"ชัชชาติ"เผยเป็นครั้งแรก! ตั้งคณะทำงานฯพัฒนากทม. 7 คน นายกฯนั่งประธาน กำหนดยุทธศาสตร์ติดตามผลทุกเดือน เน้นประสานคล่องตัว ไม่ยุ่งงบ
เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2566 นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงหลังเข้าพบนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งคณะทำงานเร่งรัดพัฒนากรุงเทพมหานคร โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะทำงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นรองประธานคณะทำงาน มีคณะทำงาน ประกอบด้วย เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นคณะทำงานและเลขานุการ รวม 7 คน มีผลตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน เป็นต้นไป
"ถือเป็นครั้งแรกที่มีการตั้งคณะทำงานฯ พัฒนากรุงเทพฯ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ที่มาของคณะทำงานชุดนี้ เริ่มจากท่านนายกฯ ได้เรียกไปพบเมื่อสัปดาห์ที่แล้วถึงปัญหาต่างๆ โดยมองว่ากรุงเทพมหานครเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ เรามี GDP ถึง 33% ของประเทศไทย รายได้จากการท่องเที่ยวผ่านกรุงเทพฯ อย่างน้อย 30% ประชากรรวมประชากรแฝง มีประมาณ 15% และมีบริษัทที่จดนิติบุคคล 36% อยู่ที่กรุงเทพฯ ปัญหาสำคัญของ กทม.เราไม่ได้มีอำนาจควบคุมทุกอย่าง ต้องประสานงานกับหลายหน่วยงานมาก ไม่ว่าจะเป็น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ การไฟฟ้า การประปา ขสมก. รฟม. รฟท. การทางพิเศษฯ การท่องเที่ยว ต้องประสานงานทั้งหมด ที่ผ่านมาประสานกันได้ดีเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ในเชิงยุทธศาสตร์ไม่ได้มีการทำอย่างบูรณาการ จึงได้มีการตั้งคณะทำงานฯ ขึ้นเพื่อทำหน้าที่ขับเคลื่อนปัญหาเร่งด่วนของ กทม.เน้นที่การประสานงาน ไม่เกี่ยวกับเรื่องงบประมาณ ลักษณะของคณะจะทำงานคล้ายๆรูปแบบ Executive Committee ของเอกชน เป็นคณะเล็กๆ มีความคล่องตัว ตัดสินใจและขับเคลื่อนเชิงยุทธศาสตร์ ผลักดันให้เกิดผลสำเร็จ โดยจะกำหนดเป้าหมาย ให้หน่วยงานทำงาน และติดตามตรวจสอบ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่จะสามารถแก้ปัญหาต่างๆได้อย่างรวดเร็ว ตอบโจทย์พี่น้องประชาชนมากขึ้น รอท่านนายกฯกลับมาจะได้นัดประชุมคณะทำงานครั้งแรก กำหนดยุทธศาสตร์ลุยงาน และจะมารายงานผลความคืบหน้าในทุกๆ เดือน" ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว
สำหรับปัญหาเร่งด่วนของ กทม.ที่ต้องเร่งดำเนินการ 5 ด้านหลัก 1.การจราจร ตั้งเป้ากวดขันระเบียบวินัยจราจร ลดปัญหาจุดฝืด , การกำกับดูแลการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ก่อให้เกิดปัญหาการจราจรใน กทม. , การพัฒนาระบบสัญญานไฟจราจรให้เป็นแบบอัตโนมัติ และเชื่อมโยงกัน 2.เศรษฐกิจ การใช้ทรัพยากรของรัฐช่วยเรื่องการทำมาหากินของผู้มีรายได้น้อย เช่น การจัดพื้นที่ให้ขายของแก้ปัญหาหาบเร่แผงลอยบนทางเท้า เป็นต้น 3.การท่องเที่ยว ดึงอัตลักษณ์สร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์ 50 ย่านทั่วกรุงเทพฯ เพิ่มแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยว ดูแลเรื่องความปลอดภัยด้านต่างๆ และจัดงาน Winter Festival ในช่วงพฤศจิกายน - ธันวาคม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวช่วงปลายปี 4.PM2.5 มาตรการควบคุมการเผาข้าว อ้อย ผลิตผลทางการเกษตรทั้งในและนอกประเทศ , ส่งเสริมการใช้รถยนต์ที่มีการปล่อยมลพิษน้อย เช่น รถ EV รถและน้ำมันมาตรฐาน EURO5 และ 5.การนำสายสื่อสารลงดิน เร่งรัดหน่วยงานเกี่ยวข้องในการร่วมกันจัดระเบียบสายสื่อสาร
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี