ผู้ใหญ่บ้านห้วยนา ตำบลแม่เงา อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ร้องสื่อหลังได้รับจ้างให้ก่อสร้างฝายกั้นน้ำตามโครงการพัฒนาเศรษฐกิจสิ่งแวดล้อมเพื่อลดฝุ่นควันจากเจ้าหน้าที่ในสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน แต่เมื่อก่อสร้างฝายเสร็จแล้วกลับไม่ได้รับเงินค่าจ้างส่งผลกระทบต่อตนเองและลูกบ้านที่ยากจนเหมือนทำงานฟรีวอนสื่อกระทุ้งให้ผู้รับผิดชอบออกมาชนใช้เงินค่าจ้างเป็นการด่วน
วันที่ 8 พ.ย.66 นายศุภมิตร อมรอาจหาญ อายุ 45 ปีผู้ใหญ่บ้าน บ้านห้วยนา หมู่ 5 ต.แม่เงา อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ได้นำข้อมูลเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อเมษายน 2566 ได้มีเจ้าหน้าที่ของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่1 สาขาแม่ฮ่องสอนมาติดต่อขอให้ก่อสร้างฝายกั้นน้ำเพื่อการเกษตรจำนวน 6 ฝาย ประกอบด้วยฝายกึ่งถาวรจำนวน 4 ฝาย และฝายถาวรจำนวน 2 ฝาย โดยฝายถาวรให้ราคาฝายละ 39,000 บาท ส่วนฝายกึ่งถาวรให้ราคาฝายละ 18,000 บาท ปัญหาคือทางหน่วยงานป่าไม้จ่ายเงินมาไม่ครบคือค้างฝายถาวร 2 ฝายที่ยังไม่ได้จ่ายเงินเป็นเงิน 78,000 บาท ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านคือทางหน่วยงานป่าไม้รับปากว่าจะจ้างชาวบ้านวันละ 300 บาทโดยทางผู้ใหญ่บ้านก็กระจายให้คนในชุมชนผลัดเปลี่ยนมารับจ้างทำฝายเพื่อให้ทุกคนมีรายได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวผ่านมา 7 เดือนแล้วทุกคนยังไม่ได้เงินจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้แต่อย่างใด
นายศุภมิตร เปิดเผยต่อว่า ตนได้เดินทางเข้าจังหวัดไปที่ศาลากลางจังหวัดและสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน หลายครั้งแต่ก็ได้รับคำตอบว่าให้รอไปก่อนแล้วจะดำเนินการให้ แต่ก็ล่วงเลยไปถึง 7 เดือนแล้วก็ยังไม่มีการดำเนินการแต่อย่างใด จนต้องร้องเรียนต่อสื่อมวลชนเพื่อให้เป็นกระบอกเสียงอีกทางหนึ่งเพื่อให้มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ตนโดยเร็ว
สำหรับโครงการดังกล่าวจากสัญญาเลขที่ 153/2566 สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน ลงวันที่ 16 มีนาคม 2566 ระหว่างสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน กับ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แห่งหนึ่งในตัวเมืองแม่ฮ่องสอนซึ่งเป็นร้านก๊อปปี้และถ่ายเอกสาร ผู้ว่าจ้างตกลงจ้างและผู้รับจ้างตกลงรับจ้างทำงาน จ้างเหมาโครงการพัฒนาเศรษฐกิจสิ่งแวดล้อมเพื่อลดฝุ่นควัน ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ณ ท้องที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตำบล/แขวง จองคำ อำเภอ/เขต เมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัด แม่ฮ่องสอน ผู้ว่าจ้างตกลงจ่ายและผู้รับจ้างตกลงรับเงินค่าจ้างจำนวนเงิน 11,118,060 บาท (สิบเอ็ดล้านหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นแปดพันหกสิบบาทถ้วน) ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม จำนวน 727,349.72 บาท (เจ็ดแสนสองหมื่นเจ็ดพันสามร้อยสี่สิบเก้าบาทเจ็ดสิบสองสตางค์)
