“อนุทิน” ขออภัยสื่อสารผิดพลาด ระบุสถานบันเทิง 4 จังหวัดนำร่องขายสุราได้ถึงตี 4 เว้นร้านอาหารได้แค่เที่ยงคืน ด้าน ปลัดสธ.เตรียมทำข้อมูลผลกระทบหลังเปิดจริง ยันสถานพยาบาลพร้อมรับมือ
เมื่อวันที่ 7พฤศจิกายน2566 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึง 04.00น.ว่า ตนจะให้อธิบดีกรมการปกครองเป็นผู้แถลงในรายละเอียดจะดีกว่า อย่างไรก็ตาม ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่จะให้ดำเนินการในวันที่ 15ธันวาคมนี้นั้น เราพยายามเร่งทำตามประกาศที่จำเป็นต้องแก้ไขให้เรียบร้อย
เมื่อถามถึงกรณีที่เคยระบุว่าขยายเวลาเปิดถึง 04.00น.แต่ไม่ขยายเวลาการขายสุรานั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ตนอาจจะผิดไปนิดหน่อย ต้องขออภัย เพราะตอนนั้นพูดไปหลายเรื่อง วันนั้นที่บอกว่าขายสุราได้ถึงเที่ยงคืนนั้น ตนหมายถึงสถานบริการที่มีลักษณะคล้ายสถานบันเทิง มีรายละเอียดเยอะแยะไปหมด ซึ่งอย่างไรร้านอาหารสามารถขายสุราได้แค่เที่ยงคืน ส่วนถ้าเป็นสถานบริการที่ได้รับใบอนุญาตอยู่แล้วใน 4 จังหวัด ได้แก่ กทม.เชียงใหม่ ภูเก็ต ชลบุรี ก็สามารถเปิดถึง 04.00น.และสามารถขายสุราได้ตามใบอนุญาตที่มีอยู่ ส่วนสถานบริการที่อยู่ในโรงแรม ก็เปิดถึง 04.00น.ได้เช่นกัน ตนขอพูดคร่าวๆ เท่านี้ ส่วนรายละเอียดอธิบดีกรมการปกครองจะเป็นผู้แถลง
ขณะที่ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายภาครัฐที่จะให้มีการขยายเวลาเปิดสถานบริการที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากกระทรวงมหาดไทยในพื้นที่โซนนิ่ง ภายใน 4 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ต และชลบุรี ว่า ทาง สธ.ก็จะเฝ้าระวังเรื่องการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยมอบให้กรมควบคุมโรคปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมถึงปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด ขณะเดียวกัน ก็มีระบบเฝ้าระวังผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชน เช่น จำนวนผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ว่ามากน้อยอย่างไร จำนวนการเกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวเนื่องกับแอลกอฮอล์ การเกิดเหตุทะเลาะวิวาท อย่างไรก็ตาม ทางกรมควบคุมโรคมีคณะอนุกรรมการด้านในการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่แล้ว ซึ่งก็จะมีการสรุปผลออกมาให้ทางกระทรวงฯ ทราบเป็นระยะ
ผู้สื่อข่าวถามว่าจำเป็นต้องผ่อนปรนการกำหนดเวลาการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในพื้นที่โซนนิ่งด้วยหรือไม่ นพ.โอภาสกล่าวว่า ในหลายเรื่องไม่ใช่กฎหมายที่กระทรวงฯ ดูแล ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ออกกฎหมาย ทางกระทรวงฯ จะดูแลเรื่อง 1.สถานที่ การควบคุมเวลา ควบคุมคนดื่ม ควบคุมการขาย และควบคุมการโฆษณา ดังนั้น ก็ต้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ 2.ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงในเชิงวิชาการและผลกระทบนั้น ก็ต้องมีการเฝ้าระวังโดยกรมควบคุมโรคต่อไป โดยเฉพาะการเกิดอุบัติเหตุที่สัมพันธ์กับการดื่มแอลกอฮอล์
“ตอนนี้ยังไม่เริ่มเปิดบริการถึงตี 4 แต่เมื่อเริ่มเปิดตามนโยบายของรัฐบาลแล้ว เราก็จะเก็บข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แล้วประเมินตามหลักการวิชาการ ถึงจะบอกได้ว่าผลกระทบนั้นมากขึ้นหรือน้อยลง หน้าที่ของหน่วยงานรัฐคือทำตามกฎหมาย อันไหนอยู่ในกฎหมายเราก็ทำตามนั้น และต้องดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้น กระทรวงสาธารณสุขเป็นส่วนหนึ่งในการเฝ้าระวัง ข้อมูลวิชาการที่จะมาอธิบายว่ามีอะไรเกิดขึ้น” ปลัด สธ. กล่าว
นพ.โอภาสกล่าวว่า การดื่มแอลกอฮอล์มีหลายมิติ ไม่ใช่มิติทางการแพทย์อย่างเดียว ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมการดื่มด้วยอย่างในหลายประเทศ ไม่มีการควบคุมมากแต่อุบัติเหตุน้อย ขณะที่ประเทศไทยอุบัติเหตุมาก ซึ่งเรื่องนี้อาจขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการดื่มของแต่ละประเทศด้วย
ถามต่อว่าข้อมูลผลกระทบที่กรมควบคุมจะดำเนินการนั้น จะต้องเสนอต่อรัฐบาลก่อนจะมีการประกาศขยายเวลาเปิดสถานบริการหรือไม่ นพ.โอภาสกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีการเริ่มขยายเวลาเปิด จึงยังไม่มีข้อมูลเรื่องผลกระทบหลังมีการขยายเวลา ซึ่งผลกระทบต่างๆ ตอนนี้เป็นการคาดการณ์จากข้อมูลประเทศอื่น แต่เมื่อไหร่ที่เป็นนโยบายนำสู่การปฏิบัติก็จะเป็นข้อมูลที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งเป็นหน้าที่ของ สธ. นำข้อมูลไปสู่การแจ้งเตือนทางภายนโยบายในการตัดสินใจ
เมื่อถามว่าในการกำหนดพื้นที่ให้ขยายเวลาเปิดได้ถึงตี 4สธ.จำเป็นต้องเสนอความพร้อมเรื่องสถานพยาบาลหรือไม่ นพ.โอภาสกล่าวว่า สถานพยาบาลของประเทศไทยควบคุมค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะ 4 จังหวัดเป้าหมาย สถานพยาบาลมีความพร้อม ทั้งการให้บริการและการส่งต่อผู้ป่วย
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการเปิดเผยข้อมูลว่าหากเกิดอุบัติเหตุ เจ็บป่วยใดๆ จากการดื่มแอลกอฮอล์ ค่าใช้จ่ายในการรักษาจะไม่ครอบคลุมคนกลุ่มนี้ นพ.โอภาสกล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยทุกคน ทางการแพทย์เราดูแลให้หมดทุกคนไม่มีปัญหาอะไร แม้กระทั่งเวลามีการดื่มแอลกอฮอล์แล้วไปขึ้นรถเกิดอุบัติเหตุ เราก็ดูแลรักษาให้ แต่ที่จะมีประเด็นคือเรื่องของการเบิกค่าใช้จ่ายประกันส่วนตัวของบุคคล ที่อาจจะไม่สามารถเบิกได้ เพราะประกันอาจจะไม่ครอบคลุม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี