กกต.กาญจน์แนะผู้มีสิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.กาญจน์กว่า 6 แสนคนก่อนเข้าคูหาอย่าลืมพกบัตร ปชช.ไปด้วย ขณะที่ 2 ผู้สมัครนายก อบจ.กาญจน์ลุยหาเสียงคึกคัก
วันนี้ (26 ก.ย.66) นายนิรันดร์ บุญราช พนักงานการเลือกตั้งชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานฯสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า สำหรับคุณสมบัติของผู้มีสิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.กาญจนบุรีที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 ต.ค.2566 จะต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย ถ้าแปลงสัญชาติไทยมาแล้วจะต้องไม่น้อยกว่า 5 ปี โดยในวันเลือกตั้งจะต้องมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งติดต่อกันมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง
ส่วนบุคคลต้องห้ามไม่ให้ใช้สิทธิเลือกตั้งมีอยู่ 4 ประเภท ประกอบด้วยประเภทที่ 1.ภิกษุ สามเณร นักพรตหรือนักบวช ประเภทที่ 2.อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ไม่ว่าคดีนั้นจะสิ้นสุดแล้วหรือไม่ ประเภทที่ 3.ต้องคุมขังอยู่โดยหมายศาล หรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย และประเภทที่ 4.ประเภทวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
หลักฐานแสดงตนเพื่อขอใช้สิทธิเลือกตั้งที่ใช้ได้คือ 1.บัตรประจำตัวประชาชนที่ยังไม่หมดอายุหรือหมดอายุแล้วก็ใช้ได้เช่นกัน 2.บัตรหรือหลักฐานอื่นใดที่ทางราชการออกให้หรือหน่วยงานของรัฐออกให้ จะต้องเป็นบัตรที่ยังไม่หมดอายุ และต้องมีเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักของผู้ถือบัตร เช่น พาสปอร์ต และใบขับขี่ 3.หลักฐานภาพอิเล็กทรอนิกส์ที่เปิดผ่านแอปพลิเคชันของหน่วยงานของรัฐตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น เอกสารระบุตัวตนในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งแสดงผ่านแอปพลิเคชันที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ เช่น ThaID ซึ่งออกดดยกรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย แอป ThaID (ไทยดี) ที่เปลี่ยนชื่อมาจาก D.DOPA
ขั้นตอนการลงคะแนนเลือกตั้งท้องถิ่นมี 5 ขั้นตอน 1.ขั้นตอนการตรวจสอบรายชื่อ 2.ยื่นหลักฐานแสดงตนกับเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง 3.รับบัตรเลือกตั้งจากเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งจำนวน 1 ใบ 4.เข้าคูหาทำเครื่องหมาย X กากบาท และ 5.จะต้องหย่อนบัตรเลือกตั้งลงในหีบเลือกตั้งด้วยตนเอง
นายนิรันดร์ บุญราช กล่าวว่า ในวันที่ 22 ต.ค.66 เป็นวันเลือกตั้งนายก อบจ.กาญจนบุรี ขึ้นมาแทนตำแหน่งที่ว่างลง ขอให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำให้ขึ้นใจว่า หลักฐานการแสดงตนทุกชนิดต้องเป็นตัวจริงเสียงจริงเท่านั้น หากถ่ายสำเนามา จะใช้ไม่ได้ในทุกกรณี ส่วนหลักฐานการแสดงตนชนิดอื่นๆที่หดอายุแล้วไม่สามารถใช้ได้ ยกเว้นบัตรประจำตัวประชาชนเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้สมัคร นายก อบจ.กาญจนบุรี มี 2 ราย ประกอบด้วย ผู้สมัครอิสระ ในนาม “เพื่ออนาคตกาญจน์” เบอร์ 1 นายสุกวี แสงเป่า หรือทนายวี อายุ 66 ปี อดีตผู้สมัคร สส.กาญจนบุรี พรรคก้าวไกล เขต 1 และเบอร์ 2 นายแพทย์ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ หรือหมอหวัด อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลด่านมะขามเตี้ย อดีตรองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี อายุ 46 ปี ที่ลงในนามทีม “พลังกาญจน์”
ที่ผ่านมาผู้สมัครทั้ง 2 ราย ได้ออกเดินสายหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีทีมงานของแต่ละฝ่ายช่วยกันเดินรณรงค์หาเสียงกันอย่างคึกคัก ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรีเป็นอย่างดี และถึงแม้ว่าพรรคก้าวไกล (กก.)มีมติไม่ส่งผู้สมัครลงแข่ง แต่นายสุกวี แสงเป่า อดีตผู้สมัคร สส.พรรคก้าวไกล ยังได้รับกำลังใจจากพรรคก้าวไกลเช่นเดิม โดยเมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ หรือ สส.กาย สส.กทม.พรรคก้าวไกล และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล ได้ลงพื้นที่เพื่อช่วยนายสุกวี แสงเป่า หาเสียงอีกทางหนึ่งด้วย
ขณะที่นายแพทย์ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ หรือหมอหวัด ผู้สมัคร นายก อบจ.กาญจนบุรี เบอร์ 2.ทีมพลังกาญจน์ ถึงแม้ลงเล่นการเมืองระดับท้องถิ่นเป็นครั้งแรก แต่กระแสการตอบรับจากประชาชนเป็นไปด้วยดี อีกทั้งนายแพทย์ประวัติฯ ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ จาก สมาชิก อบจ.กาญจนบุรี ทีมพลังกาญจน์ ของนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ หรือหมอหนุ่ย อดีตนายก อบจ.กาญจนบุรี ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ใน ครม.เศรษฐา 1 อีกด้วย
ซึ่งผู้สมัครนายก อบจ.ทั้ง 2 ราย อีกคนหนึ่งเป็นทนายความที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านกฎหมาย อีกคนเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านวงการสาธารณสุข ต้องมาลุ้นกันว่า เมื่อถึงวันเลือกตั้ง(22 ต.ค.66)ประชาชนชาวกาญจนบุรีผู้มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 6 แสนคน จะเลือกใครเข้าไปบริหาร อบจ.กาญจนบุรี แทนตำแหน่งที่ว่างลง - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี