แก๊งค้าหมูเถื่อนแฉ
จ่ายเงินเจ้าหน้าที่รัฐตู้ละ 3 หมื่นบ.
ค่าเคลียร์ของส่งลูกค้าตามออเดอร์
พนักงานสอบสวนดีเอสไอสอบเข้ม พ่อลูกนายทุนนำเข้าหมูเถื่อน 33 ตู้สารภาพข้อมูลสำคัญระบุจ่าย“ค่าเคลียร์ของ” ให้เจ้าหน้าที่รัฐตู้ละ 3 หมื่นบาท เพื่อให้เปิดตู้นำหมูแช่แข็งส่งให้ลูกค้าได้ทันตามออเดอร์ รับต้องจ่าย เพราะถ้าปล่อยไว้นานเนื้อหมูจะเน่าเสียหาย ดีเอสไอชี้ให้การเป็นประโยชน์จึงอนุญาตประกันตัว
ความคืบหน้าหลังเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) จับกุมนายวิรัช ภูริฉัตร อายุ 69 ปี กรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท เว้ลท์ซี่ แอนด์ เฮ็ลธ์ซี ฟูดส์ จำกัด และบริษัท เดอะ กู๊ด ช็อป จำกัด นายธนกฤต ภูริฉัตร อายุ 42 ปี บุตรชายนายวิรัช ตามหมายจับศาลอาญาที่ 3654-3655/2566 ซึ่งเป็นกลุ่มนายทุนสั่งเนื้อหมูแช่แข็งนำเข้ามาในประเทศไทย ความผิดฐานหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียอากร ตามพ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 และนำเข้าส่งออกหรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์ หรือซากสัตว์ โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ก่อนถูกคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 59/2566 สอบปากคำและให้ประกันตัวในชั้นสอบสวนนั้น
2นายทุนแฉจ่ายส่วยให้จนท.รัฐ
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน คณะพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน 161 ตู้เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำ นายวิรัช ภูริฉัตร กรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท เว้ลท์ซี่ แอนด์ เฮ็ลธ์ซี ฟูดส์ จำกัด และบริษัท เดอะ กู๊ด ช็อป จำกัด นายธนกฤต ภูริฉัตร บุตรชายนายวิรัช ในคดีพิเศษที่ 59/2566 ปรากฏว่าทั้งคู่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และเปิดเผยข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี อาทิ ให้การว่าตนจ่ายเงินให้บริษัทชิปปิ้งเอกชน 2 แห่งคือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กันตา ไทยโฟรเซ่นฟิช 23 ตู้ และบริษัท มายเฮ้าส์ เทรดดิ้ง จำกัด 10 ตู้ รวมทั้งหมด 33 ตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งคำให้การสอดรับกับคำให้การของกลุ่มชิปปิ้งเอกชนที่ดีเอสไอจับกุมไปแล้ว
“ก่อนหน้านี้ บริษัทชิปปิ้งเอกชนได้ซัดทอดว่าเนื้อหมูแช่แข็งที่นำเข้ามานั้น นิติบุคคลใดเป็นผู้สั่งให้นำเข้า ซึ่งหนึ่งในกลุ่มนายทุนก็คือนายวิรัชและนายธนกฤติ สองพ่อลูกคู่นี้ ขณะที่คำให้การของสองคนระบุ มีเงินส่วนหนึ่งที่ได้จ่ายให้ 2 บริษัทชิปปิ้งเอกชน โดยเป็นเงินที่เรียกว่าค่าเคลียร์ของ ซึ่งบริษัทชิปปิ้งเอกชนเรียกเงินตกตู้ละ 30,000 บาท และชิปปิ้งเอกชนจะรับหน้าที่จ่ายให้เจ้าหน้าที่รัฐ”พนักงานสอบสวนคดีระบุ
ให้การเป็นประโยชน์จึงให้ประกันตัว
และว่า ทั้งนี้ เมื่อนายวิรัชและนายธนกฤต ให้ความร่วมมือให้การเป็นอย่างดี พนักงานสอบสวนจึงห้พิจารณาปล่อยตัวชั่วคราว อีกทั้ง ที่ผ่านมาไม่มีพฤติการณ์หลบหนี เพราะประสานขอมอบตัวกับดีเอสไอมาตลอด แต่ติดปัญหาเรื่องการจ้างทนายความ กระทั่งลงตัววันที่ 14 พฤศจิกายน กลับจากเวียดนามมาไทย ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหายอมให้การเปิดเผยข้อมูลสำคัญทั้งหมด อาจเพราะรู้ดีว่าข้อมูลเหล่านี้สามารถขยายผลไปสู่การเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องและตัวเองอาจได้รับการพิจารณาถูกกันไว้เป็นพยานได้
คณะพนักงานสอบสวนยังเผยถึงกระบวนการทำงานของบริษัทชิปปิ้งเอกชนว่า ชิปปิ้งจะทำหน้าที่สั่งสินค้าเข้ามาเพื่อออกของ แต่การสั่งของเป็นการสั่งสินค้าตามออเดอร์ของพ่อค้าคนกลางหรือกลุ่มนายทุน เช่น สองพ่อลูกคู่นี้ และเมื่อได้รับสินค้ามาแล้วจะกระจายส่งไปยังห้างสรรพสินค้า หรือศูนย์กระจายสินค้าขนาดใหญ่ โดยกรณีของผู้ต้องหาทราบว่าได้กระจายเนื้อหมูส่งไปยังผู้สั่งซื้อหลายสิบราย ซึ่งมีลักษณะเป็นศูนย์กระจายสินค้า ไม่ใช่เขียงหมูตามตลาดนัดทั่วไป
ต้องยอมจ่ายเพื่อเคลียร์ตู้หมูผ่านฉลุย
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีสองพ่อลูกคล้ายถูกขูดรีดจากเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ คณะพนักงานสอบสวน อธิบายว่า เมื่อสินค้าจะมาถึงไทยแล้ว ชิปปิ้งเอกชนก็ต้องนำเงินที่ได้รับจากนายทุนซึ่งก็คือสองพ่อลูก ไปเคลียร์กับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง ถามว่าไม่เคลียร์ได้หรือไม่ ก็ทำได้ แต่สินค้าจะไม่ได้ออกจากท่าเรือแหลมฉบัง อีกทั้ง ค่าใช้จ่ายที่เช่าวางตู้คอนเทนเนอร์นั้น ผู้ต้องหาให้การว่ารายจ่ายตกวันละ 3,000 บาท แต่ถ้าผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ จะกลายเป็น 7,000 บาท ทำให้ผู้ต้องหายอมจำนนจ่ายค่าเคลียร์ของดังกล่าวเพื่อให้จบ และสินค้าจะได้นำส่งตามออเดอร์ ไม่อย่างนั้นสินค้าจะเน่าเสีย หรือแม้กระทั่งเหตุผลที่ว่าเป็นตู้คอนเทนเนอร์มีแอร์ แต่ถ้าผ่านวันเวลาไป คุณภาพของเนื้อหมูจะลดลง ทำให้มีแต่เสียกับเสีย
คณะพนักงานสอบสวนเผยอีกว่า สำหรับเนื้อหมูแช่แข็งที่ผู้ต้องหานำเข้าและแจ้งว่าเป็นการนำเข้าเพื่อแปรรูป ทำให้กลุ่มผู้ต้องหาต้องดำเนินการภายใน 3 วัน เพราะเกี่ยวข้องกับระเบียบกรมปศุสัตว์ ดังนั้น แม้นำเข้าเนื้อหมูถูกต้อง แต่ถ้าพ้นกำหนดวันจะกลายเป็นหมูเถื่อนอยู่ดี ทำให้ทุกกระบวนการ ผู้ต้องหาต้องรีบดำเนินการ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น ยังไม่มีการอายัดทรัพย์สินของนายวิรัชและนายธนกฤตไว้ตรวจสอบแต่อย่างใด อยู่ระหว่างขั้นตอนสอบสวนทางคดีและขยายผล
ปศุสัตว์สั่งทุกจว.ตรวจเข้มหมูเถื่อน
ด้านนายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ได้สั่งหนังสือด่วนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ขอให้สั่งการปศุสัตว์จังหวัดและปศุสัตว์อำเภอเข้มงวดตรวจสอบ ควบคุม กักกัน กำกับดูแลการเคลื่อนย้ายสัตว์ ซากสัตว์ และดำเนินคดีให้เป็นไปตามระเบียบข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมถึงกำชับผู้อำนวยการกองสารวัตรและกักกัน ให้สั่งการด่านกักกันสัตว์ทุกด่านเช่นเดียวกัน
ส่วนกรณีผู้ต้องหา 2 คนซึ่งถูกกล่าวหาว่า มีความเกี่ยวข้องกับการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนเข้าไทย ระบุจ่ายค่าเคลียร์ของให้เจ้าหน้าที่รัฐนั้น อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า ได้ส่งหนังสือด่วนถึงอธิบดีดีเอสไอขอความร่วมมือให้ส่งข้อมูลและเอกสารหลักฐานตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่า ดีเอสไอตรวจยึดเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินเพื่อเบิกทางนำเข้าและเคลื่อนย้ายหมูเถื่อน ในบ้านผู้ต้องหารายหนึ่ง เพื่อนำมาตรวจสอบว่าเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์เกี่ยวข้องจริงหรือไม่ ในช่วงเวลาใด หากได้ข้อเท็จจริงเอกสารหลักฐานยืนยันว่าเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ทำผิด จะดำเนินการ ทางวินัยและกฎหมายอาญาเด็ดขาด
มุกดาหารจับซากหมูเถื่อน2พันกก.
วันเดียวกัน นายณรงค์ รัตนตรัยวงศ์ หัวหน้าด่านกักกันสัตว์มุกดาหาร มอบหมายสารวัตรกรมปศุสัตว์ ด่านกักกันสัตว์มุกดาหารนำกำลังเจ้าหน้าที่ ตรวจสอบ เฝ้าระวังเข้มงวดการเคลื่อนย้ายสัตว์ - ซากสัตว์ บริเวณบ้านคำอาฮวน ต.คำอาฮวน อ.เมือง จ.มุกดาหาร ได้ตรวจพบรถกระบะมิตซูบิซิ สีขาว ทะเบียนระยอง บรรทุกซากหมู 2,000 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบรถคันดังกล่าวไม่พบเอกสารการขนย้ายสัตว์ จากการตรวจสอบผู้ทำผิดทราบว่า ได้เคลื่อนย้ายซากสุกรจากต้นทางอ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ปลายทางอ.เมืองมุกดาหาร โดยไม่มีใบอนุญาตเคลื่อนย้ายฯ จึงแจ้งข้อกล่าวหา เคลื่อนย้ายสัตว์ หรือซากสัตว์เข้า-ออก ผ่านเขตเฝ้าระวังโรคระบาดสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต ความผิดตามมาตรา 22 และเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์ข้ามเขตจังหวัดโดยไม่ได้รับอนุญาต ความผิดตามมาตรา 34 แห่ง พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 พร้อมส่งตัวผู้ต้องหาและของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร ดำเนินคดีต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี