ความคืบหน้ากรณีลูกสาวตามหาพ่อหายนาน 3 วันหาไม่เจอ สุดท้ายพึ่งพระให้ช่วย พระนั่งสมาธิมีคนกระซิบบอกไปหาในป่า ลูกสาวและญาติๆ พากันไปหาแทบช็อคเจอพ่อผูกคอตายห้อยโตงเตง ถึงกับอึ้งคำพูดพระ วันนี้เปิดใจพระมหาโบ้เผย นั่งสมาธิมีเสียงเบามากระซิบข้างหู มีคนผูกคอตายในป่า แจ้งลูกสาวตามหาเจอพ่อผูกคอตายในป่าจริงๆ ย้ำอาตมาไม่ได้อวดอ้างแต่เห็นตรงเป๊ะคนหายหลายครั้งแล้ว

1 ต.ค.66 จากกรณี ตร.สภ.หนองหาน และกู้ภัยส่งเสริมธรรมจุดบริการองหนอหงาน พบศพนายวรกิตต์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67 ม.10 ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี  ใช้เชือกไนล่อนสีแดงผูกคอตัวเองกับกิ่งสะเดาสูงประมาณ 4 เมตร ในป่าท้ายหมู่บ้าน คาดว่า เสียชีวิตมาแล้วหลายวัน จนสภาพศพขึ้นอืด จนส่งกลิ่นเหม็นอบอวลไปทั่วป่า ใกล้กับศพพบบันไดอลูมิเนียมยาวประมาณ 2 เมตรล้มอยุ่กับพื้น คาดว่า เป็นบันไดที่ผู้ตายนำมาไต่เพื่อผูกคอตาย  จ้าหน้าที่ฯ จากการตรวจที่เกิด ไม่พบร่องรอย การต่อสู้  และญาติไม่ติดใจจึงมอบศพให้นำตัวไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

ส่วนสาเหตุ ลูกสาวคือ น.ส.ณัฐริกา อายุ 27 ปี บอกว่า พ่อหายไปตั้งแต่บ่ายวันที่ 27 ก.ย.66 ที่ผ่านมา คาดว่าเกิดจากความเครียดเรื่องหนี้สินและเสียใจที่ภรรยาเพิ่งเสียชีวิตไปได้เพียง 3 เดือน และเขียนจดหมายลาตายเอาไว้ด้วย ลูกและญาติๆ ได้พากันออกตามหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ จนสุดท้ายไปนิมนต์พระที่รู้จักในอ.กุมภวาปี ท่านบอกว่ามีคนมาดลนิมิตเห็นคนผูกคอตายที่ต้นไม้ใหญ่ในป่าให้ลองไปหาดู จนญาติพากันขนลุกเพราะสุดท้ายก็เจอจริงๆ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ส่วนศพของผู้เสียชีวิตทางญาติได้ฌาปนกิจศพไปแล้ว เมื่อเย็นวานนี้ ที่วัดทุ่งสว่างปะโค ต.ปะโค อ.เมือง จ.อุดรธานีไปแล้วเพราะสภาพศพเน่าและขึ้นอืด

ต่อมาวันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับพระภิกษุรูปดังกล่าวที่บอกว่ามีคนดลนิมิตให้ไปหาคนหายในป่าแล้วจะเจอเอง โดยเดินทางไปที่วัดทุ่งสว่างปะโค ต.ปะโค อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี เพื่อมาพบกับพระรูปดังกล่าวเพื่อสอบถามว่าทำไมท่านถึงรู้เหตุการณ์กรณคนหายญาติตามหาเท่าไรก็ไม่เจอ โดยได้พบกับพระมหาบัณฑิต อคฺธัมโม หรือ มหาโบ้ อายุ 39 พรรษา 20 และเป็นเจ้าอาวาสวัดฯ

พระมหาโบ้ เล่าว่า เมื่อวานขณะนั่งกำลังทำกิจของสงฆ์ในวัด มีโยมมาหาบอกให้ช่วยนั่งสมาธิตามหาคนหายให้หน่อย โดยญาติโยมคนดังกล่าวว่าได้นำเอาขันธ์ 5 มา ขอขมาให้อาตมาช่วย ตรวจสอบว่าจริงไหม ตอนทำการตรวจพบว่าดวงชะตาของผู้เสียชีวิต 50 / 50 แต่ก็ไม่มั่นใจอาตมาจึงเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นสถานที่จริง เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าทุกคนก็พยายามหาร่างของผู้เสียชีวิตที่บริเวณสระน้ำ เมื่อไปถึงอาตมาก็ได้นั่งสมาธิสอบถามเจ้าที่เจ้าทางและแต่งขันธ์ 5 ขอให้เปิดทางการค้นหา ถ้าตายจริงก็ขอให้เห็นศพถ้ายังไม่ตายก็ขอให้กลับมาหาลูกหาหลาน

พระมหาโบ้ กล่าวว่า หลังจากนั่งสมาธิได้ประมาณ 1 ชั่วโมง ปรากฎว่าอากาศร้อนอบอ้าวมาก สมาธิไม่เกิดเพราะว่าอากาศร้อนและมีเสียงดังและได้ยินเสียงคนวุ่นวาย อาตมาได้ขอปลีกตัวไปอยู่คนเดียวลำพัง นั่งสมาธิได้สักพัก อาตมาก็เดินมาบอกโยมว่าไม่ต้องหาแล้วที่น้ำให้ไปหาที่ป่าได้เลย เหตุที่มั่นใจแบบนั้นก็เพราะขณะนั่งสมาธิมีเสียงคนมาบอก เสียงเบาๆว่าเขาไม่ได้ตายในน้ำ เขาผูกคอตาย ก็ถามกลับไปว่าอยู่ที่ไหนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ไม่ไกลจากบ้าน จากนั้นก็บอกให้ลูกและญาติๆ คนไปหาที่ต้นไม้ใหญ่เดินไป 2 ทางและก็พบจริงๆ โดยจุดที่เข้าไปผูกคอตายห่างจากจุดที่อาตมานั่งสมาธิประมาณ 500 เมตร อยู่ห่างจากบ้านไม่ถึง 50 เมตร ที่แปลกมากกว่านี้ ลูกเขยเข้ามาหาวันพระบุญข้าวสากมาตรงที่พบศพแต่หาไม่พบ สิ่งที่อาตมาพูดอาตมาไม่ได้อวดอ้างตัวเอง แต่เหตุการณ์แบบนี้อาตมาเคยทำมาแล้ว 4 ครั้ง ซึ่งก็ตรง เป๊ะทุกครั้ง" พระมหาโบ้กล่าวตอนท้าย