ปลัดศธ.หารือแบงค์ชาติแก้ปัญหาหนี้สินครู เผยพบ 900,000 คนทั่วประเทศ มีหนี้สินรวมกันอยู่ที่ประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูกว่า 8.9 แสนล้านบาท รวมทั้งหนี้นอกระบบ
เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2566 นายอรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัดศธ.) เปิดเผยว่า พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศธ.) พร้อมด้วย นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล (รมช.ศธ.) ได้เชิญผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย ผู้บริหารองค์กรหลัก ศธ.หารือถึงการแก้ปัญหาหนี้สินครู เพื่อรับทราบข้อมูลว่าที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)ได้มีการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูอย่างไรบ้าง เพื่อจะนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์และแก้ปัญหาให้ตรงจุด ตรงไหนเป็นปัญหาใหญ่ และจะต้องเริ่มต้นกันที่จุดไหนก่อน ทั้งนี้ เนื่องจาก รมว.ศธ. ได้แก้ปัญหาหนี้สินให้กับตำรวจประสบความสำเร็จแล้ว ในขณะดำรงตำแหน่งอยู่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงอยากมาแก้ปัญหาหนี้สินครูอย่างจริงจัง
นายอรรถพล กล่าวต่อว่า กระทรวงศึกษาฯและธนาคารแห่งประเทศไทยจะร่วมมือกันดำเนินเกี่ยวกับโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ซึ่งที่ผ่านมา ศธ.ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง แต่ผลการดำเนินการก็ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และ ปัญหาสำคัญ คือ สหกรณ์ออมทรัพย์ส่วนหนึ่งไม่ค่อยให้ความร่วมมือ อีกส่วนหนึ่งคือกลุ่มครูที่เป็นหนี้เสีย( NPL) ซึ่งศธ.พยายามหาวิธีแก้ไขปัญหาว่าจะดำเนินการขับเคลื่อนกันอย่างไร ทั้งนี้ จากที่ศธ.ดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูมาอย่างต่อเนื่อง พบว่าครู 900,000 คนทั่วประเทศ มีครูประมาณ 80% มีหนี้สินรวมกันอยู่ที่ประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ครู ถึง 64% คิดเป็นเงินจำนวน 8.9 แสนล้านบาท เป็นหนี้ธนาคารออมสิน 25% เป็นเงิน 3.49 แสนล้านบาท นอกนั้นเป็นหนี้ธนาคารกรุงไทยและสถาบันการเงินต่างๆ ที่อยู่นอกระบบ
ปลัดศธ. กล่าวด้วยว่า ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการหักเงินเดือน พ.ศ. 2551 ระบุว่า ในแต่ละเดือนครูจะต้องมีเงินเดือนเหลือหลังจากชำระหนี้แล้วไม่น้อยกว่า 30% ซึ่งกำหนดไว้อย่างชัดเจน แต่ปัญหาในเชิงพื้นที่พบว่าหลายหน่วยงานไม่มีมาตรการ ไม่ดำเนินการตามระเบียบศธ.ว่าด้วยการหักเงินเดือน 2551 และปัญหาประการหนึ่งคือ ประธานโครงสร้างแก้ไขปัญหาหนี้สินครู เป็นปลัดศธ. อำนาจในการบังคับบัญชาหน่วยงานอื่นจึงเป็นปัญหา ดังนั้น รมว.ศธ.จึงได้มอบหมายให้มีการปรับแผนงานและโครงสร้างของคณะกรรมการใหม่ โดยให้ปลัดศธ.เป็นประธานฯเหมือนเดิม แต่ให้ผู้บริหารทุกแท่งมาเป็นที่ปรึกษาด้วย เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนโครงการแก้ปัญหาหนี้สินครูไปได้ ซึ่งทางธนาคารแห่งประเทศไทยก็ยินดีจะมาให้คำแนะนำและแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สินครู โดยรมว.ศธ.มอบให้ปลัดศธ.ดำเนินการรวบรวมข้อมูลภายใน 15 วัน แล้วนำข้อสรุปกลับมาประชุมกันอีกครั้ง
“วันนี้ รมว.ศธ.และ รมช.ศธ. อยากได้ข้อมูลทั้งหมดเพื่อนำมาวิเคราะห์เพื่อแก้ปัญหาให้ตรงจุด และแก้ปัญหาใหญ่ๆก่อน โดยเฉพาะกลุ่มครูที่เกษียณไม่มีเงินวิทยฐานะแล้ว เหลือแต่เงินเดือนแต่มีหนี้สารพัดพอถูกหักหนี้ก็เหลือเงินเดือนนิสเดียว ซึ่งต้องหาทางช่วยเหลือโดยให้มีคนกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้กับสถาบันการเงิน และกลุ่มที่เป็นคนค้ำประกันให้เพื่อนแต่ถูกใช้หนี้แทน จะต้องช่วยเจรจาต่อรองให้ลดการจ่ายหนี้ลง หรือไม่ให้ถูกยึดบ้านพักอาศัย เรื่องนี้เป็นนโยบายสำคัญที่ รมว.ศธ.และ รมช.ศธ. มีความประสงค์ที่จะดำเนินการเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับครู ถ้าครูไม่มีหนี้สิน ครูมีทางปรับโครงสร้างหนี้ได้ ครูก็จะมีพลังมีแรงสอน นักเรียนก็มีความสุข” ปลัดศธ. กล่าว
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี