ชายแดนด้านแม่ฮ่องสอนเดือดอีกครั้ง หลังทหารเมียนมาปะทะกับทหารกะเหรี่ยงคะยา บริเวณพื้นที่ด้านทิศตะวันตกของฐานยามู ฐานกองบัญชาการหลักของกองกำลังกะเหรี่ยงคะยา ส่งผลให้ผู้ลี้ภัยตรงข้ามบ้านใหม่ในสอย ที่เดินทางกลับไปเมียนมาเมื่อไม่นาน หนีตายทะลักเข้ามาอีกครั้ง
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2566 แหล่งข่าวผู้นำระดับสูงของ กองกำลัง KA เปิดเผยว่า สถานการณ์การสู้รบในรัฐคะยา ยังคงมีการสู้รบอย่างดุเดือด ระหว่าง กองกำลังติดอาวุธ KA KNDF PDF KNPLF กับทหารเมียนมา ในพื้นที่ตัวเมืองลอยก่อว์ เมืองโมเบีย เมืองแผ่โข่ง (เขตรัฐฉานติดรัฐคะยา) สรุปในการสู้รบ ทหารของกองกำลังผสมกะเหรี่ยงคะยา สามารถยึดฐานที่มั่นของทหารเมียนมา ได้ทั้งหมด 17 ฐานที่มั่น ทหารเมียนมาเสียชีวิตจำนวน 98 นาย ถูกจับเป็นเชลย 32 นาย ในจำนวนนั้น 4 นายไม่ได้รับบาดเจ็บซึ่งมี ผบ.ร้อย กองพันที่ 6 รวมอยู่ด้วย ส่วนผบ.พัน และรอง ผบ.พัน คร.425 และ พัน.ร.6 เสียชีวิตทั้งหมด
ในส่วนของสถานการณ์ในรัฐคะยา ที่ติดกับจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตรงข้ามบ้านในสอย ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 15 - 16 พ.ย.2566 ทหารเมียนมา ได้ยิง ค.120 มม.โจมตีไปยังค่ายผู้ลี้ภัยดอว์นกกุอีกครั้ง ส่งผลให้ผู้ลี้ภัยในค่ายดังกล่าว ซึ่งได้เดินทางกลับมาจากประเทศไทย ได้พากันหนีเข้าสู่ประเทศไทย ที่บ้านใหม่ในสอยอีกครั้ง
ล่าสุดยอดผู้ลี้ภัย จากการรายงานของ ศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จ.แม่ฮ่องสอน ระบุว่า มีผู้ลี้ภัยจากเมียนมาหนีเข้ามาเพิ่ม รวมเป็นจำนวน 2,544 คน ได้แก่ 1.พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านเสาหิน หมู่ที่ 1 ตำบลเสาหิน อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอนยอดเดิม 000 คน ไม่มียอดเพิ่มเติม สมัครใจเดินทางกลับ 000 คน คงยอดปัจจุบัน 000 คน 2.พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านพะเเข่ หมู่ที่ 3 ตำบลแม่กี๊ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ยอดเดิม 617 คน ไม่มียอดเพิ่มเติม สมัครใจเดินทางกลับ 34 คน คงยอดปัจจุบัน 583 คน 3.พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านอุนู หมู่ที่ 4 ตำบลแม่คง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ยอดเดิม 488 คน ไม่มียอดเพิ่มเติม คงยอดปัจจุบัน 488 คน 4.พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านจอปร่าคี หมู่ที่ 9 ตำบลแม่คง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอนยอดเดิม 882 คน ไม่มียอดเพิ่มเติม คงยอดปัจจุบัน 882 คน และ 5.พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านใหม่ในสอย หมู่ 4 ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ลี้ภัยหลบหนีภัยสงครามเข้ามาจำนวน 591 คน (หลบหนีเข้ามาใหม่)
ก่อนหน้านั้น แถลงการณ์ศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอนสถานการณ์บริเวณพื้นที่แนวชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 เวลา 08.00 - 18.00 น. ร้อย.ร.1743 ฐานฯ สิงขร 3 ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ได้ยินเสียงเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด ค.120 มม.จำนวน 5 ครั้ง ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของฐานฯ ในฝั่งรัฐคะยา ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 10 - 15 กม.และ ตรวจพบ อากาศยานทำการบินบริเวณพื้นที่ด้านตรงข้ามอำเภอเมือง จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน 22 ครั้ง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา
ปัจจุบัน ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม) ที่มีความกังวลจากสถานการณ์ในพื้นที่ได้เดินทางเข้ามายังฝั่งไทย ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน 4 พื้นที่ ปัจจุบันคงเหลือยอดจำนวน 2,153 คน รายละเอียดดังนี้ 1.พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านเสาหิน หมู่ที่ 1 ตำบลเสาหิน อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอนยอดเดิม 313 คน ไม่มียอดเพิ่มเติม สมัครใจเดินทางกลับ 299 คน คงยอดปัจจุบัน 14 คน 2.พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านพะเเข่ หมู่ที่ 3 ตำบลแม่กี๊ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ยอดเดิม 784 คน ไม่มียอดเพิ่มเติม สมัครใจเดินทางกลับ 15 คน คงยอดปัจจุบัน 769 คน 3.พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านอุนู หมู่ที่ 4 ตำบลแม่คง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ยอดเดิม 488 คน ไม่มียอดเพิ่มเติม คงยอดปัจจุบัน 488 คน และ 4.พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านจอปร่าคี หมู่ที่ 9 ตำบลแม่คง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอนยอดเดิม 882 คน ไม่มียอดเพิ่มเติม คงยอดปัจจุบัน 882 คน
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี