กรมอุตุฯ เตือน 41 จังหวัดทั่วไทยรับมือฝนตก โดย กทม.-ปริมณฑล มีฝนร้อยละ 60 ส่วน จ.ตาก ฝนถล่ม น้ำท่วมทางหลวง พ่อเมืองตากสั่งเร่งระบายน้ำแก้ไขด่วน ขณะที่ จ.พะเยา น้ำท่วมตัวเมืองฉับพลัน

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2566 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศทั่วไป ดังนี้ บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคใต้ฝั่งตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่ฝนฟ้าคะนอง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่ฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังหลีกเลี่ยงเดินเรือบริเวณที่ฝนฟ้าคะนอง

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย วันที่ 30ตุลาคม 2566 ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ60ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน ลำปาง แพร่ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.เลย หนองบัวลำภู ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ40ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และลพบุรี ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.นครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ส่วน กทม.และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60ของพื้นที่

ที่ จ.ตาก วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝนที่ตกอย่างหนักทำให้น้ำท่วมฉับพลันบริเวณถนนพหลโยธิน หรือทางหลวงหมายเลข 1บริเวณหน้าโรงเรียนผดุงปัญญา และใกล้สำนักงานขนส่งจังหวัดตาก รวมทั้งบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง นอกจากนี้ ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ อ.วังเจ้าบางส่วน ส่งผลให้รถยนต์สัญจรไปมาไม่สะดวกซึ่งนายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผวจ.ตาก ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมขัง โดยมอบหมายให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ตาก เร่งนำเครื่องสูบน้ำ ร่วมกับแขวงทางหลวงตากที่ 1 เข้าไปติดตั้งบริเวณฝั่งตรงข้ามโรงเรียนผดุงปัญญา เพื่อสูบระบายน้ำที่ท่วมขังอยู่บนถนนพหลโยธินออกแล้ว เนื่องจากเป็นถนนสายหลักที่ประชาชนใช้สัญจรในชีวิตประจำวัน

ขณะที่ จ.พะเยา ช่วงเช้าวันเดียวกัน ได้เกิดฝนกระหน่ำในพื้นที่อย่างหนักติดต่อกันนานหลายชั่วโมง ทำให้ถนนบ้านเรือน และสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดพะเยา เกิดน้ำท่วมขัง น้ำระบายไม่ทัน โดยน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร รถยนต์และจักรยานยนต์ ถูกน้ำท่วมขังจนเกือบมิดคันและชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนในการสัญจร ผู้โดยสารที่จะโดยสารรถโดยสาร ไม่สามารถเข้าไปในสถานีขนส่งผู้โดยสารได้ ซึ่งฝนยังคงตกต่อเนื่อง ทำให้น้ำระบายไม่ทันไหลเข้าท่วมพื้นที่ในปริมาณเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ คาดว่าถ้าฝนหยุดน้ำจะระบายจนแห้งหมดภายใน 1 ชั่วโมง

นายพิเชษฐ์ อ้อยหวาน เจ้าของร้านขายของฝากในสถานีขนส่งผู้โดยสารดังกล่าว เปิดเผยว่า หลังจากมีการสร้างทางระบายน้ำของเทศบาลเมืองพะเยา เมื่อมีฝนตกตรงจุดบริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสาร ก็จะมีน้ำท่วมขังสูงกว่า 1 เมตรโดยตลอด ซึ่งก่อนหน้านั้นยังไม่มีการก่อสร้างทางระบายน้ำ ปริมาณน้ำจะไม่ท่วมขังมากขนาดนี้ จนร้านค้าที่อยู่ในบริเวณสถานีขนส่งได้รับความเดือดร้อน รถยนต์และจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่และผู้โดยสารที่มาจอดไว้ ได้รับความเสียหายเนื่องจากน้ำท่วม จึงอยากฝากถึงหน่วยงานเทศบาลเมืองพะเยา ขอให้เข้ามาดูแลระบบการระบายน้ำในพื้นที่สถานีขนส่งผู้โดยสารด้วย