พบว่ามีผู้นำท้องถิ่นจำนวนมากที่ได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ในสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอนให้ดำเนินการก่อสร้างฝายดังกล่าวทุกพื้นที่และทุกคนได้รับค่าจ้างไม่ตรงกับที่ทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ฯ ได้มีการทำสัญญากับเอกชนในการก่อสร้างฝายแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้นางสาวธนิษฐา (ขอสงวนนามสกุล) อดีตเป็นพนักงานในสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน ที่ถูกศาลพิพากษาจำคุกในคดีฉ้อโกงจัดซื้ออุปกรณ์อิเลคทรอนิคของสำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ฯ ก่อนที่จะถูกศาลตัดสินจำคุกได้ทำเรื่องร้องเรียนต่อสื่อมวลชนโดยระบุว่า ขอให้ตรวจสอบโครงการพัฒนาเศรษฐกิจสิ่งแวดล้อมเพื่อลดฝุ่นควัน ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ที่ได้รับงบประมาณจากจังหวัดแม่ฮ่องสอน หัวหน้าฯโครงการมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในด้านการจ้างงานโดยให้ร้านคู่ค้าที่รู้จักสนิทสนมคุ้นเคยมาทำการอิบิ้ดดิ้งเสนอราคาให้ต่ำสุดเพื่อหวังจะได้งานนี้ และให้เจ้าหน้าที่พัสดุในสำนักงานเป็นคนเสนอราคาและทำเอกสารให้ทั้งหมด ซึ่งห้างหุ้นส่วนคู่ค้าไม่มีความชำนาญการในงานด้านการก่อสร้างและไม่มีเคยมีประสบการณ์ในด้านนี้ ซึ่งร้านคู่ค้าได้ทำการเบิกจ่ายงบประมาณออกไปแล้วหลายงวดงาน งานที่ได้ออกมาไม่ได้เป็นตามแบบแปลนหรือสเปกงานตามรายละเอียดคุณลักษณะงานและได้จ้างผู้ใหญ่บ้านในท้องที่จัดทำฝายแบบถาวรและแบบกึ่งถาวรทำโดยให้ชาวบ้านเป็นคนทำโดยอ้างว่าเป็นการสนับสนุนการทำฝายของสำนักฯเพื่อชุมชน ซึ่งความเป็นจริงเงินงบประมาณเป็นการจ้างห้างหุ้นคู่ค้าไปดำเนินการงานเอง
แต่การดำเนินการในครั้งนี้ห้างหุ้นส่วนคู่ค้าไม่ได้ไปดำเนินการเองแต่อย่างใด โดยให้เจ้าหน้าที่ประจำส่วนจัดการป่าชุมชน สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน เป็นผู้ดำเนินการเอาเงินไปให้ผู้ใหญ่บ้านแต่ละท้องที่ที่มีการทำฝายฯ จัดทำฝายเองโดยอาศัยให้ลูกบ้านเป็นคนทำโดนอ้างว่าได้รับเงินสนับสนุนจากสำนักฯ จำนวนเงิน 10,000-30,000 บาท เพื่อทำฝายในท้องที่ตัวเอง แต่ความเป็นจริงงบประมาณที่ให้ห้างคู่ค้าได้รับงบประมาณจากการเสนอฝายถาวร ตัวละ 70,000 บาท และฝายกึ่งถาวรตัวละ 35,000 บาท แต่ราคาที่ชาวบ้านได้รับ ไม่เป็นไปตามงบประมาณที่ได้มา และไม่มีช่างผู้ควบคุมงานไปตรวจสอบทำรายงานช่างหรือรายงานรายวัน และจังหวัดแม่ฮ่องสอนไม่ได้มีการการไปตรวจสอบว่าทำงานจริงหรือเปล่า และไม่มีรูปคู่ค้าไม่ที่ปรากฏรูปภายในการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ จึงขอใช้สื่อเป็นตัวกลางในการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวด้วย
"เรื่องการทุจริตดังกล่าว ตนได้ทำการส่งข้อมูลเอกสารทั้งหมด ให้แก่เจ้าหน้าที่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ปปช.) ประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอนไปแล้วด้วย ซึ่งคาดหวังไว้ว่าเรื่องดังกล่าว ทาง สำนักงาน ปปช.แม่ฮ่องสอน จะดำเนินนำตัวคนกระทำผิดมาลงโทษโดยเร็ว"นางสาวธนิษฐา เผยต่อสื่อมวลชน - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี