DSI จับกุมผู้บริหารจัดการด้านการเงินให้กับเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ในเครือ UFA
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 พันตำรวจตรีสุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงผลการดำเนินคดีพิเศษที่ 8/2566 กรณีพนักงานอัยการแนะนำให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการพนัน และความผิดมูลฐานอื่น ซึ่งเป็นคดีที่ทำการสอบสวนต่อเนื่องเกี่ยวกันกับคดีพิเศษที่ 60/2563 (คดีชบา ภาค 1) ซึ่งได้ดำเนินคดีกับเจ้าของสโมสรฟุตบอล และเจ้าของร้านอาหารชื่อดังไปแล้วก่อนหน้านี้
ต่อมาอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้สั่งการให้กองคดียาเสพติด ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลไปยังกลุ่มบุคคลที่มีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงจากนางชบา ว่ามีพฤติการณ์เข้าข่ายการกระทำ ความผิดกฎหมายฐานใดหรือไม่ เป็นคดีพิเศษที่ 8/2566 (คดีชบา ภาค 2)
คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดียาเสพติด ได้รวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน พบว่านายภาคภูมิ (ขอสงวนนามสกุล) มีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงจากบัญชีม้าที่ใช้ในเครือข่ายของนางชบา (ขอสงวนนามสกุล) โดยตั้งแต่ปี 2560 ถึงปัจจุบัน พบว่ามีเส้นทาง การเงินเชื่อมโยงกันกว่า 83 บัญชีเงินฝากธนาคาร โดยบางบัญชีมีเงินหมุนเวียนกว่า 1,000 ล้านบาท โดยนายภาคภูมิ มีพฤติการณ์เป็นบุคคลใกล้ชิดเจ้าของเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ที่สุดของประเทศรายหนึ่ง ทำหน้าที่เป็นผู้บริหารจัดการรายได้จากเอเจนท์เว็บไซต์พนันที่รับไปทำการตลาดอีกทอดหนึ่ง ซึ่งต้องจ่ายค่าดำเนินการให้กับเจ้าของเครือข่ายของเว็บพนันออนไลน์หลักที่ชื่อว่า UFA การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายองค์ประกอบความผิดฐานฟอกเงิน ศาลอาญาได้อนุมัติออกหมายจับที่ 3683/2566 เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2566 ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน
คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดียาเสพติด ได้สืบสวนเพื่อติดตามจับกุม จนพิสูจน์ทราบว่า นายภาคภูมิ ได้เดินทางออกนอกประเทศและจะเดินทางกลับเข้ามาในประเทศทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในวันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2566 เวลาประมาณ 23.00 น. จึงได้ประสานให้ชุดปฏิบัติการของศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทำการจับกุมนายภาคภูมิ นำส่งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดียาเสพติดเพื่อดำเนินคดีและต่อมาได้นำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาลอาญา โดยคัดค้านการประกันตัว ซึ่งศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ทั้งนี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ทำการสอบสวนขยายผลไปยังเครือข่ายรายอื่นๆ โดยได้อายัดบัญชีธนาคารไว้แล้วจำนวน 83 บัญชี ซึ่งส่วนใหญ่มีบุคคลต่างด้าวเป็นเจ้าของบัญชี
จึงขอเตือนไปยังนายจ้างที่มีบุคคลต่างด้าวเป็นลูกจ้าง เพราะปัจจุบันธนาคารได้กำหนดให้นายจ้างต้องรับรองการเปิดบัญชีธนาคารของลูกจ้างต่างด้าว ให้ทำการตรวจสอบสอดส่องไม่ให้ลูกจ้างนำบัญชีที่เปิดไปขายหรือให้กลุ่มอาชญากรใช้ ซึ่งหากสืบสวนพบนายจ้างอาจมีความผิดร่วมกับลูกจ้างในฐานเป็นตัวการร่วมหรือผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี