ทาสยาคลั่งมั่วสุม 3 วันซ้อน เสพจนหลอนไล่ทำร้ายพ่อแม่ จุดไฟเผาบ้าน 6 ชั่วโมงยังไม่หมดฤทธิ์คลั่ง จนท.ถอนกำลังรอญาติเกลี้ยกล่อม
25 มิถุนายน 2568 เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ศูนย์วิทยุ 191 ได้รับแจ้งจากนางนิตยา ศรีชื่น ผู้ใหญ่บ้านนาโพธิ์ หมู่ที่ 5 ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม ว่ามีชายคลุ้มคลั่งอาละวาดทำลายข้าวของอยู่ในบ้านเลขที่ 61 หมู่ 5 จึงประสาน พ.ต.ท.พร้อม รัตนะ รอง ผกก.ปราบปราม สภ.เมืองนครพนม พ.ต.ต.ศักดา ต้นจันทน์ สวป. ร.ต.อ.สุระชัย นครคำสิงห์ หัวหน้าสายตรวจ สภ.เมืองนครพนม ลงพื้นที่ร่วมกับทหารหน่วยจู่โจมมณฑลทหารบกที่ 210 (มทบ.210) รวมถึงฝ่ายปกครองเมืองนครพนม พร้อมอุปกรณ์เช่นง่ามเหล็ก โล่กำบัง กระสุนยยาง แก๊สน้ำตา สำหรับเข้าควบคุมตัว
พบว่าเป็นบ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ ผู้ก่อเหตุทราบว่าชื่อนายนัย เสนสอน หรือกะตู่ อายุ 45 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน ส่งเสียงเอะอะโวยวายอยู่บนบ้าน มีร่องรอยทุบกระจกหน้าต่างจนแตก นอกจากนี้ยังยิงหน้าไม้ใส่คนที่เดินผ่านไปมา รวมทั้งเจ้าหน้าที่ออกมาเป็นระยะ จึงต้องเพิ่มความระมัดระวัง
โดยนายกะตู่ตะโกนด่า ตามด้วยเสียงทุบสิ่งของ ขณะเดียวกันเพื่อนบ้านพยายามพูดจาเกลี้ยกล่อม และนายกะตู่ก็โผล่หน้ามายืนคุยที่หน้าต่างชั้นสอง ลักษณะโพกผ้าที่หัว สวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน แต่พูดจาแทบจับใจความไม่ได้ เวลาผ่านไปร่วม 3 ชั่วโมง ยังไม่มีทีท่าว่านายกะตู่จะสงบสติอารมณ์ ประกอบกับมีฝนตกลงมา ในขณะที่เจ้าหน้าที่พยายามเข้าไปในบ้าน โดยผู้ก่อเหตุได้ปิดประตูลงกลอนทุกด้าน ทำให้การเข้าชาร์จตัวเป็นอย่างยากลำบาก
ขณะเดียวนายกะตู่ยังไม่หยุดความบ้าคลั่ง เมื่อรู้ว่าเจ้าหน้าที่จะเข้ามาในบ้าน ได้ใช้หน้าไม้พันด้วยผ้าแล้วราดน้ำมันจุดไฟ เพื่อยิงใส่เจ้าหน้าที่ จึงต้องโทรเรียกรถดับเพลิง อบต.บ้านผึ้ง เตรียมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน กระทั่งเวลาทุ่มเศษนายกะตู่ก็จุดไฟเผาบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำดับไฟ เพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังบ้านข้างเคียง แต่นายกะตู่ยังไม่หมดฤทธิ์ ยังส่งเสียงโวยวายอยู่บนชั้นสอง ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามจะจับกุมตัว แต่เวลามืดค่ำและผู้ก่อเหตุมีอาวุธ จึงไม่ผลีผลามเข้าไป และรอให้อาการคลุ้มคลั่งลดลง รวมทั้งให้ญาติเกลี้ยกล่อม ได้ถอนกำลังกลับในเวลา 20.50 น.
จากการสอบถาม นางกิ่งแก้ว อายุ 65 ปี แม่ของนายกะตู่เปิดเผยว่าผู้ก่อเหตุเป็นลูกคนโต ในจำนวนพี่น้อง 3 คน ปัจจุบันบ้านหลังนี้มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 คน คือพ่อแม่และนายกะตู่ ส่วนลูกอีก 2 คนแยกออกไปมีครอบครัวหมดแล้ว เดิมนาสยกะตู่นิสัยดีเอางานเอาการ ภายหลังเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดจนถอนตัวไม่ขึ้น ก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน หนักเข้าก็ไม่สนใจงานการ เริ่มหงุดหงิดง่ายโวยวายดุด่าพ่อแม่ จนต้องให้เจ้าหน้าที่นำตัวไปบำบัดหลายครั้ง กลับมาก็หวนไปเสพยาเหมือนเดิม และมีแนวโน้มว่าจะเสพหนักกว่าเก่า
วันเกิดเหตุก่อนที่นายกะตู่จะคลุ้มคลั่ง ได้หายหน้าไป 3 วัน 3 คืนติด กลับเข้าบ้านในตอนบ่ายโมง ก็นั่งบ่นคนเดียว ตาขวางใส่บุพการีและขึ้นมึงขึ้นกู พร้อมจะทำร้ายร่างกาย พ่อแม่เห็นท่าไม่ดีจึงรีบชวนกันออกมานอกบ้าน และไปแจ้งกับนางนิตยา ศรีชื่น ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ช่วยให้ตำรวจมานำตัวไปสงบสติอารมณ์ หากขืนปล่อยไว้รังแต่สร้างความเดือดร้อนให้เพื่อนบ้าน รวมถึงคนชราและผู้ป่วยพิการ ที่มีบ้านอยู่ใกล้เคียง พากันหวาดผวาทาสยารายนี้อย่างมาก
.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี