"คนไทย"เล่าหนีตายจากเลาก์ก่าย ก่อนได้รับความช่วยเหลือ ถูกส่งไปหนานเติ้ง-เมืองว้า ก่อนเข้าสู่ไทย พบหลายคนเครียด-ซึมเศร้า พบกว่า 100 ชีวิต ไม่ทราบชะตากรรม
18 พ.ย.2566 ที่ค่ายเม็งรายมหาราช อ.เมือง จังหวัดเชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคนไทย 41 คนได้รับการช่วยเหลือในเลาก์ก่าย รับการตรวจสอบคัดกรองโรคและซักถามจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พบว่า หลายคนมีอาการเครียดและเป็นโรคซึมเศร้า โดย 1 ใน 41 คนไทยที่เดินทางกลับมาจากเลาก์ก่าย เล่าถึงที่มาของการเดินทางเข้าไปทำงานเลาก์ก่ายว่า ได้หางานในเว็บไซต์ เจอรับสมัครงานในตำแหน่งการตลาด แต่ต้องเดินทางไปทำที่ประเทศเมียนมา จึงได้สมัคร และไปทำวีซ่าอย่างถูกต้อง ก่อนเดินทางไปที่เมืองมัณฑะเลย์
แต่เมื่อไปถึงมีรถมารับในเวลา 04.00 นาฬิกา รู้สึกแปลกใจว่างานไม่ตรงกับที่คุยกันไว้ ก่อนที่จะถูกพาตัวไปที่เมืองเลาก์ก่ายแต่ให้ไปทำคอลเซ็นเตอร์ ในอาคารหมายเลข 8 และมีการยึดพาสปอร์ต ก่อนแยกตนเองกับแฟนออกจากกัน
สำหรับเหตุการณ์ในการหนีออกมาจากพื้นที่ดังกล่าวหลังจากมีกระแสข่าวว่าทางการจีนจะเข้ามาปราบปรามกลุ่มทุนจีนสีเทาในเมืองเลาก์ก่าย จึงมีการส่งข่าวต่อกันในกลุ่มคนไทย จึงได้เก็บสัมภาระเพื่อเตรียมหนีออกจากอาคารหมายเลข 9 จากนั้นมีการเปิดประตูในช่วงเช้า
จากปกติเข้มงวดการเข้าออก ตนและพวกอีก 41 คน จึงได้หลบหนีขึ้นจักรยานยนต์ ซึ่งมีคนจีน ที่เรียกกันว่าบอสได้มาตาม จึงตัดสินใจเรียกมอเตอร์ไซค์วิน วิ่งกันเป็นขบวนไปจนถึงจุดที่มีการปะทะกัน และพบกับทหารโกก้างพร้อมแจ้งให้ 41 คนไทยทราบว่า ไม่ให้เดินทางไปบริเวณเส้นทางใดและห้ามกลับเข้าไปในเมือง พร้อมแจ้งจุดนัดพบของคนที่ออกมาจากเลาก์ก่าย ให้มารวมตัวกัน แล้วทหารโกกั้งก็รวมคนไทยไปอยู่เมืองหนานเติ้ง ซึ่งได้รับการดูแลอย่างดี และมีการนำตัวคนไทยทั้ง 41 คนไปอยู่ที่เมืองว้า ที่ได้รับการดูแลอย่างดีมาก เพื่อรอทางการไทยมาช่วยเหลือ ก่อนจะกลับมาส่งตัวที่เชียงตุงเพื่อให้ทหารเมียนมานำมาส่งให้กับทหารไทยที่ชายแดน
1ใน 41 คนไทยดังกล่าว ยังได้เปิดเผยต่อว่า บอสที่เป็นชาวจีนบางคนก็ถูกหลอกมา ดูแลคนไทยที่ถูกหลอกมาทำงาน ซึ่งมีทั้งคนดีและไม่ดี ทั้งนี้หากมีการโทรศัพย์แจ้งให้ญาติที่ประเทศไทยทราบ และให้ไปแจ้งความ ชื่อคนที่โทรไปแจ้งญาติ จะไปปรากฎต่อกลุ่มคนจีนสีเทาที่อยู่ในประเทศจีน คนที่โทรไปก็จะถูกลงโทษทันที
สำหรับการช่วยเหลือคนไทยในเลาก์ก่าย เป็นความร่วมมือระหว่าง กระทรวงกลาโหม โดยกองทัพบก กระทรวงต่างประเทศ โดยกองทัพบกใช้ช่องทางคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา หรือ TBC โดยฝ่ายไทยนำโดย พล.ท. อนุภาพ สิริมณฑล เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก พล.ต.ประพัฒน์ พบสุวรรณ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง และ พ.อ.ณฑี ทิมเสน ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก ในฐานะประธาน TBC ผ่านสั่งการ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก ส่วนฝั่งเมียนมา มี พ.อ.ตู่ล่า ส่อ วิน โซ ผู้บังคับกองบังคับการยุทธศาสตร์ท่าขี้เหล็กในฐานะประธาน TBC ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองท่าขี้เหล็ก และเจ้าหน้าที่ TBC ฝ่ายเมียนมา
โดยคนไทยทั้ง 41 คนออกเดินทางจากจังหวัดเชียงตุง ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ประมาณ 160 กิโลเมตร โดยข้ามจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 ก่อนขึ้นรถบัสเดินทางยังไปมณฑลทหารบก 37 ค่ายเม็งรายมหาราช เข้าสู้ขั้นตอนการตรวจคัดโรค โดย รพ.ค่ายเม็งรายมหาราช รวมทั้งดำเนินกรรมวิธี ของ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ทั้งนี้ ทางกองกำลังผาเมือง กองทัพภาคที่ 3 ได้เตรียมที่พักสามารถรองรับได้ถึง 200 คน พร้อมจัดจุดพักคอยให้กับญาติที่มารอรับ สำหรับ การปฏิบัติการช่วยเหลือคนไทยได้ดำเนินการเป็นขั้นตอนตามลำดับ โดยมีหน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก กองกำลังผาเมืองและคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา หรือ TBC เป็นหน่วยปฏิบัติหลัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังมีผู้ตกค้างในเลาก์ก่าย ที่ยังติดต่อไม่ได้ และหนีกระเจิดกระเจิงไปคนละทิศละทาง ไม่สามารถติดต่อได้อีกนับ 100 ชีวิต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี