ตร.ค้นกว่า3พันจุด
จับปืนเถื่อนทั่วไทย
ยึดได้2พันกระบอก
กระสุน7.5หมื่นนัด
ตร.ระดมกวาดล้างอาชญากรรมและความผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืน ครั้งใหญ่ ลุยตรวจค้นทั่วประเทศกว่า3,200 จุด ยึดปืนเกือบ 2,000 รายการ กระสุนปืนอีกกว่า 75,000 นัด‘บิ๊กต่อ’ ยันดำเนินการต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 12ตุลาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รักษาราชการแทนรองผบ.ตร.พร้อมคณะ แถลงผลปฏิบัติการ “Gun Clearance Operation” ระดมกวาดล้างอาชญากรรมและความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุเด็กอายุ 14 ปี ใช้อาวุธปืนกราดยิงในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อภาพรวมด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน รวมถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว ทำให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เร่งดำเนินการกวาดล้างจับอาวุธปืนผิดกฎหมายทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นอาวุธปืนเถื่อน ปืนดัดแปลงสภาพ หรือแบลงค์กัน โดยทาง ผบ.ตร.ได้เรียกประชุมคณะทำงานและมอบหมายให้พล.ต.ท.ธนาซึ่งดูแลงานสืบสวน ดำเนินการตามนโยบายของนายกฯ ตามมาตรการเชิงรุก กำหนดให้ทุกหน่วยงานของ ตร.เพิ่มความเข้มข้นในการบังคับใช้กฎหมายและระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทั่วประเทศร่วมกันกวาดล้างอาชญากรรมและความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ในห้วงระหว่างวันที่ 9-11 ตุลาคม 2566
ทั้งนี้ มีเป้าหมายหลักคือการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืน อาวุธสงคราม เครื่องกระสุนปืน และการลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย ทั้งผ่านช่องทางออนไลน์ หรือออฟไลน์อีกทั้งดำเนินมาตรการเชิงรุก เร่งปิดกั้นสื่อสังคมออนไลน์ทุกประเภทที่มีการลักลอบซื้อ-ขาย ดัดแปลงแก้ไขอาวุธปืนผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่จากกองบัญชาการต่างๆลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแสผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้อง จนนำไปสู่การรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายคัน และเข้าตรวจค้นผู้มีพฤติกรรมจำหน่าย ดัดแปลง ซื้อขายอาวุธปืนอาวุธสงคราม
สำหรับผลการระดมกวาดล้าง ห้วงวันที่ 9-11 ตุลาคม 2566 มีดังนี้ 1.ตรวจค้นเป้าหมายทั่วประเทศทั้งสิ้น 3,224 จุด 2.จับกุมผู้ต้องหา 1,593 ราย 3.ตรวจยึดของกลาง ประกอบด้วย 3.1 อาวุธปืนไม่มีหมายเลขทะเบียน แบลงค์กันและบีบีกัน 1,789 กระบอก 3.2 อาวุธปืน มีหมายเลขทะเบียนซึ่งเป็นของบุคคลอื่น (ปืนผิดมือ) 219 กระบอก และ 3.3 เครื่องกระสุนปืน 75,973 นัด
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวต่อว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.วรวัฒน์วัฒนันครบัญชา ผบช.สอท.ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการปิดกั้นสื่อสังคมออนไลน์ ที่กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน โดยใช้เป็นช่องทางซื้อขายอาวุธปืนผิดกฎหมาย มีผลการดำเนินการดังนี้ 1.Facebook รวม 79 บัญชี 2.Tiktokรวม 14 บัญชี 3.X (Twitter) รวม 148 บัญชี 4.Youtubeรวม 26 ช่อง และ 5.Instagramรวม 14 บัญชี รวมทั้งสิ้น 291 บัญชี อย่างไรก็ดี ได้ให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาอาชญากรรมอย่างจริงจังมาตลอด จึงบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กวาดล้างผู้กระทำผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนพร้อมกันทั่วประเทศอยู่เสมอ
ที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้เป็นจำนวนมาก เชื่อมั่นว่าจะทำให้ความรุนแรงของอาชญากรรมและการกระทำผิดกฎหมายจะลดลงอย่างแน่นอน อีกทั้งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินให้กับพี่น้องประชาชนนักท่องเที่ยวต่างชาติ และนักลงทุนจากต่างชาติ อันจะส่งผลดีต่อภาพรวมของเศรษฐกิจภายในประเทศ
สำหรับการระดมกวาดลังอาวุธปืนทั่วประเทศครั้งนี้ ทำให้สามารถจับกุมผู้ต้องหาและตรวจยึดอาวุธปืนได้เป็นจำนวนมาก จึงขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกนายที่ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่และฝากประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องประชาชน หากมีเบาะแสเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวกับอาชญากรรม หรือเรื่องอื่นๆ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 191 หรือสายด่วน 1599 ได้ตลอด 24ชั่วโมง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี