ฝุ่นPM2.5พุ่ง
17เขตกทม.เกินมาตรฐาน
เตือนปชช.ระวังสุขภาพ
รัฐบาลโดยก.ทรัพยากรธรรมชาติฯตั้งศูนย์แก้มลพิษทางอากาศ รับมือสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ปี’67 พร้อมเปิดศูนย์ปฏิบัติการระดับจังหวัด เชื่อมโยงนโยบายระดับชาติไปสู่การปฏิบัติระดับพื้นที่ใน 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยรายงานผลตรวจวัดฝุ่น PM 2.5 รายวัน โดยแจ้งเตือน 17 เขตของกทม.ค่าเกินมาตรฐาน เหตุจากฝนตกน้อยลง ประชาชน.ควรเฝ้าระวังสุขภาพ
วันที่ 4 พฤศจิกายน น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญมากกับการแก้ปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองและปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) จึงเตรียมรับมือปัญหาฝุ่น PM2.5 ทุกมิติเร่งด่วน โดยตั้งศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ เป็นศูนย์กลางให้ข้อมูลสถานการณ์ฝุ่นแก่ประชาชนเป็นประจำทุกวัน และคาดการณ์ฝุ่น PM 2.5 ประจำวัน ช่วงเวลา 08.30 น. ผ่านช่องทาง Facebook live ของศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ตั้งกก.แก้ไฟป่าควันฝุ่นระดับชาติ
รองโฆษกรัฐบาลกล่าวต่อว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีมติเห็นชอบมาตรการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ปี 2567 แบบมุ่งเป้า โดยระบุพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ป่าสงวนแห่งชาติ และพื้นที่เกษตรที่ไฟไหม้ซ้ำซาก สร้างกลไกขับเคลื่อนภาคเอกชนร่วมลงทุนแก้ปัญหา พร้อมมีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการแห่งชาติด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า การเผาในที่โล่ง หมอกควัน และฝุ่นละออง เพื่อเป็นกลไกบริหารจัดการทั้งระดับชาติและพื้นที่ ยกระดับมาตรการป้องกันและแก้ปัญหาทั้งการเผาในพื้นที่ป่า พื้นที่โล่ง พื้นที่การเกษตร และหมอกควันข้ามแดน รวมทั้งร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านแก้ปัญหาหมอกควันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน
เปิดศูนย์ฯสู้มลพิษ17จว.เหนือ
ทั้งนี้ วันที่ 8 พฤศจิกายน พล.ต.อ.พัชรวาทจะเดินทางลงพื้นที่จ.เชียงใหม่ ประชุมมอบนโยบายเตรียมรับมือสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ปี 2567 ซึ่งจะจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการระดับจังหวัด ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้อำนวยการศูนย์ เพื่อควบคุมเชื่อมโยงนโยบายระดับชาติลงสู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่ใน 17 จังหวัดภาคเหนือให้บูรณาการทำงานร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
ภาพรวมทั่วปท.ฝุ่นเกณฑ์ปกติ
ด้านศูนย์แก้ปัญหามลพิษทางอากาศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศประจำวันที่ 4 พฤศจิกายน เวลา 07:00 น. พบปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในประเทศอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ แต่พบเกินค่ามาตรฐานในกรุงเทพฯ จ. ปทุมธานี จ. นนทบุรี จ. สมุทรสาคร จ. สมุทรปราการ จ.หนองคาย และจ.กาฬสินธุ์ ส่วนผลตรวจวัดตามรายภาคนั้น ภาคเหนือภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีวัดได้ 4.8 – 24.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐาน 2 พื้นที่วัดได้ 10.0 – 42.2 มคก./ลบ.ม. ภาคกลางและตะวันตกภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ปานกลางวัดได้ 22.7 – 37.5มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออกภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีวัดได้ 13.0 – 25.6มคก./ลบ.ม. ภาคใต้ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 7.2 – 12.5มคก./ลบ.ม. กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ กทม. เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่วัดได้ 13.9 – 61.3 มคก./ลบ.ม.
กทม.เกินมาตรฐานสีส้ม17เขต
ทั้งนี้ ในพื้นที่กรุงเทพฯพบปริมาณฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐานอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม) 74 สถานีใน 17 เขตดังนี้ เขตหลักสี่ จตุจักร คลองเตย พระโขนง บางนา พญาไท ดินแดง ห้วยขวาง คลองสามวา มีนบุรี สะพานสูง ตลิ่งชัน บางกอกน้อย ทวีวัฒนา บางแค หนองแขม บางบอน
สำหรับสาเหตุที่ทำให้ฝุ่น PM 2.5 มีแนวโน้มสูงในบางพื้นที่ของกรุงเทพฯและปริมณฑล เนื่องจากฝนน้อยลง มวลอากาศเย็นเริ่มมาปกคลุม ประกอบกับลมอ่อน ทำให้การระบายฝุ่นละอองในพื้นที่ไม่ดีเท่าที่ควร ส่งผลให้ฝุ่นละอองสะสมในพื้นที่ได้ ดังนั้น จึงแนะนำให้งดเผาในที่โล่ง ส่วนคาดการณ์วันที่ 5 พฤศจิกายน ยังต้องเฝ้าระวังการสะสมของฝุ่นต่อเนื่องอีก 1 วัน บางพื้นที่ยังอยู่ในระดับเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม) และบางพื้นที่ลดระดับเป็นคุณภาพอากาศปานกลาง (สีเหลือง) จากนั้นจะดีขึ้นตามลำดับ ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษแนะนำประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑลควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง
ไทยตอนบนมีหมอกฝนตกเล็กน้อย
อีกด้านกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศทั่วทุกภาคของไทยในรอบ 24 ชั่วโมงว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ประกอบกับลมตะวันออกพัดปกคลุมประเทศไทย อ่าวไทย และทะเลอันดามัน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีหมอกตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก บริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามันมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
กลาง-กทม.ฝนตกแค่10%
สำหรับภาคเหนือ มีหมอกตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ที่จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย และตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีหมอกในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ที่จ.นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคกลางมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ที่จ.กาญจนบุรี ราชบุรี ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ที่จ.ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร กรุงเทพฯและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10
ส่วนภาคใต้ ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 มีฝนตกหนักบางแห่ง ที่จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี และยะลา ทะเลคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ภาคใต้ ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจ.พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี