้งในส่วนโต๊ะของกำนันนกหรือโต๊ะวีไอพีซึ่งมีความชัดเจนในส่วนของคดียิงแล้ว

รองฯต่อฌาปนกิจศพผกก.เบิ้ม

ขณะที่เวลาประมาณ 14.00 น.วันเดียวกัน ที่วัดใหญ่ท่าเสา ต.ท่าเสา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รักษาราชการแทน ผบก.ทล.พร้อมด้วยคณะนายตำรวจระดับสูง เดินทางเข้าร่วมพิธีฌาปนกิจศพ พ.ต.อ.วิชา ยาวไทยสงค์ หรือผู้กำกับเบิ้มผกก.2 บก.ทล.ผู้บังคับบัญชาโดยตรงของ พ.ต.ต.ศิวกรสายบัว หรือ สว.แบงก์ สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.ซึ่งก่อเหตุยิงตัวเองเสียชีวิตภายในบ้านพักย่านปทุมธานี เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ได้มีเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 39 และนักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 55 เข้าร่วมงานโดยพร้อมเพรียงกัน ซึ่งมีข้าราชการระดับสูงใน จ.อุตรดิตถ์ รวมทั้งประชาชนจำนวนมาก เข้าร่วมพิธีด้วยทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ญาติพี่น้องของผู้กำกับเบิ้ม ต่างโอบกอดกันร่ำไห้ รวมทั้งกล่าวถึงคุณงามความดีของผู้กำกับเบิ้ม ที่เคยมีไว้ตลอดเวลาที่รับราชการ

บิ๊กต่อเผยมาในฐานะพี่กับน้อง

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า เดินทางมาเพื่อให้เกียรติผู้กำกับเบิ้มและครอบครัว ซึ่งตนเหมือนพี่และผู้กำกับเบิ้มก็เหมือนน้องที่เคยทำงานด้วยกัน อยู่ด้วยกันมานานนับตั้งแต่กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ ยังเป็นกองกำกับการ โดยผู้กำกับเบิ้ม เป็น ผกก.หน่วยต่อต้านการก่อการร้ายคนแรกหลังจากนี้จะดูแลครอบครัวของผู้กำกับเบิ้มไปตลอด โดยตั้งกองทุนไว้แล้ว ซึ่งจะดูแลพี่น้องตำรวจคนอื่นๆ ด้วย

ยธ.เร่งสอบเส้นทางการเงินกำนันนก

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าคดี “กำนันนก” ว่า ตำรวจเขาทำเต็มที่ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะมีพระราชบัญญัติเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐเรื่องฮั้วประมูล ซึ่งคงจะต้องแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน เพราะอำนาจในการดำเนินคดี เช่น หากเป็นข้าราชการกระทำความผิด ทุจริตหรือประพฤติมิชอบก็เป็นหน้าที่ของป.ป.ช.เบื้องต้นขอขอบคุณตำรวจที่ได้รวบรวมพยานหลักฐาน และทราบว่ามีความคืบหน้า ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ และที่สำคัญกระทบต่องบประมาณของรัฐ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษเร่งดำเนินการ ขณะนี้ทราบว่าได้ข้อมูลหลักฐานมาเยอะแล้ว และคงไม่ได้ทำแค่จุดเดียว แต่จะต้องขยายไปในส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย รวมถึงการตรวจสอบเส้นทางการเงินผู้ที่เกี่ยวข้อง