การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แม้จะมีความเสี่ยง แต่ก็เป็นความเสี่ยงภายใต้การควบคุมของหน่วยงานที่น่าเชื่อถือซึ่งในปัจจุบันนักลงทุนต่างๆ ก็ให้ความสนใจในตลาดทุนหรือตลาดหุ้นกันเป็นอย่างมาก
ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าตลาดหุ้นเมื่อมีคนได้ก็ต้องมีคนเสีย โดยนักลงทุนก็จะมีหลากหลายประเภท หลากหลายรูปแบบ หุ้นก็เช่นกัน มีหุ้นบางตัว บางจำพวกมักมีการขึ้นลงในแบบที่ไม่น่าไว้วางใจ โดยขึ้นหรือลงในลักษณะไม่ได้มีความสัมพันธ์กับงบดุล ซึ่งเป็นที่สงสัยว่ามีการทำราคาหรือที่เราเรียกกันว่า“ปั่นหุ้น” นั่นเอง
โดยในการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์นั้น จะมีสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่คอยกำกับดูแลในเรื่องของการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์อยู่ ซึ่งหากมีหุ้นตัวใดที่มีพฤติกรรมการซื้อขายที่ผิดไปจากสภาพปกติการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 243 (1) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ) โดยมีระวางโทษตามมาตรา 296 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งปัจจุบันพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพ.ร.บ.หลักทรัพย์ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2559 ยังบัญญัติให้การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดอยู่ตามมาตรา 244/3 และต้องระวางโทษตามมาตรา 296 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ
โดย ก.ล.ต. มีอำนาจกล่าวโทษ ต่อ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อีกทั้งหากสามารถตรวจสอบและมีข้อเท็จจริงปรากฏว่ามีความผิดประเภทดังกล่าวเกิดขึ้นยังมีกฎหมายอื่นๆ ที่สามารถเอาผิดกับผู้กระทำผิดได้ เช่น กฎหมายเกี่ยวกับการฟอกเงินซึ่งคดีเกี่ยวกับการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์หรือปั่นหุ้นนั้น เป็นความผิดมูลฐานในคดีฟอกเงินด้วย โดย ก.ล.ต. จะรายงานการดำเนินการดังกล่าวต่อ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อพิจารณาดำเนินการต่ออีกด้วย เนื่องจากความผิดฐานสร้างราคาและปริมาณหลักทรัพย์เป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ปัจจุบันแนวโน้มความเสียหายที่เกิดจากการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ มีแนวโน้มที่จะมากขึ้น และมีจำนวนความเสียหายที่เยอะขึ้น
อย่างไรก็ตามในส่วนของเครื่องมือทางกฎหมายนั้นมิได้มีเฉพาะในกรณีการเรียกร้องทางแพ่งรวมถึงการดำเนินการในศาลล้มละลายเท่านั้นแต่ยังมีโทษทางอาญาและยังมีกรณีข้อหาเกี่ยวกับการฟอกเงินซึ่งน่าจะเป็นกลไกทางกฎหมายที่บังคับให้ผู้ที่จะดำเนินการในตลาดหลักทรัพย์โดยไม่สุจริตนั้นได้รับโทษอยู่บ้าง เพียงแต่ส่วนที่สำคัญคงอยู่ที่การตรวจสอบทางบัญชีและผู้มีอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องว่าจะใช้บังคับกฎหมายได้อย่างเข้มข้นเพียงไร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี