รวบหัวโจกโจรใต้
13 หมายจับติดตัว
พบก่อเหตุป่วนอื้อ
ขยายพรก.ฉุกเฉินฯ
ตำรวจสกัดจับรถต้องสงสัยซิ่งหนีด่านตรวจที่นราธิวาส พบผู้ต้องหามีหมายจับคดีความมั่นคง 13 หมาย ก่อเหตุป่วนใต้ไว้อื้อ ด้าน ครม.ไฟเขียว ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 1 เดือน
เมื่อวันที่ 18 กันยายน ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิริธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า เมื่อเวลา 13.20 น.วันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ตั้งจุดตรวจบนทางหลวงหมายเลข 42 ด้านหน้า สภ.ปะลุกาสาเมาะ ปรากฏว่ามีรถยนต์ ซึ่งคนขับแสดงท่าทางมีพิรุธ ไม่ยอมขับรถเข้าจุดตรวจ แต่กลับรถบริเวณกลางถนนและขับหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามสกัด โดยตรวจพบบุคคลภายในรถคันดังกล่าว เป็นชาย 5 คน หนึ่งในนั้นคือ นายอัซมัน อายุ 28 ปี ชาว อ.เทพา จ.สงขลา มีหมายจับคดีความมั่นคง 13 หมาย
สำหรับการกระทำผิดที่สำคัญ อาทิ ก่อเหตุลอบวางระเบิดและซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ อส.ชุดคุ้มครองครู ต.ห้วยเต่า อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2562 เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 6 นาย , ก่อเหตุลอบวางระเบิดชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 ทำให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส รวม 3 ราย และก่อเหตุลอบวางระเบิดขบวนรถไฟขนสินค้าหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2565 เป็นเหตุให้ขบวนรถไฟตกราง ตู้สินค้าได้รับความเสียหาย รวมทั้งทำให้เจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ที่เข้ากู้ซ่อมราง ถูกระเบิดซ้ำลูกที่ 2 เสียชีวิต 3 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 4 ราย
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นภายในรถยนต์ พบหลักฐานการจดบันทึกเฝ้าสังเกตความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งธงสัญลักษณ์ของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงจำนวนหนึ่ง จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยและนายอัซมัน ไปยังศูนย์ซักถามในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อขยายผลต่อไป
ทั้งนี้ ภายหลังรับทราบเหตุ พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.รักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติงานในศูนย์ซักถามปฏิบัติต่อบุคคลที่ถูกควบคุมตัวตามหลักกฎหมายและตามหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด โดยทุกขั้นตอนต้องมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้และต้องไม่กระทำการอันใดอันเป็นการละเมิดต่อหลักสิทธิมนุษยชนเป็นอันขาด รวมทั้งหากพี่น้องประชาชนพบเห็นเบาะแสผู้กระทำผิด บุคคลที่มีพฤติกรรมต้องสงสัย สามารถแจ้งได้ที่หน่วยงานความมั่นคง หรือหมายเลขสายตรง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า โทรศัพท์หมายเลข 1341 หรือโทรศัพท์สายตรง ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 หมายเลข 0611732999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
อย่างไรก็ดี สำหรับผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การนำพา ซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตาม ป.วิอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
วันเดียวกัน มีรายงานว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้ขยายการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ออกไปอีก 1 เดือน โดยมอบหมายให้คณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน (กบฉ.) จัดทำแนวทางการดำเนินงานให้เร็วที่สุดและรัดกุมยิ่งขึ้น โดยมอบหมายให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ ซึ่งตำแหน่งประธาน กบฉ.เดิม คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี