จำคุก'ลุงศักดิ์ เสื้อแดง' 1 เดือนไล่ชกพี่ศรี สารภาพเหลือจำ 15 วัน ไม่รอลงอาญา ศาลชี้ไม่เคยขอโทษ หรือจ่ายเงินเยียวยา พฤติกรรมเป็นแบบอย่างไม่ดี ใช้ความรุนแรงในสังคม เจตนาทำร้ายผู้เสียหายเพื่อหารายได้ เสี่ยงจะทำผิดซ้ำอีก เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ด้านทนายความเตรียมยื่นอุทธรณ์ ขอให้รอลงอาญา และเป็นคดีทางการเมือง
วันที่ 20 ก.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา ศาลแขวงพระนครเหนือ ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ ศาลได้มีคำพิพากษาคดี ดำอ 844/2566 ที่พนักงานอัยการคดีศาลแขวง1 เป็นโจทก์ฟ้อง นายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล หรือลุงศักดิ์ เสื้อแดง อายุ63 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่น โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 ประกอบมาตรา 296 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
กรณีเมื่อวันที่ 18 ต.ค.65 ขณะที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน ผู้เสียหาย ได้เดินทางไปยื่นเรื่องตรวจสอบการกระทำของ “โน้ส อุดม แต้พานิช” นักทอล์คโชว์ชื่อดังที่พูดพาดพิงรัฐบาลในทอล์กโชว์เดี่ยวไมโครโฟน 13 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ถนนพหลโยธินว่าเข้าข่ายยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นกระทำความผิดหรือไม่ และระหว่างที่นายศรีสุวรรณให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอยู่นั้น นายวีรวิชญ์ได้เข้ามาชกต่อยนายศรีสุวรรณม5-6ครั้งเตะ1 ครั้งได้รับบาดเจ็บ ต่อมานายศรีสุวรรณ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ดำเนินคดีนายวีรวิชญ์
ก่อนคดีนี้ จำเลย เป็นบุคคลเดียวกันกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 3042/2564ของศาลแขวงพระนครเหนือ จำเลยเป็นบุคคลเดียวกันกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 466/2564, คดีอาญาหมายเลขดำที่ 1219/2565 และคดีอาญาหมายเลขดำที่ 843/2565 ของศาลแขวงดุสิต และจำเลยเป็นบุคคล เดียวกันกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 61/2564ของศาลแขวงปทุมวัน ขอให้ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391นับโทษจำคุกของจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกของ จำเลยในคดีดังกล่าวโทษต่อด้วย
ระหว่างพิจารณา นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้เสียหาย ยื่นคำร้องขอจำเลยชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 1,004,925 บาทแก่ผู้เสียหายด้วย จำเลยให้การรับสารภาพเฉพาในส่วนอาญาแต่ไม่ให้การในคำขอส่วนแพ่ง
ศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391จำคุก 1 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 15 วัน พิเคราะห์ตามรายงาน การสืบเสาะและพินิจแล้ว เห็นว่า ภายหลังเกิดเหตุจำเลยไม่ได้กล่าวคำ ขอโทษใดและไม่เคยรับผิดชอบชดใช้เยียวยาแก่ผู้เสียหายแต่อย่างใด พฤติกรรมของจำเลยแสดงถึง เจตนามาหารายได้จากการทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย อีกทั้งภายหลังเกิดเหตุแล้วมีบุคคลอื่นก่อเหตุไปทำ ร้ายผู้เสียหายเช่นจำเลยเพื่อเรียกเงินบริจาค
การกระทำของจำเลยจึงเป็นแบบอย่างไม่ดีของการใช้ ความรุนแรงอย่างต่อเนื่องทางสังคม ทั้งแบบประเมินความเสี่ยงพบว่า จำเลยมีความเสี่ยงในการ กระทำผิดซ้ำอีก เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างกรณีจึงไม่มีเหตุรอการลงโทษ ส่วนที่โจทก์ขอให้นับโทษจำคุกของจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกในคดีอื่นนั้น ปรากฏว่าคดีที่โจทก์ขอให้นำโทษจำคุกคดีนี้ไปนับต่อ นั้นจำเลยไม่ได้รับโทษจำคุกจริง จึงไม่อาจนับต่อได้ ให้ยกคำขอส่วนนี้ ให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหม ทดแทนแก่ผู้เสียหายเป็นเงิน 107,525 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี นับแต่วันทำ ละเมิดคือวันที่ 18 ต.ค. 65 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ต่อมานายวีรวิชญ์ ได้ยื่นคำร้องขอปล่ยชั่วคราว
ศาลพิจารณาแล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวนายวีรวิชญ์ ระหว่างอุทธรณ์คดี โดยตีราคาประกัน 1.5 แสนบาท
ด้านนายภัทรพงษ์ สุภัสสร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ ทนายความของลุงศักดิ์ กล่าวว่า คดีนี้ศาลพิพากษาเมื่อวันที่ 18 ก.ย.โดย ลุงศักดิ์ รับสารภาพส่วนคดีอาญาโดยไม่รับส่วนแพ่ง ส่วนที่จะยื่นอุทธรณ์ตามกฎหมาย คือจะขอให้ศาลพิพากษาลงโทษสถานเบา และรอลงอาญาไว้ เนื่องจากเห็นว่าเป็นคดีลหุโทษ คดีนี้ศาลน่าจะรอลงอาญาได้และเกี่ยวพันกับคดีการเมืองด้วย -001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี