วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
ถอดบทเรียนเด็กเคลื่อนย้ายแก้ปัญหาการศึกษาเด็กไร้รัฐภาคเหนือ

ถอดบทเรียนเด็กเคลื่อนย้ายแก้ปัญหาการศึกษาเด็กไร้รัฐภาคเหนือ

วันเสาร์ ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2566, 18.14 น.
Tag : เชียงราย ถอดบทเรียน ภาคเหนือ
  •  

วันที่ 30 ก.ย.66 ที่โรงแรมทีค การ์เด้น สปา รีสอร์ท อ.เมือง จ.เชียงราย โครงการคุ้มครองสิทธิ์เด็กไร้สัญชาติระยะที่ 3 ร่วมกับมูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา (พชภ.) และองค์กรภาคี ได้จัดให้มีการเสวนาเรื่องเด็กเคลื่อนย้ายขากบริเวณชายแดนตะวันตก การเข้าถึงสิทธิในการศึกษาและการคุ้มครองเด็ก โดยมีนางเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการผู้ก่อตั้งมูบนิธิ พชภ.และอดีต สมาชิกวุฒิสภา(สว.) จ.เชียงราย กล่าวต้อนรับ และชี้แจงวัตถุประสงค์ โดยมีทางกลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชน  กลุ่มภาคีเครือข่ายมูลนิธิฯต่างๆ ภาคประชาสังคม สถาบันด้านการศึกษาและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลและถอดบทเรียนการดำเนินงานด้านเด็กเคลื่อนย้ายโดยเฉพาะเด็กไร้รับไร้สัญชาติ พร้อมกันนี้ยังมี  น.ส.กัลยา ทาสม หรือครูปุ้ก อดีต ผอ.โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 6 จ.อ่างทอง ซึ่งนำเด็กชาวเมียนมา 126 คนมาเรียนในพื้นที่ แต่ถูกดำเนินคดีฐานพาบุคคลต่างด้าว หลบหนีเข้าเมือง และข้อหาให้ที่พักพิง มาบอกเล่าเรื่องราวให้ผู้ร่วมเสวนาได้รับฟังด้วย


โดยนางเตือนใจ เปิดเผยว่า การเสวนาครั้งนี้เป็นการต่อเนื่องจากเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีการเสวนาเรื่องการอพยบลี้ภัยจากการสู้รบในประเทศเมียนมา แต่ครั้งนี้เน้นไปที่เด็กที่อยู่ในสถานะเคลื่อนย้าย ซึ่งสอดคล้องวกับมีกรณีของโรงเรียนไทยรัฐวิทยาที่ จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นกรณีศึกษาที่หน่วยงานด้านความมั่นคงมองประเด็นเด็กเหล่านี้เข้าไปเรียนไกลถึงใจกลางเมือง โดยไม่มีผู้ปกครองและไม่มีใครรับผิดชอบ ทั้งที่ในอดีตเด็กเหล่านี้เข้ามาเรียนลักษณะนี้อยู่แล้วจำนวนมาก โดยเฉพาะโรงเรียนตามศูนย์ชายแดนต่างๆ ซึ่งมีอยู่จำนวนหลายหมื่นคน ผนวกกับรัฐบาลไทยในปี 2542 ก็ให้ความสำคัญด้านการศึกษา โดยใช้อนุสัญญาด้านสิทธิเด็กเป็นหลัก ซึ่งสถานศึกษาจะต้องรับเด็กทุกชาติศาสนาให้ได้รับการศึกษาจะมีสถานะหรือไม่มีก็ตาม จึงเป็นที่มาของการจัดเนื่องจากสถานการในประเทศเมียนมามีการสู้รบ คงไม่มีความสงบในเร็ววันนี้ ส่วนหนึ่งก็อพยบเข้าพื้นที่ส่วนหนึ่งก็ส่งบุตรหลานเข้ามาเรียนในประเทศไทยโดยหวังว่าจะได้มีอนาคตที่ดี 

นางเตือนใจ กล่าวอีกว่า พอมีเหตุการณ์ที่ จ.อ่างทอง โรงเรียนทั้งหลายไม่กล้ารับเด็กเหล่านี้ ซึ่งเป็นประเด็นปัญหาที่จะต้องแก้ไข โดยมองที่อนาคตของเด็ก ซึ่งประเทศไทยปัจจุบันเข้าสู่ยุคสูงวัยสมบูรณ์ มีประชากรสูงสัยเกิน 25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเด็กเกิดใหม่ไม่มีเพียงพอที่จะเลี้ยงดูใหญ่ในอนาคต เด็กๆ ในประเทศเพื่อนบ้าน หากมีการปลูกฝังด้านศึกษาที่ดี ได้รับสิทธิ์ในการเดินทาง สิทธิด้านการศึกษา สิทธิในหลักประกันสุขภาพ ตลอดจนสิทธิในการทำงานโดยมองอนาคตของอาเซียน  ก็จะเป็นผลดีแต่ประเทศไทยและอาเซียนด้วย การรับฟังข้อมูลจากภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาควิชาการและจากภาครัฐในวันนี้ จะเป้นสังเคราะห์ข้อมูลนำไปสู่ข้อเสนอเชิงนโยบายระดับชาติ ระดับอาเซียน จนนำไปสู่การปฎิบัติและการกำหนดนโยบายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

ทางด้าน นายวีระ อยู่รัมย์ ผอ.ศูนย์การเรียนไร่ส้ม จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ศูนย์ไร่ส้มวิทยา จัดการศึกาษระดับอนุบาลถึงประถมศึกษา นักเรียนส่วนใหย่จะเป็นลูกหลานของแรงงานเคลื่อนย้ายที่ข้ามฝั่งมาจากประเทศเมียนมา โดยมาทำงานที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ปัจจุบันมีอยู่จำนวน 208 คน มีทั้งลูกแรงงานที่เกิดในประเทศไทย และมีเด็กที่ติดตามผู้ปกครองเข้ามา จึงมีทั้งที่เรียนตามเกณฑ์อายุ และเด็กที่เกินเกณฑ์หรือเด็กที่โตแล้ว บางคนอายุ 12-15 ปี แต่ยังอยู่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งเด็กเหล่านี้จะมีประสบการณ์อยู่แล้วเพียงแค่มาปรับการเรียนพื้นที่ฐานด้านภาษา ซึ่งปัญหาของเด็กเหล่านี้ก็อยู่ที่จะต้องเคลื่อนย้ายตามผู้ปกครองหากเปลี่ยนสถานที่ทำงานก็จะต้องย้านสถานที่รับการศึกษาไปด้วย

นายวีระ กล่าวด้วยว่า แนวโน้มของเด็กเหล่านี้จะมากหรือน้อยก็จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นนโยบายด้านแรงงานของประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันยังขาดแรงงานจำเป็นต้องนำเข้าแรงงานจากประเทศเพื่อบ้านซึ่งเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีเด็กเหล่านี้ตามกลุ่มแรงงาน หรือบางคนที่ทำงานนานก็มีครอบครัวและมีลูกที่เกิดในประเทศไทย ซึ่งเด็กก็จะเยอะตามจำนวนแรงงานที่ประเทศไทยต้องการ และบางส่วนก็มีการเคลื่อนย้ายจากสถานการณ์สู้รบ โดยเฉพาะ จ.ตากและแม่ฮ่องสอน ที่มีค่อนข้างมาก แต่ส่วนมากจะอยู่ในตะเข็บชายแดน เด็กเหล่านี้หากไม่ได้เข้ารับการศึกษาก็จะเป็นแรงงานไร้ฝีมือ ซึ่งจะได้รับงานที่ยากและหากมีงานก็ได้ค่าตอบแทนต่ำ โอกาสที่เด็กเหล่านี้จะเข้าไปสู่เหตุอาชญากรรมหรือเข้าสู่การทำงานที่ผิดกฎหมายด้านอื่นๆ ก็มีโอกาสสูง ดังนั้นจึงจำเป้นที่จะต้องจัดการศึกษาให้กับเด็กเหล่านี้

น.ส.ลาหมีทอ ดั่งแดนวิมาน ศูนย์พัฒนาเครือข่ายเด็กและชุมชน ศูนย์พักพิงชั่วคราว(ผู้หนีภัยความไม่สงบ) จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ปัญหาสำหรับศูนยิพักพิงคือด้านการศึกษาสำหรับเด็กๆ ยังมีเด็กกว่า 1,000 คน ที่ยังไม่ได้เรียนหนังสือ บางคนเคยเรียนกในประเทศเมียนมามาแล้ว แต่พอลี้ภัยสงครามเข้ามาก็ไม่ได้เรียนต่อ และอีกปัญหาคือเรื่องปัญหาสุขภาพที่ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝนแต่ก็ไม่ได้รับการเข้าถึงสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ เสี่ยงต่อการเป็นไข้มาเลเรีย  

อีกทั้งยังประสบกับภัยน้ำท่วมและดินสไลด์ แม้จะมีหลายหน่วยงานจะพยายามเข้าไปช่วยเลหือแต่ยังมีข้อจำกัดด้านการเดินทางเข้าพื้นที่ซึ่งยากลำบาก หรือแม้แต่การเข้าถึงพื้นที่การจะเข้าไปบริหารจัดการด้านต่างภายในศูนย์พักพิงนั้นทำได้ยากเพราะติดระเบียบของทางราชการ ภาครัฐเองควรที่จะเปิดโอกาสให้หน่วยงานหรือองค์กรที่มีศักยภาพในการช่วยเหลือด้านต่างๆ เข้าไปช่วยเหลือได้อย่างเต็มที่หรือเต็มรูปแบบได้ โดยเฉพาะด้านการศึกษาของเด็กที่เคลื่อนย้ายเข้ามาก็จะเป็นการดี 

