กทม.ร่วมขับเคลื่อน “โครงการสานพลังขับเคลื่อนเคาท์ดาวน์ PM2.5 เพิ่มสุขภาวะคนเมือง (หลวง)”เดินหน้าภารกิจต่อยอด พัฒนาต้นแบบรถ EV Conversion ใช้งานจริง / พัฒนาแพลตฟอร์ม OpenData เข้าถึงคนกรุง / ออกแบบผังปลูกต้นไม้เพิ่มประสิทธิภาพดูดซับคาร์บอน-กรองฝุ่น 

กรุงเทพมหานคร่วมขับเคลื่อนโครงการสานพลังขับเคลื่อนเคาท์ดาวน์PM2.5 เพิ่มสุขภาพคนเมือง (หลวง) (Collaborative Capital PM2.5 Countdown in Action for Capital Better Health Outcome) ซึ่ง กทม.ร่วมกับมูลนิธิส่งเสริมการออกแบบอนาคตประเทศไทย และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2565 เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ด้วยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ สำนักสิ่งแวดล้อม สำนักพัฒนาสังคม สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผลสำนักอนามัย สำนักเทศกิจกองโรงงานช่างกล สำนักการคลังสำนักงานกฎหมายและคดี  สำนักงานประชาสัมพันธ์ และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการต่อเนื่องปี 2566 เป็นปีที่สอง โดยได้มีการประชุมติดตามรายงานผลการดำเนินงานความก้าวหน้าโครงการฯ ในส่วนต่างๆ ณ ศาลาว่าการ กทม. ดินแดง 

สำหรับโครงการสานพลังขับเคลื่อนเคาท์ดาวน์ PM2.5 เพิ่มสุขภาพคนเมือง (หลวง) จัดโดยมูลนิธิส่งเสริมการออกแบบอนาคตประเทศไทย และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกรุงเทพมหานคร เป็นการประสานความร่วมมือของภาคีเครือข่ายภาคส่วนต่างๆ เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาโดยมุ่งสร้างกิจกรรมหรือพื้นที่ต้นแบบขยายผลสู่วงกว้าง ลดแหล่งกำเนิดฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ลดการเผาจากภาคเกษตรและภาคขนส่ง ประกอบด้วย การดัดแปลงรถเก่าเป็นรถไฟฟ้า (EV Conversion) การพัฒนาเครื่องยนต์ต้นกำลังพลังชีวมวล การพัฒนาแพลตฟอร์ม PM2.5 Open Data BKK การพัฒนาออกแบบแผนผังการปลูกต้นไม้ เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์และกรองฝุ่น PM2.5 การบูรณาการการบังคับใช้กฎหมาย การส่งเสริมพฤติกรรมการเดินทางลดฝุ่น การประกวดผลงานลดฝุ่นจากนิสิตนักศึกษา เป็นต้น

ทั้งนี้ ได้มอบหมายภารกิจให้หน่วยงานกรุงเทพมหานครขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหา PM2.5 ในเรื่องต่างๆ ดังนี้ 1.กองโรงงานช่างกล สำนักการคลัง ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องพัฒนาศักยภาพบุคลากรของ กทม. ในการทำรถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง (EV Conversion) ปัจจุบันได้มีการพัฒนาต้นแบบรถไฟฟ้าดัดแปลง ประเภทรถบรรทุก 6 ล้อ และ 4 ล้อ อยู่ระหว่างทดลองใช้งานและประเมินความคุ้มค่าความเหมาะสม ซึ่งหากได้ต้นแบบแล้วจะนำไปขยายผลดัดแปลงรถของ กทม. ใช้งานในหน่วยงานต่างๆ โดยแต่ละหน่วยงานขอจัดสรรงบประมาณดำเนินการ ตั้งเป้าในปี 2568 จะดัดแปลงรถเก่าเป็นรถไฟฟ้าดัดแปลงจำนวน 500 คัน (ตามความเหมาะสมในการใช้งานและงบประมาณที่ได้รับ)พร้อมทั้งนำไปบรรจุหลักสูตรในโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร เปิดสอนให้ประชาชนที่สนใจด้วย

2.สำนักพัฒนาสังคม โดยสำนักงานการส่งเสริมอาชีพ ร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาเครื่องยนต์ต้นกำลังพลังชีวมวล จากฟางข้าวและวัสดุเกษตรให้เกษตรกรไว้ใช้ประโยชน์ และจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอนในโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร 3.สำนักการจราจรและขนส่ง และสำนักการโยธาร่วมกันส่งเสริมการเดินทางลดฝุ่น 

4.สำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) โดยกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้อง ส่งเสริมพัฒนาแพลตฟอร์ม Open Data ของ กทม. ในส่วนของ PM2.5, สำนักงานสวนสาธารณะ พัฒนาออกแบบแผนผังการปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดชับคาร์บอนและกรองฝุ่น PM2.5 ตามนโยบาย “ปลูกต้นไม้ล้านต้น”, บูรณาการบังคับใช้กฎหมายร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง ได้แก่สำนักอนามัย สำนักเทศกิจ สำนักงานกฎหมายและคดี สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักการโยธาและร่วมกับสำนักงานประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ประชาชนให้มีส่วนร่วมต่อการแก้ไขปัญหา PM2.5 ผ่านแพลตฟอร์ม One Blue Sky ให้เข้าถึงประชาชนในวงกว้างมากขึ้นและจัดประกวดผลงานจากนิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล หวังผลช่วยลดฝุ่นในพื้นที่กรุงเทพฯ