วันที่ 22 กันยายน 2566 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกันแถลงผลความคืบหน้าของคดีนายส่องศักดิ์ ส่งแสง หรือเอ็ม ผู้ต้องหาในคดีฆ่าลูกโบกปูนที่ จ.กำแพงเพชร บริเวณด้านหน้า สน.บางเขน
โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ ระบุว่า ผลการตรวจ DNA ของนายส่องศักดิ์ และ น.ส.เจษฎา พบว่าตรงกับผล DNA ของร่างเด็กทั้งสองร่างที่ถูกทิ้งแถวจตุจักร เมื่อปี 2556 และ 2557 แสดงให้เห็นว่าคำให้การของทั้งสองที่ระบุว่า เป็นพ่อแม่ของเด็กทั้งสอง และนำร่างของทั้งสองไปทิ้งที่จตุจักรเป็นความจริง ซึ่งการดำเนินการหลังจากนี้ จะรวบรวมพยานหลักฐานและผล DNA เพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับนายส่องศักดิ์ และ น.ส.เจษฎา ต่อไปในช่วงบ่ายวันนี้
ซึ่งทาง พล.ต.ต.อรรถพล กล่าวว่า จะดำเนินคดีทั้งนายส่องศักดิ์และ น.ส.เจษฎา ในข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ร่วมกันทำลายพยานหลักฐาน ช่วยกันซ่อนเร้นอำพรางศพ และข้อหาทำลายศพที่ต้องชันสูตรพลิกศพตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยจากการสอบปากคำ น.ส.เจษฎา ตลอดเวลาที่ผ่านมา ให้การสอดคล้องกับข้อหากระทำความผิดและให้การเป็นประโยชน์
ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตของเด็กทั้ง 2 ที่ถผุกทิ้วแถวจตุจักร พบว่า ด.ช.ศักดิ์ดา ที่พบศพเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2556 เสียชีวิตจากภาวะระบบหายใจล้มเหลว ส่วน ด.ช.ธีรภาพ ที่พบศพเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2557 เสียชีวิตเนื่องจากศีรษะแตก ซึ่งจากคำให้การของทั้งนายส่องศักดิ์และ น.ส.เจษฎา กับบาดแผลของศพเด็กทั้งสองคนนั้น พบว่าสอดคล้องต้องกันและวิธีการทำร้ายร่างกายก็ตรงกัน
สำหรับประเด็นการเปิดรับบริจาคเด็กหญิงวัย 4 ขวบ ลูกของนายส่องศักดิ์และสุนันนั้น หลังจากที่ลุงของเด็กมาให้การยืนยันว่า เด็กวัย 4 ขวบที่เลี้ยงมาตั้งแต่แรกคลอดสภาพร่างกายเป็นไปตามปกติ ในขณะที่จากการสอบปากคำเจษฎา ก็ระบุว่าในช่วงปี 2564 ถึง 2565 เด็กหญิงวัย 4 ขวบยังมีสภาพร่างกาย ปกติปากยังไม่แหว่ง แต่ตอนปี 2566 ช่วงที่นายเอ็มนำน้องมาฝาก มีสภาพร่างกายเป็นปากแหว่งแล้ว อ้างว่าเนื่องจากเป็นเชื้อรา ทางฝั่งของเจษฎาก็ไปหายาม่วงมาทา โดยหลังจากนี้จะต้องไปตรวจสอบประวัติที่โรงพยาบาล และสอบปากคำบรรดาญาติอย่างละเอียด ซึ่งจะต้องดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดสำหรับการดำเนินคดีข้อหาค้ามนุษย์ต่อไป
ทั้งนี้ จากการรวบรวมพยานหลักฐานในเบื้องต้น สามารถชี้ชัดได้ว่าทั้งนายส่องศักดิ์และ น.ส.เจษฎา ร่วมกันโพสต์เรี่ยรายรับเงินบริจาค โดยจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่าบัญชีของเจษฎามีเงินเข้ามา 17 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 3,500 กว่าบาท ส่วนใหญ่จะเป็นการโอนบริจาคทั้ง 7 บาท 100 บาท สูงสุดคือ 1,500 บาท โดยนำเงินเหล่านี้ นำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
พล.ต.ต.นพศิลป์ ยังได้กล่าวถึงรูปคดีค้ามนุษย์ว่า การที่นำเด็กที่ถูกทำร้ายร่างกายมาหากิน เป็นเรื่องที่น่าสะท้อนใจอย่างมาก เด็กเหมือนตายทั้งเป็น แต่หลังจากที่ทราบว่าตัวเด็กจะสามารถนำไปรักษาได้ ก็เป็นเรื่องที่น่าดีใจ โดยจากลักษณะการเรียกรับประโยชน์แบบนี้ ก็สามารถเข้าข่ายคดีค้ามนุษย์ได้
ส่วนประเด็นเรื่องภรรยาคนที่ 5 นั้น ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ธีรเดช เป็นผู้รับผิดชอบสืบสวนสอบสวน พบว่าภรรยาคนนี้เลิกกันมานานแล้วและไม่มีลูกด้วยกัน จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางคดี แต่ต้องดำเนินการสืบสวนและสอบปากคำเพื่อให้ทราบถึงประวัติภูมิหลังของนายเอ็มต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ระบุว่า จากการสอบปากคำบรรดาอดีตภรรยาของนายเอ็ม เบื้องต้นให้การตรงกันว่า นายเอ็มมีพฤติกรรมก้าวร้าวและไม่ส่งเสียเลี้ยงดูลูก คนทำมาหากินคือภรรยา นายเอ็มอยู่บ้านรอรับเงิน แต่นายเอ็มไม่มีพฤติกรรมเสพยาเสพติดและมีสภาพจิตที่ปกติ ซึ่งจะต้องดำเนินการสอบปากคำให้ละเอียดอีกครั้ง
พล.ต.ต.นพศิลป์ ระบุเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ฆาตกรรมโบกปูนศพที่กำแพงเพชรแล้ว ทั้งนายเอ็มและสุนันก็ได้เดินทางกลับมาพัก เช่นเดิม หลังจากนั้นช่วงกรกฎาคมก็ย้ายที่อยู่จนพบว่า นายเอ็มและสุนันได้ย้ายไปพักที่อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ภายในซอยพหลโยธิน 48 แยก 3 ซึ่งในช่วงบ่ายของวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและพิสูจน์หลักฐานจะลงพื้นที่ไปตรวจสอบ เพื่อหาว่ายังเหลือร่องรอยหรืออุปกรณ์วัตถุที่ใช้ทำร้ายน้องหลงเหลืออยู่หรือไม่ เนื่องจาก การตรวจค้นที่อพาร์ทเม้นท์ภายในซอยพหลโยธิน 48 แยก 11 ก็ยังพบอาวุธมีดและไฟแช็คที่ใช้ทำร้ายร่างกายน้องหลงเหลืออยู่
ส่วนการตรวจค้นที่พักทั้ง 4 จุดเมื่อวานนี้ พบว่าที่แมนชั่นภายในซอยพหลโยธิน 71 พบตู้ทีวีอยู่ภายในห้อง ซึ่งจากการนำรูปตู้ทีวีไปให้เจษฎาตรวจสอบ เจษฎาระบุว่า ตู้ทีวีดังกล่าวเป็นตู้ใหม่ เนื่องจากตู้ทีวีเดิมเป็นตู้แนวนอนเรียงกันมีกระจก 3 ตอน แต่ตู้ทีวีที่ตรวจพบเมื่อวานนี้เป็นตู้ทีวีแบบแนวตั้งสูง จึงเป็นคนละตู้ที่ใช้ก่อเหตุฆาตกรรมเด็ก ส่วนตู้เก่าใบนั้นไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ไหนแล้ว
ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะพนักงานสอบสวนว่า พฤติการณ์ของนายเอ็มทั้งหมดนั้น มีเจตนาถึงการฆ่าผู้อื่นหรือไม่ ส่วนบาดแผลของเจษฎานั้น ในวันนี้จะนำตัวเจษฎาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เพื่อเทียบเคียงจากคำให้การของเจษฎาที่ถูกนายส่องศักดิ์ทำร้ายร่างกาย สอดคล้องกับบาดแผลหรือไม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี