วันที่ 17 ตุลาคม 2566 ร.ต.อ.กิตติพัฒน์  ราชภัณฑ์ พงส.สภ.เวียงสา  นำตัวนายวัตร อายุ 34 ปี ส่งฝากขังต่อศาลจังหวัดน่าน หลังก่อเหตุบุกปีนหน้าต่างเข้าไปพยายามข่มขืนหลานสาวในไส้วัย 17 ปี ในห้องนอนหลานสาว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2566 เวลา 06.30 น.ศูนย์วิทยุนครน่าน 191 ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน ว่ามีเหตุคนร้ายเข้างัดแงะบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยพิสูจน์หลักฐานจังหวัดน่านจึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว ยกพื้นสูง หลังหนึ่งในตำบลอ่ายนาไลย อำเภอเวียสา จังหวัดน่าน

พบนางรัตน์ อายุ 70 ปี เป็นเจ้าบ้าน แจ้งว่าเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ได้มีคนร้ายปีนเข้ามาทางหน้าต่างเข้ามาภายในห้องนอนหลายสาววัย 17 ปี เมื่อเข้ามาได้กระโดดขึ้นคล่อม ใช้มือลวนลามขณะนอนหลับอยู่บนที่นอน หมายจะข่มขืนกระทำชำเรา เมื่อหลานสาววัย 17 ปี รู้ตัวจึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น ก่อนหลานสาววัย 17 ปี จะคว้าไดเป่าผมที่วางอยู่ใกล้ที่นอนฟาดไปที่ตัวคนก่อเหตุ ทั้งใช้เล็บข่วน ก่อนที่จะถูกคนร้ายใช้มือปิดปากได้ตะโดนสุดเสียง “ยายช่วยด้วย” ก่อนยายจะเปิดประตู ห้องจนคนร้ายตกใจแล้วรีบหนีไป

จากการตรวจสถานที่เกิดเหตุ เก็บวัตถุพยานในที่เกิดเหตุเพื่อทำการตรวจพิสูจน์ ประกอบด้วย
1.ไฟฉาย แบบติดหัว จำนวน 1 อัน 2.ไดร์เป่าผม จำนวน 1 เครื่อง 3.ขี้เล็บผู้เสียหาย ซึ่งใช้ขูดร่างกายผู้ต้องหาขณะต่อสู้ ป้องกันตัว จึงได้ถ่ายภาพและทำแผนที่บริเวณเกิดเหตุไว้แล้ว เป็นหลักฐาน

ต่อมาวันที่ 16 ตุลาคม 2566 เวลา 14.30 น. ได้ควบคุมตัวนายวัตร อายุ 34 ปี ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้บ้านหลังเกิดเหตุ ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัย จึงนำตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจ ในข้อหาเสพยาบ้า แต่เมื่อขอให้ถอดเสื้อเพื่อดูร่องรอยการขีดข่วน พบร่องรอยเล็บขีดข่วนทั้งต้นคอ แขน และสีข้าง มีซักถามนายวัตร ถึงกับหน้าถอดสีเปิดปากยอมรับสารภาพว่าร่องรอย ดังกล่าวถูกหลานสาวใช้เล็บข่วนหลังก่อเหตุปีนหน้าต่างห้องหลานสาววัย 17 ปี เพื่อจะข่มขืนแต่ไม่สำเร็จ

โดยนายวัตร ให้การต่อ ร.ต.อ.กิตติพัฒน์  ราชภัณฑ์ พงส.สภ.เวียงสา ว่า วันเกิดเหตุตนได้ดื่มเหล้าจนเมาแล้วเสพยาบ้าไปเม็ดครึ่งจนเวลาประมาณตีสามกว่าตนเกิดอารมณ์เปลี่ยว อารมณ์ทางเพศอย่างรุนแรงจึงนึกถึงหลานสาววัย 17 ปี ซึ่งพ่อของหลานสาวเป็นลูกพี่ลูกน้องกันกับตนเห็นหลานสาวมาตั้งแต่เล็กจนโตเป็นสาววัยแรกแย้มตนเกิดความชอบพอมากกว่าหลานสาวจึงคิดว่าจะไปแอบดูหลานสาววัย 17 ปี นอนหลับหวังกลับมาช่วยตัวเอง 

แต่เมื่อไปถึงพบหลานสาวนอนอยู่แต่ที่หน้าต่างเปิดแง้มเอาไว้ ตนจึงเปิดหน้าต่างแล้วปีนเข้าไปขึ้นคร่อมและลวนลามแต่หลานสาววัย 17 ปีได้ดิ้นรนและร้องตนจึงใช้มือบีบคอแต่หลานสาวก็ดินต่อสู้ขีดข่วน และตะโกนร้องตนจึงเอามือปิดปาก แต่คาดว่ายายน่าจะได้ยินเปิดประตูออกมาและมาที่ห้องหลานสาววัย 17 ปี ตนเห็นท่าไม่ดีจึงวิ่งหนีกระโดดหน้าต่างหนีไปแล้วใช้ชีวิตปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเชิญตัว บอกว่าตนเสพยาแต่ไม่คิดว่าเจ้าหน้าที่จะทราบแล้วว่าตนไปก่อเหตุมา

ด้านทางยาย พ่อและแม่ของสาววัย 17 ปีที่พึ่งเดินทางกลับมาทำงานที่จากกรุงเทพฯ เปิดเผยข้อมูลให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ในคืนเกิดเหตุฝนตก น้องจึงไม่ได้เปิดแอร์ เลยแง้มหน้าต่างไว้ให้อากาศระบาย เพราะในหมู่บ้านไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ทั้งระแวกบ้านก็มีแต่เคลือญาติกัน ส่วนยายให้ข้อมูลว่าตนเป็นคนชักชวนให้นายวัตร มาทำคอกวัวอยู่ตรงข้ามบ้านเพื่อจะได้ช่วยกันสอดส่องดูแลหลานสาว แต่ไม่คิดเลยว่าจะชวนโจรให้มาอยู่ใกล้บ้าน โดยทางพ่อกับแม่ยืนยันว่าขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด แต่อนุญาตผู้สื่อข่าวไม่ให้สัมภาษณ์

ด้าน พ.ต.อ.ดเรศ กัลยา รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน กล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรเวียงสา ทางย่าได้เข้ามาแจ้งความว่ามีญาติกันได้บุกรุกเข้ามาและพยายามข่มขืนหลานสาวที่นอนอยู่ในห้อง ที่อาศัยอยู่ในบ้านกันเพียงสองคน เจ้าหน้าที่ก็ออกตรวจสอบที่เกิดเหตุและสืบสวนจนสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นญาติที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง ก่อนหน้าลงมือได้ดื่มเหล้าและเสพยาบ้า จึงไปก่อเหตุเพราะแอบชอบหลานสาวมาเป็นเวลานาน หลังดื่มเหล้าและเสพยาเลยเกิดอาการคึกเลยไปก่อเหตุกับหลานสาวแท้ๆ

เบื้องต้น ร.ต.อ.กิตติพัฒน์  ราชภัณฑ์ พงส.สภ.เวียงสา แจ้งข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษ ยาบ้า บุกรุกเคหะสถานยามวิกาล พยายามข่มขืนเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป