ตำรวจสอบสวนกลาง(CIB) ร่วม อย. ตัดตอนสายหื่น ปราบยาเสียสาวก่อนลอยกระทง ตรวจค้น 6 จุด ยึดยาเสียสาว และยาเสริมสมรรถภาพทางเพศ กว่า 2 พันชิ้น

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 พ.ย. ที่ ชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์  เชาวนาศัย รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.อนุวัฒน์  รักษ์เจริญ รอง ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.สุพจน์  พุ่มแหยม ผกก.4 บก.ปคบ. พร้อม เภสัชกรหญิงวรสุดา ยูงทอง ผู้อำนวยการกองยา ตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายยาปลุกเซ็กส์ หรือ ยาเสียสาว 

จากการนำกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 6 จุด ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร, จ.นนทบุรี, จ.ปทุมธานี และ จ.นครราชสีมา จับกุมผู้กระทบผิดได้ 3 ราย ประกอบด้วย นายอิสรพงษ์  เอียงเทศ อายุ 26 ปี นายบุญ รัสโกตีมาการะ อายุ 31 ปี และ นายพิทยา เมฆคู่ฟ้า อายุ 30 ปี พร้อมตรวจยึดของกลาง 80 รายการ ได้แก่ ยาปลุกเซ็กส์ หรือยาเสียสาว จำนวน 106 ชิ้น, ยาเสริมสมรรถภาพทางเพศ จำนวน 1,891 ชิ้น , ผลิตภัณฑ์สำหรับทากระตุ้นความรู้สึกทางเพศ จำนวน 169 ชิ้น, ผลิตภัณฑ์ต้องสงสัยว่าเป็นยาเสพติดประเภทสารระเหย( ป็อปเปอร์ ) จำนวน 220 ขวด, เซ็กส์ทอยรูปแบบต่างๆ และ ถุงยางอนามัย จำนวน 470 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 1.9 ล้านบาท

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า เนื่องด้วยใกล้ถึงวันลอยกระทงซึ่งเป็นเทศกาลคนหนุ่มสาวมักออกมารวมตัวกันเพื่อ “ลอยกระทง” บางส่วนมีการจัดงานปาร์ตี้ส่วนตัว และสังสรรค์ตามสถานบันเทิง ซึ่งอาจเป็นช่องว่างให้มีการนำยาเสียสาวมาใช้กับเหยื่อเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์สิน ล่วงละเมิดทางเพศ หรือก่ออาชญากรรมรูปแบบอื่น ๆ ได้ จึงสั่งการให้ทางตำรวจ บก.ปคบ. นำกำลังลงพื้นที่กวาดล้างยาเสียสาวเหล่านี้เพื่อเพื่อป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุร้ายตามมา

พล.ต.ต.วิทยา กล่าวว่า หลังรับคำสั่งจึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแสต่างๆ ก่อนพบว่าปัจจุบันมีการลักลอบจำหน่ายยาปลุกเซ็กส์รูปแบบต่างๆ ตามแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆจำนวนมาก ทั้งยาปลุกเซ็กส์สำหรับผู้ชาย - ยาปลุกเซ็กส์ชนิดน้ำไร้รส ไร้กลิ่นสำหรับผู้หญิง, ยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ, และเซ็กส์ทอยจริง จึงเร่งขยายผลสืบสวนจนทราบสถานที่แหล่งกักเก็บสินค้าเพื่อรอจำหน่าย จนนำมาสู่การเปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย พร้อมตรวจยึดของกลางได้เป็นจำนวน

ด้าน พ.ต.อ.สุพจน์ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ให้การรับสารภาพว่า เดิมทีก่อนหน้าเป็นคนคนวิ่งส่งของ กระทั่งช่วงโควิดเห็นช่องทางขายของทางออนไลน์กำลังเป็นที่นิยม จึงผันตัวเองมาเป็นผู้ขายแทน เพราะรู้จักแหล่งที่รับซื้อรายใหญ่ย่านสุขุมวิท เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหา“ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

-001