นักท่องเที่ยวแห่ไหว้ขอพร‘พระสุภัทรบพิตร’บนยอดภูเขาไฟกระโดง ช่วงหยุดยาวคึกคัก

23 ต.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการท่องเที่ยวของพี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยว ในช่วงวันหยุดยาว โดยพบว่า ที่บริเวณ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าภูเขาไฟกระโดง ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้มีประชาชน และนักท่องเที่ยว ทั้งในจังหวัดบุรีรัมย์และต่างจังหวัด ได้พาครอบครัวพร้อมบุตรหลาน กลุ่มเพื่อน และหมู่คณะ เดินทางขึ้นไปกราบไหว้สักการะ พระสุภัทรบพิตร จำลององค์ใหญ่ ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนยอดภูเขาไฟกระโดง และยังได้กราบสักการะพระภัทรบพิตร องค์พระขนาดใหญ่มีหน้าตักกว้าง 12 เมตร ฐานกว้าง 14 เมตร ภายในเศียรบรรจุพระธาตุหรือพระบรมสารีริกธาตุ ประทับอยู่ขอบปากปล่องภูเขาไฟ รูปจันทร์เสี้ยว หันหน้าไปทางทิศเหนือเข้าเมือง  ซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อเสริมสิริมงคลให้แก่ตนเอง และครอบครัว ในช่วงหยุดยาวติดต่อกันอย่างคึกคัก

ประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่ขึ้นไปกราบสักการะพระสุภัทรบพิตรแล้ว ณ จุดชมวิว ยังได้ชมทั้งทัศนียภาพ ทิวทัศน์ ความงามของเมืองบุรีรัมย์ในมุมสูง ที่มองลงมาจากบนยอดภูเขาไฟกระโดงด้วย พร้อมกันนี้ยังได้ถือโอกาสเที่ยวชมสะพานแขวนลาวา ข้ามปากปล่องภูเขาไฟ ที่มอดดับสนิทมาแล้วนับแสนปี ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 265 เมตร ปัจจุบันได้มีการบูรณะปรับปรุง ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดด้วย

นอกจากนี้ บนยอดภูเขาไฟกระโดง ยังมีต้นโยนีปีศาจ โดยมีชื่อเรียกอื่นๆ เช่น มะกอกโคก , สำโรง ,มะกักป่า , มะกอกเผือก และหีผี เป็นต้น ซึ่งภาษาเขมรถิ่นไทยเรียกว่า ต้นกะนูยขม๊อจ ( อ่านว่า-กะ-นูย-ขะ-ม็อด) หรือต้นหีผี เป็นต้นไม้ประจำถิ่นที่หายาก ยืนต้นอยู่ข้างๆ องค์พระสุภัทรบพิตร ก็ได้รับความสนใจจากประชาชน และนักท่องเที่ยว ถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกด้วยเช่นกัน

ต้นโยนีปีศาจเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบสูงประมาณ 10-15 เมตร และจะมีผลเป็นรูปไข่กลับ เปลือกแข็ง เมล็ดมีปีก เมื่อผลแก่จัดจะร่วงตกลงมาจากต้น และแตกออกเป็น 2 ซีก มองดูคล้ายอวัยวะเพศหญิง จึงเป็นที่มาของชื่อ “โยนีปีศาจ” ซึ่งเป็นนามพระราชทานโดย สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ////-005