‘หนุ่ม กรรชัย’ร่วมตำรวจ ลุยจับสาวแสบอ้างเป็นเลขาฯ ตุ๋นเงินออก‘โหนกระแส’
5 พฤศจิกายน 2566 เพจเฟซบุ๊ก “โหนกระแส” แจ้งว่า กองปราบบุกจับสาวแสบอ้างตัวเป็นเลขา “หนุ่ม กรรชัย” เรียกเงินผู้เสียหายออกรายการโหนกระแส เจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ ตำรวจไม่ปักใจเชื่อเตรียมสอบสวนขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการ
ตำรวจกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บก.ปอท. นำกำลังพร้อมหมายจับเข้าจับกุม นางสาวฟ้า ภายในคอนโดซอยสุขุมวิท 101 หลังก่อเหตุแอบอ้าง เป็นเลขาของ หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย และเป็นทีมงานของรายการโหนกระแส หลอกผู้เสียหายหลายราย ว่าสามารถช่วยเหลือเรื่องคดีและพามาออกรายการโหนกระแสได้ โดยเรียกเงินค่าออกรายการตั้งแต่ 15,000 บาท บางรายโดนไปเกือบ 250,000 บาท ซึ่งมีผู้เสียหายหลงเชื่อไม่ต่ำกว่า 10 ราย
พฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุ จากการสืบสวนพบว่า นางสาวฟ้าจะหาเหยื่อที่เป็นผู้เสียหายถูกหลอกลงทุน , ถูกโกงแชร์ หรือถูกหลอก ในลักษณะต่างๆ ตามกลุ่ม Facebook หรือเว็บไซต์ pantip จากนั้นจะทิ้งเบอร์โทรศัพท์พร้อม ID LINE ระบุว่าตนเองเป็นเลขาของหนุ่ม กรรชัยและเป็นทีมงานรายการโหนกระแส สามารถพาผู้เสียหายมาออกรายการได้ โดยจะให้ผู้เสียหายที่ประสงค์ออกรายการจ่ายค่ามัดจำคนละ 15,000 บาทเป็นค่าดำเนินการ
ตำรวจจึงทำการสืบสวนสอบสวนและวางแผนร่วมกับหนุ่ม กรรชัย เพื่อทำการจับกุม เบื้องต้น จับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นางสาวเอ ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่า ตนเองไม่รู้เรื่อง ตนเองเป็นบัญชีม้า ได้รับการติดต่อจากบุคคลที่ไม่รู้จักให้ทำการเปิดบัญชี บอกว่าใช้สำหรับการขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยจะแบ่งค่าคอมมิชชันให้
ส่วนนางสาวฟ้าที่จับกุมได้ในคอนโดซอยสุขุมวิท 101 ทางการสืบสวนเชื่อว่าน่าจะเป็น ตัวการหลัก แต่เจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ อ้างว่า นางสาวเอเป็นคนสั่งการให้ตนเองทำทั้งหมด ซึ่งตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะจากการตรวจค้นภายในห้องพักพบหลักฐานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และหลักฐานอื่นอีกหลายรายการที่เชื่อว่านางสาวฟ้าคือตัวการหลักในการก่อเหตุ ล่าสุด พบว่ามีการเปลี่ยนชื่อ นามสกุล ไปถึง 14 ครั้ง เพราะต้องการเลี่ยงการถูกจับ ทางตำรวจเตรียมสอบสวนขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการต่อไป
ขณะที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ระบุว่า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันจับกุม 1.น.ส.พัชญ์ธนัน อายุ 32 ปี ตามหมายจับศาลอาญาลงวันที่ 4 พ.ย.2566 และ 2.น.ส.สุวรรณณา อายุ 38 ปี (บัญชีม้า) ตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 4 พ.ย.2566 ในฐานความผิด “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
พร้อมตรวจยึดของกลาง 1.โทรศัพท์มือถือที่ใช้แอบอ้าง ติดต่อกับผู้เสียหายและทำธุรกรรมการเงิน 4 เครื่อง 2. บัตรกดเงินสด และบัตรเครดิต 13 ใบ 3. สมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย 18 เล่ม 4. สำเนาสมุดบัญชี 1 เล่ม 5. SIM โทรศัพท์ 1 อัน โดยจับกุมได้ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ภายในซอย ปณุณวิถี16 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร และอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ภายในซอย ลาดพร้าว 87 แยก 2 ถ. ลาดพร้าว
พฤติการณ์ คือ มีผู้เสียหายรายหลายเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท. ว่าถูกกลุ่มมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นทีมงานรายการโหนกระแส และเป็นเลขาของ “หนุ่ม กรรชัย” นักแสดงและพิธีกรชื่อดัง หลอกว่าจะช่วยเหลือเรื่องราวที่เดือดร้อน และจะประสานตำรวจให้ช่วยติดตามคดี ก่อนจะหลอกให้โอนเงินเป็นค่าดำเนินการจำนวน 35,000 บาท แต่สุดท้ายกลับปิดทุกช่องทางติดต่อ ไม่สามารถติดต่อได้
เจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มงานสนับสนุน บก.ปอท. ลงพื้นที่สืบสวนทันที จนพบว่าคนร้ายกลุ่มนี้จะแฝงไปในกลุ่มของผู้เสียหายเรื่องต่างๆที่นำเรื่องราวความเดือดร้อนมาโพสต์ขอความช่วยเหลือไว้ รวมทั้งตามเว็บไซต์ชื่อดัง pantip จากนั้นคนร้ายจะเข้าไปคอมเมนต์ใต้โพสต์ดังกล่าว ว่าตัวเองก็เคยเดือดร้อน และได้รับความช่วยเหลือจากรายการโหนกระแส ก่อนจะพิมพ์เบอร์โทรศัพท์ไว้ใต้โพสต์
เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ ทำการติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ดังกล่าว น.ส.พัชญ์ธนัน จะอ้างว่าชื่อ “ฟ้า” เป็นเลขาของ หนุ่ม กรรชัย พร้อมกับให้ทำการแอดไลน์คนชื่อฟ้า ซึ่งเป็นไลน์ปลอม พร้อมสอบถามเรื่องราวความเดือดร้อนของผู้เสียหาย ก่อนจะเรียกขอค่าดำเนินการในการมาออกรายการโหนกระแส จำนวนรายละ 35,000 บาท พร้อมทั้งยังมีการพูดจาหว่านล้อมต่างๆนานา จนผู้เสียหายหลงเชื่อ โอนเงินไปตามจำนวนดังกล่าวไปยังบัญชีของน.ส.สุวรรณณา
แต่สุดท้ายกลับไม่มีการนำผู้เสียหาย หรือเรื่องราวความเดือดร้อนของผู้เสียหายไปออกรายการตามที่กล่าวอ้าง และเมื่อตรวจสอบยังพบว่าคนร้ายกลุ่มนี้ไม่ได้รู้จัก หรือเกี่ยวข้องกับทางรายการดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งพบมูลค่าความเสียหายรวมกว่าหลักแสนบาท ขณะที่เมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินในบัญชีของ น.ส.สุวรรณณา พบเงินที่เชื่อว่ามาจากการกระทำความผิด จำนวน 353,273 บาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมขอศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ก่อนจะสืบทราบแหล่งที่พักของผู้ต้องหาทั้ง 2 ข้างต้น จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวไว้ได้ในที่สุด พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอท. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น น.ส.พัชญ์ธนัน ให้การรับสารภาพ
ขณะที่น.ส.สุวรรณณา อ้างว่า ตนไม่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงดังกล่าว แต่รับสารภาพว่ารู้จักกับ น.ส.พัชญ์ธนัน ฯ จริง ก่อนที่น.ส.พัชญ์ธนัน ฯ อ้างกับตนว่าทำธุรกิจคลินิกเสริมความงาม และต้องการหลบเลี่ยงภาษี จึงขอยืมบัญชีไปใช้รับโอนเงินเท่านั้น ////-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี