อุตุฯเตือน49จว.

รับมือฝนตกหนัก

3อำเภอสตูลอ่วม

บ้านจมน้ำนับพัน

กรมอุตุฯเตือน49จังหวัดเสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนน้ำป่าทับลาน หลากท่วมอุโมงค์เชื่อมผืนป่ามรดกโลก จนต้องปิดการใช้งาน ขณะที่“สตูล”ฝนถล่ม บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 1,200 ครัวเรือน

เมื่อวันที่ 28กันยายนกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่า หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมด้านตะวันตกของภาคเหนือ ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกทม.และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่งขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ โดยมีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักมาก 13จังหวัดและจังหวัดเสี่ยงภัยฝนตกหนัก 36 จังหวัด รวม 49จังหวัด

ที่ จ.ปราจีนบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดฝนตกต่อเนื่องนับตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมาถึงช่วงเช้า ส่งผลให้น้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติทับลานไหลหลากลงในพื้นที่ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี โดยเวลา 01.00 น.ที่ผ่านมาศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจพุทธธรรมแห่งประเทศไทย รับแจ้งและขอความช่วยเหลือว่ามีน้ำป่าหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่บ้านขุนศรี หมู่ 2 และบ้านวังขอนแดง ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี โดยมีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วม มีผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ป่วยติดอยู่ภายในจำนวนมาก ต่อมาทีมกู้ภัย พร้อมเครื่องมือ เรือท้องแบน ได้เข้าพื้นที่ซึ่งถูกน้ำท่วมท่ามกลางฝนที่ยังคงตกอย่างหนักเพื่อเข้าช่วยเหลือชาวบ้านท่ามกลางความมืดและกระแสน้ำที่ไหลแรง

อย่างไรก็ดี ทางกู้ภัยได้ช่วยเหลือชาวบ้าน ออกมายังพื้นที่ปลอดภัยแล้ว ซึ่งปริมาณน้ำจำนวนมากที่ไหลลงคลองพญาธาร ทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่ง เข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือน รวมถึงสถานศึกษา จนต้องเร่งขนย้ายทรัพย์สิน รวมทั้งสัตว์ ขึ้นที่สูง โดยมวลน้ำได้ไหลท่วมอุโมงค์เชื่อมผืนป่ามรดกโลก อุทยานแห่งชาติทับลานและอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ระดับน้ำสูงกว่า 50 เซนติเมตร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องปิดอุโมงค์ดังกล่าวเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้เส้นทางเป็นการชั่วคราว ทำให้ประชาชนที่จะเดินทางในเส้นทางสาย 304 ปราจีน-นครราชสีมาไม่สามารถใช้เส้นทางเดินทางได้ จนเกิดการจราจรติดขัดเป็นระยะทางยาว

ส่วนที่ จ.สตูล วันเดียวกัน พายุฝนและลมกระโชกแรง ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เย็นวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา ได้ส่งผลให้เกิดต้นไม้ล้มทับบ้านเรือนชาวบ้าน และมีบ้านเรือนชำรุดเสียหาย หลังคาถูกลมพัดปลิว ในพื้นที่ ต.ควนสตอ อ.ควนโดน จ.สตูล รวม 15 หลังคาเรือน

ทั้งนี้ นายซะรี่ย์อะซีร นุ่งอาหลี นายกอบต.ควนสตอ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อบต.ได้ตรวจสอบความเสียหายเพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือชาวบ้านแล้ว ขณะที่หลายพื้นที่ใน อ.เมือง จ.สตูลยังได้รับผลกระทบจากน้ำป่าที่ไหลหลากมาสมทบ นอกจากนี้พื้นที่ราบลุ่มติดลำคลองสายสำคัญ อย่างคลองฉลุง และคลองควนโดน อ.ควนโดน ก็ได้รับผลกระทบ ซึ่งจิตอาสาตชด.ที่ 436 ได้เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น มีการนำน้ำดื่มไปแจกจ่ายในพื้นที่เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

ขณะเดียวกัน ถนนสายหลัก เส้นทางฉลุง-ละงู การจราจรติดขัดเนื่องจากกระแสน้ำตัดผ่านถนนเป็นจุดๆ ทำให้การสัญจรไปมาเป็นไปด้วยความยากลำบาก หลังจากฝนตกมาเติมน้ำที่ท่วม โดยหลายเส้นทางในหมู่บ้านก็ได้รับผลกระทบ ซึ่งนายสุจริต ยามาสา นายกอบต.ฉลุงได้ให้ชาวบ้านมารับกระสอบทรายเพื่อนำไปปิดกั้นทำแนวป้องกันน้ำท่วมบ้านเรือน และเตรียมถุงยังชีพ ไปมอบให้ โดยขณะนี้พบว่ามีบ้านเรือนประสบภัยแล้ว 1,200 ครัวเรือน สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สตูล ยังคงกระจายอยู่ใน 3 อำเภอได้แก่ อ.ควนโดน อ.ท่าแพ และ อ.เมือง