ในขณะที่ทางด้าน พระวิสิทธิ์ ฐิตวิสิทฺโธ, ผศ.ดร.อาจารย์ประจำ บัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ กล่าวว่า ปัจจุบัน จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ มีพระภิกษุสงฆ์สามเณรกว่า 1,000 รูป ที่เป็นบุคคลไร้รัฐไรัสัญชาติ ที่ทางกลุ่มเข้าดำเนินการช่วยเหลือให้มีสถานะอยู่ในสถานศึกษามีเพียง 80 รูปเท่านั้น ในขณะที่การสำรวจก็พบว่ามีสามเณรอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการศึกษา ซึ่งเป็นกลุ่มที่เป็นปัญหาเนื่องจากสถานศึกษาจะไม่รับผู้ที่บวรเข้าไปเรียนในสถานศึกษา ทำให้สามเณรเหล่านี้ตกหล่นจากระบบการศึกษา ที่สำคัญยังมีผลต่อการดำรงชีวิตเนื่องจากหากไม่มีสถานที่ศึกษาก็จะไม่มีกฎหมายรองรับให้อยู่ในประเทศได้ 

การเคลื่อนย้ายของแรงงานหลายคนเลือกที่จะให้ลูกมาบวช เพราะมีความสบายใจ ไม่มีความกังวลเป็นห่วง บุตรหลานมีที่อยู่ที่ปลอดถภัย โดยให้อยู่กับวัดโดยที่บุตรไม่ต้องตามพ่อแม่ไป ส่วนนี้ก็จำเป็นที่วัดจะต้องดูแลทั้งความเป็นอยู่และค่าใช้จ่ายต่างๆ  ซึ่งก็อยากให้ภาครับยื่นมือเข้ามาช่วยเหลิอทั้งด้านการศึกษาและด้านสาธารณสุขเพราะถือเป็นสิ่งจำเป็น ทุกวันนี้จำนวนนักบวชที่เป็นบุตรหลานแรงงานก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี จำนวนที่สำรวจพบยังไม่ถึงครึ่งของจำนวนที่มีอยู่จริง ซึ่งหากสำรวจครบคงมีมากกว่านี้ - 003

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘ต๋ามฮอยศรัทธา2007ปี่ เมินมา-หกเป็งวันทา’ ไหว้สาพระมหาชินธาตุเจ้าดอยตุง ‘ต๋ามฮอยศรัทธา2007ปี่ เมินมา-หกเป็งวันทา’ ไหว้สาพระมหาชินธาตุเจ้าดอยตุง
  • โลกเปลี่ยนไว!‘ดร.วรวรงค์’เผย‘มหิดลวิทย์’ถอดบทเรียนการใช้AIเพื่อการศึกษา เน้นพัฒนาต่อเนื่อง โลกเปลี่ยนไว!‘ดร.วรวรงค์’เผย‘มหิดลวิทย์’ถอดบทเรียนการใช้AIเพื่อการศึกษา เน้นพัฒนาต่อเนื่อง
  • มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เปิดโครงการฟื้นฟูอาชีพ ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมเชียงราย มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เปิดโครงการฟื้นฟูอาชีพ ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมเชียงราย
  • \'เลขาฯอาชีวะ\'เผยเตรียมนำรถเทคเตอร์-เครื่องกลขนาดเล็กช่วยพื้นที่น้ำท่วม จ.เชียงราย 'เลขาฯอาชีวะ'เผยเตรียมนำรถเทคเตอร์-เครื่องกลขนาดเล็กช่วยพื้นที่น้ำท่วม จ.เชียงราย
  • ฝูงบิน 416 เชียงรายทำโครงการ Big cleaning \'ทัพฟ้า พาน้องเข้าเรียน\' ฝูงบิน 416 เชียงรายทำโครงการ Big cleaning 'ทัพฟ้า พาน้องเข้าเรียน'
  • เลขาธิการ กพฐ.ร่วมทีม\'เสมา 1\'มอบถุงยังชีพนักเรียน-ครู-บุคลากรน้ำท่วมเชียงราย เลขาธิการ กพฐ.ร่วมทีม'เสมา 1'มอบถุงยังชีพนักเรียน-ครู-บุคลากรน้ำท่วมเชียงราย
  •  

Breaking News

เซ็กซี่ขยี้ใจ! 'จันจิ จันจิรา'อวดหุ่นสวยแซ่บในชุดบิกินีริมหาด

เปิดเนื้อหาฉบับเต็ม! 'กกต.-DSI'ออกหมายเรียก 53 สว. แจงคดีฮั้ว

ยก ‘ป.วิอาญา - พ.ร.บ.อุ้มหาย’ ดักคอ ‘ดีเอสไอ’ ลงพื้นที่สอบ ‘คดีฮั้ว สว.’

'สว.อลงกต'ย้ำชัด!พร้อมไปรับทราบข้อกล่าวหา‘คดีฮั้วเลือกสว.’ ถ้าหมายเรียกออกโดยกกต.

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved