ผู้เสียหายจากทัวร์ "ทัวร์ อ้วน ผอม" หลายราย รวมตัวเข้าแจ้งความกองปราบ หลังโอนเงินไปเต็มจำนวนแต่ยังไม่ได้ไปเที่ยวสักที เชื่อเป็นทัวร์ทิพย์ สร้างความน่าเชื่อถือเชื่อมั่น จัดโปรแกรมเที่ยว โปร 1 แถม 1 

วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (กองปราบ) ทนายกอร์น นายพงศกร มาตระกูล และ ทนายวิน นายธนาคาร น้อยพิทักษ์ เพจ "ทนายหัวเผือก" และเพจออยศรี พาบรรดาผู้เสียหายประมาณ 100 คน เข้าพบ พ.ต.อ.ไกรวิศท์  แสนทวีสุขผกก.1.บก.ปคบ.พนักงานสอบสวน บก.ปคบ.เพื่อแจ้งความร้องทุกข์เอาผิดผู้บริหารบริษัท "อ้วน ผอม อะราวน์ เดอะ เวิลด์ จำกัด" ข้อหาฉ้อโกงประชาชนและ พ.ร.บ.คอมพ์ฯ 

ทนายกอร์น วันนี้พาผู้สหายมาร้องทุกข์กล่าวโทษ บริษัท "อ้วน ผอม อะราวน์ เดอะ เวิลด์ จำกัด และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนในฐานความผิดฉ้อโกงประชาชน ประมวลกฎหมายอาญา 343 ความเสียหายทั้งหมดกว่า 20 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายไปแจ้งความตามสถานีตำรวจต่างๆ ครึ่งทางตำรวจจะมีการรวมสำนวนและรวมคดีทั้งหมดทั่วประเทศมาไว้ที่กองปราบ ได้มีการแต่งตั้งพนักงานสอบสวนเพื่อช่วยกันดำเนินคดีในเคสนี้ 

ส่วนความคืบหน้ากรณีผู้เสียหายได้ไปเคลียร์พูดคุยกับทางบริษัทนั้นตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆทางบริษัททัวร์ แจ้งเพียงว่ารอนัดวันและหล่อประสานงานซึ่งยังไม่ได้คำตอบใดๆที่ชัดเจน เบื้องต้นยังไม่มีใครได้เงินคืน ตอนนี้มีการแจ้งข่าวลวงในกลุ่มไลน์โดยอ้างตัวว่าเป็นทนายความซึ่งตนก็ไม่แน่ใจว่าเป็นทนายความจริงหรือไม่ โดยระบุว่าห้ามแจ้งความหากแจ้งความจะถูกบริษัททัวร์และผู้ที่เกี่ยวข้องฟ้องร้องกับในข้อหาแจ้งความเท็จ และสำหรับผู้เสียหายที่เกิน 30 วันแล้วในคดีแพ่งไม่สามารถแจ้งความได้ซึ่งขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ขณะเดียวกันยังมีผู้เสียหายอีกหลายคนยังไม่ได้ตัดสินใจจะแจ้งความดำเนินคดี เนื่องจากว่าเขายังคงเชื่อมั่นว่าจะได้ไปเที่ยวหรือเดินทางได้ แต่ผู้เสียหายส่วนใหญ่ร้อยละ 70-80% นั้นไม่มีความเชื่อมั่นแล้วก็จะขอเงินคืนทั้งหมด 

ส่วนตัว ฝากทุกท่าน ให้ดูเคสที่ผ่านมา ยังไม่มีใครได้เงินคืน เพราะฉะนั้น การดำเนินคดีเป็นหนทางที่ดีที่สุดที่จะได้เงินคืน สำหรับคดีฉ้อโกงประชาชนเป็นคดียอมความไม่ได้การดำเนินการก็ต้องดำเนินไปเรื่อยๆ แต่การคืนเงินอาจจะเป็นเหตุบรรเทาโทษต่อบริษัทดังกล่าวได้ ซึ่งก็อยู่ที่ดุลยพินิจของศาล ที่ผ่านมาแม้ว่าทางบริษัททัวร์เอง แม้จะมีการออกมาชี้แจง แต่ก็ไม่มีความชัดเจน ไม่ยอมระบุวันที่จะคืนเงินกับผู้เสียหาย ส่วนตัวของผู้บริหารแม้จะไม่หลบหนี แต่ก็ไม่สามารถที่จะติดต่อได้ ทำให้เห็นเจตนาชัดเจนว่าไม่ได้ประกอบอาชีพทัวร์เป็นอาชีพหลัก เพียงต้องการสร้างตัวให้ผู้เสียหายรู้สึกไว้วางใจ หลังจากนี้จะไปตรวจสอบความคืบหน้าของคดีที่ สคบ.และการท่องเที่ยว 

ด้านตัวแทนผู้เสียหาย กล่าวว่า ทั้งผู้เสียหายเก่าและผู้เสียหายใหม่ยังไม่มีใครได้ไปเที่ยว ต่างได้จ่ายเงินไปเต็มจำนวน นำเงินทุกคนไปแต่ยังไม่มีการจัดทัวร์ให้ไปเที่ยว มีทั้งสวิตเซอร์แลนด์ ญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศ โดยผู้เสียหายรายนี้ เล่าว่า ซื้อทัวร์ไปสวิตเซอร์แลนด์ จองตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว ทักไปตลอดแต่ไม่แจ้งความคืบหน้าใดๆ โอนไปเต็มจำนวน 240,000 บาท แต่ได้รับคำตอบว่าจะแจ้งอีกที และก็หายไปเลย