สกู๊ปพิเศษ : สกสว.ผนึกเชียงรายจัดแพคเกจวาระแห่งชาติ ‘โซ่ข้อกลาง’ จัดทัพสู้ภัยพิบัติ 3 ประเด็นใหญ่

สกู๊ปพิเศษ : สกสว.ผนึกเชียงรายจัดแพคเกจวาระแห่งชาติ ‘โซ่ข้อกลาง’ จัดทัพสู้ภัยพิบัติ 3 ประเด็นใหญ่

วันอาทิตย์ ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

สกสว.ผนึกกำลังจังหวัดเชียงราย กางแผน ววน. สู้ภัยพิบัติ 3 ประเด็นใหญ่ รับหน้าที่ ‘โซ่ข้อกลาง'  รวมแพคเกจวาระแห่งชาติแก้ปัญหาน้ำ-แผ่นดินไหว-สารพิษแม่น้ำกก ทำงานเชื่อมโยงกับจังหวัดและทุกภาคส่วน หวังลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินให้ได้มากที่สุด

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) นำโดย ศ. ดร.สมปอง คล้ายหนองสรวง ผู้อำนวยการ สกสว. ร่วมกับนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และนางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย พร้อมผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมและแถลงข่าวทิศทางการใช้ระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) เพื่อรับมือและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติในพื้นที่จังหวัดเชียงรายอย่างบูรณาการ โดยเน้นแพคเกจวาระแห่งชาติใน 3 ประเด็นหลัก คือ การแก้ปัญหาน้ำท่วม/น้ำแล้ง การสร้างองค์ความรู้ด้านแผ่นดินไหว และปัญหาเร่งด่วนคือ สารพิษในแม่น้ำกก เพื่อผลักดันให้เชียงรายเป็นต้นแบบการจัดการภัยพิบัติด้วยองค์ความรู้และเทคโนโลยี โดย สกสว.จะเป็น "โซ่ข้อกลาง" สำคัญในการขับเคลื่อนระบบ ววน. ให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เพื่อป้องกันและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติใน จ.เชียงราย ถ่ายทอดองค์ความรู้ เสริมอาวุธให้กับประชาชน และเป็นพี่เลี้ยงให้คนที่อยู่หน้างานเตรียมพร้อมสำหรับการแก้ปัญหา รับมือภัยพิบัติ สร้างทักษะที่จำเป็นให้ทุกภาคส่วนและประชาชนมีความพร้อมและปลอดภัยจากภัยพิบัติ เพื่อเป็นส่วนสำคัญในการต่อยอดจากระบบ ววน. โดยมีปัญหาของพื้นที่เป็นตัวตั้ง สู่การปฏิบัติของจังหวัดเชียงรายต่อไปเพื่อเป้าหมาย “Disaster Resilient City” (เมืองแห่งการปรับตัวเพื่อรับมือภัยพิบัติ)


“สกสว.ในฐานะเลขานุการของกองทุน ววน. จะเชื่อมโยงหน่วยนโยบายและหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ พร้อมนำองค์ความรู้ที่มีอยู่มาสร้างแพลตฟอร์มให้ประชาชนนำไปใช้ประโยชน์ เช่น สนับสนุนข้อมูลจากกรมประมง งานวิจัยด้านสารพิษ และการซื้อขาย เพื่อสร้างแอปพลิเคชัน “ปลาปลอดภัย” ที่ประชาชนสามารถรับรู้ระดับสารปนเปื้อนในลำน้ำสาขา และจะสามารถบริโภคปลาชนิดใดได้อย่างปลอดภัยหรือมีความเสี่ยง เพื่อสร้างความมั่นใจในการบริหารจัดการสารพิษในแม่น้ำ นอกจากนี้จะขับเคลื่อนการทำงานแบบบูรณาการโดยกำหนดทิศทางและนโยบายของกองทุน ววน. รวมถึงจัดทำแผนปฏิบัติการกลางแบบบูรณาการ ประสานงานกับทุกภาคส่วน เพื่อปฏิบัติการอย่างรวดเร็วและทันท่วงที โดยตั้งงบประมาณเพื่อการรับมือภัยพิบัติทั้งการสร้างองค์ความรู้และหน้างานไม่ต่ำกว่าพันล้านบาทต่อปี” ศ. ดร.สมปองกล่าว

ขณะที่ นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จ.เชียงรายประสบปัญหาภัยพิบัติต่างๆ ค่อนข้างมาก ทั้งน้ำท่วม น้ำแล้ง แผ่นดินไหว และสารปนเปื้อนในลำน้ำต่างๆ ซึ่งแผนเตรียมการป้องกันที่ผ่านมายังไม่สมบูรณ์ คณะวิจัยจึงนำประเด็นเหล่านี้ไปศึกษาวิจัยเพื่อเป็นข้อมูลทางวิชาการของเชียงรายและขยายสู่ระดับภาคเหนือ ซึ่งจังหวัดจะนำมาเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการภัยเพื่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกรวบรวมเข้าสู่ศูนย์ข้อมูล PDOSS (ศูนย์บริหารจัดการภัยพิบัติ) เพื่อให้การบริหารงานในปีต่อไปมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ ระบบแจ้งเตือนภัยของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ผ่าน Cell Broadcast ครอบคลุมเกือบทุกภัยแล้ว แต่หากจังหวัดมีระบบแจ้งเตือนภัยของเราเองจะใกล้ชิดและเข้าถึงประชาชนได้มากขึ้น ซึ่งมูลค่าความเสียหายจากน้ำท่วมที่เคยเกิดขึ้นประเมินไว้สูงถึง 3 พันกว่าล้านบาท และอาจเกินแสนล้านหากรวมสิ่งปลูกสร้างและถนนหนทางทั้งหมด

ด้าน นายก อบจ.เชียงราย เผยว่า การบูรณาการร่วมกับนักวิจัยและ สกสว. ทำให้เห็นภาพ One Plan One Map ที่นำไปสู่การวิจัยสาเหตุของปัญหาต่างๆ และจัดทำแผนแก้ไขปัญหาส่งให้ภาครัฐแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน โดย อบจ.จะนำแผนภาพรวมนี้ไปจัดทำ Master Plan ระดับจังหวัด เพื่อนำส่งต่อภาครัฐในการจัดสรรงบประมาณได้อย่างถูกต้อง และนำข้อมูลส่งต่อให้พี่น้องประชาชนผ่านศูนย์ PDOSS ที่ อบจ. ร่วมดำเนินการกับจังหวัดผ่านแอปพลิเคชันเพื่อการแจ้งเตือนภัย การดูแล และการเยียวยาอย่างทันท่วงที

ในส่วนของภาควิชาการ ศ.ดร.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หลังน้ำท่วมปลายปี 2567 ได้นำวิศวกรอาสาเข้าสำรวจพื้นที่พบว่ามีความเสียหายของอาคารบ้านเรือนกว่า 1,700 หลัง ช่วยให้การเบิกจ่ายเงินเยียวยาเป็นไปอย่างทันท่วงที แต่สิ่งที่ต้องเรียนรู้คือรูปแบบความเสียหายจากภัยพิบัติ เพื่อปรับปรุงยกระดับมาตรฐานการก่อสร้างให้ทนทานต่อน้ำ รวมถึงระบบเตือนภัยจากข้อมูลที่ดี และมีเซนเซอร์ตรวจจับที่ช่วยให้ชี้เป้าได้

ขณะที่ รศ.ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ ผู้อำนวยการแผนงานการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยและนวัตกรรมตามเป้าหมายสำคัญตามยุทธศาสตร์ ววน. น้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้ง กล่าวเสริมว่า แม้จะมีแผนแม่บททรัพยากรน้ำ แต่การวิจัยจะเข้ามาเสริมให้การแก้ปัญหาให้ครบวงจรโดยเฉพาะการพยากรณ์ล่วงหน้า ซึ่งปัญหาภัยพิบัติทั้งหมดจะต้องถูกกำหนดทิศทางและวงเงินในการรับมือควบคู่กับโอกาสที่จะเกิดภัยพิบัติ ภายใต้ขอบเขตที่ ววน. จะสามารถนำไปขับเคลื่อนได้เพื่อป้องกันอุบัติภัยที่อาจเกิดขึ้นได้ดียิ่งขึ้น

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top