'แม่หนุงหนิง'เผยลูกเข้าฝันบอกลาครั้งสุดท้ายก่อนวันเผา ด้าน'รมว.ยุติธรรม-พ.ต.อ.ทวี สอดส่องฯ'ร่วมงมานฌาปณกิจ
จากเหตุการณ์เด็กชายวัย 14 กราดยิงภายในห้างสยามพารากอน เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นหญิงชาวจีน 1 ราย และหญิงชาวเมียนมา 1 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บ 5 ราย หนึ่งในนั้นมีหญิงไทยหนึ่งรายคือ น.ส.เพ็ญพิวรรณ หรือหนุงหนิง ที่ถูกยิงทั้งหมด 4 นัด บริเวณศีรษะ 2 นัด ลำตัวอีก 2 นัด จนกระทั่งวันที่ 13 ต.ค. ที่ผ่านมา ทนพิษบาดแผลไม่ไหวทำให้เสียชีวิต
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 19 ต.ค.2566 ที่วัดบางไผ่ พระอารามหลวง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นางนลินนาถ ไกรนรา พ.ต.อ.ทวี สอดส่องและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เดินทางร่วมงานณาปณกิจศพ น.ส.หนุงหนิง หรือเพ็ญพิวรรณ มิตรธรรมพิทักษ์ เหยื่อเด็ก 14 กราดยิงที่ห้างสยามพารากอน
โดยนางนลินนาถ กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาร่วมงานฌาปณกิจ น.ส.หนุ่งหนิง มาแสดงความเสียใจในการสูญเสียกับทางญาติและคุณแม่ของน้องหนุงหนิง โดยในส่วนกระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมาเป็นประธานในงาน และในส่วนของกรมคุ้มครองสิทธิ์ จะดูแลในเรื่องค่าตอบแทนให้กับผู้เสียหาย สำหรับกรมพินิจเนื่องจากเด็ก 14 ปีอยู่ในความดูแลของกรมพินิจ ซึ่งระหว่างนี้เด็กยังอยู่ที่สถาบันกัลยา ในส่วนของอาการของเด็ก 14 ปีนั้น ทางการแพทย์ขอให้เป็นเรื่องของทางการแพทย์ ซึ่งทางกรมพินิจยังไม่ได้รับแจ้งเรื่องอาการหรือการให้ยาใดๆ เพราะในตอนนี้ทางสถาบันเป็นผู้ดูแลเด็กชาย 14 ปีที่อยู่ในความคุ้มครองโดยตรง
ด้าน นางเพ็ญศรี มิตรธรรมพิทักษ์ อายุ 72 ปี แม่ของ น.ส.หนุงหนิง ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า จนถึงวันนี้ตนยังเสียใจจนพูดไม่ออก แม้จะเป็นการจัดงานศพให้กับลูกเป็นวันสุดท้ายแล้ว เมื่อคืนที่ผ่านมาตอนตีสี่ครึ่ง ตนรู้สึกว่าลูกสาวมาเข้าฝันเพื่อลาตน โดยเขามายืนร้องไห้ ไม่พูดอะไรสักคำ ตนจำได้ว่าตนยังดุลูกสาวไปด้วยว่า หนูหายไปไหนมาตั้งหลายวัน เขาก็ได้แต่ยืนร้องไห้ก่อนจะหายไป ซึ่งเมื่อคืนก็เป็นคืนที่ครบ 7 วันพอดี ตนอยากบอกกับลูกสาวว่าไม่ต้องห่วงแม่ แม่อยู่ได้สบาย อยากให้ลูกได้ไปเกิดใหม่อีกครั้ง แล้วขอให้เราได้กลับมาเป็นแม่ลูกกันอีก เพราะลูกสาวตนเป็นเด็กดีคอยช่วยเหลือครอบครัวมาโดยตลอด ตนจึงรู้สึกเสียใจมากที่ต้องสูญเสียบุตรสาวที่มีอยู่คนเดียวไป
ด้าน พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า น้องหนุงหนิงช่วงแรกเป็นผู้บาดเจ็บสาหัส เกณฑ์การเยียวยาของการบาดเจ็บสาหัสได้ 50,000 บาท ต่อมาเสียชีวิตตามเกณฑ์ได้อีก 200,000 บาท สรุปได้ 250,000 บาท ตามกฎหมายพระราชบัญญัติการช่วยเหลือผู้เสียหายและค่าตอบแทนจำเลย ซึ่งเป็นเกณฑ์ทั้งคนไทยและมนุษย์ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เพราะเรามีกฎหมายที่อยากคุ้มครองประชาชน ในกรณีที่เป็นความผิดที่รัฐควรจะไปปกป้องคุ้มครองชีวิต ในหมวดของความผิดอาญา ซึ่งวันนี้ได้จ่ายไปแล้ว 50,000 บาท ส่วนอีก 200,000 บาทต้องประชุมคณะกรรมการก่อน
พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า ตอนนี้เด็กอายุ 14 ปี ผู้ก่อเหตุ อยู่ในความดูแลของแพทย์ ซึ่งศาลไม่ให้ประกันตัว ให้มาอยู่ที่กรมพินิจและคุ้มครองเด็ก แต่เนื่องจากมีการประเมินอาการของเด็กจึงได้ส่งไปที่แพทย์ ซึ่งแพทย์เห็นว่าป่วยหรือไม่ป่วยไม่ทราบ แต่มีกระบวนการที่หมอบอกว่าเป็นความลับ ตามกฎหมายก็ห้าม เราจึงไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนเรื่องการกระทำผิดเป็นเรื่องของศาล ตอนนี้ตัวผู้กระทำผิดโดยตรงมีอยู่แล้ว เราดูมูลเหตุผู้ใช้ผู้สนับสนุนมาก่อเหตุได้อย่างไร ตำรวจพยายามสอบสวนสืบสวนอยู่ รวมถึงเหตุปัจจัยที่มาของปืนหรือพฤติกรรมต่างๆ ซึ่งต้องให้เวลาพนักงานสอบสวน ก็อยากจะเรียนกับครอบครัวว่ากระบวนการยุติธรรมเราทำเต็มที่ เรื่องนี้ได้ตัวผู้กระทำความผิด เราต้องเคารพแพทย์ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่แค่คนไทยเสียชีวิต มีชาวต่างชาติเสียชีวิตด้วย รายงานแพทย์ก็ต้องให้สมบูรณ์ ซึ่งเรื่องแพทย์เราไม่สามารถกำหนดเวลาได้ เรื่องอาการทางจิตจะเป็นวิชาชีพเฉพาะ ส่วนบาดแผลอื่นๆ เราก็มองเห็นในใบชันสูตร แต่เรื่องทางจิตเป็นเรื่องของหมอ เราก็ไม่ได้กดดันหมอ ยังต้องใช้เวลาอยู่ แต่เวลาไปเยี่ยมไม่ได้เจอเด็กเจอแต่หมอ หมอก็บอกว่ายังเป็นความลับที่ไม่อยากจะเปิดเผย แต่ไม่ได้ปิดบังใช้ความรู้ทางแพทย์ และหมอก็ไม่ใช่คนเดียวเป็นทีมแพทย์ช่วยกันดู ---017
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี