"บิ๊กต่อ" สั่งจเรสอบนายพลช่วย "เสี่ยแป้ง" หลบหนี ผบ.ตร. ชี้ปืน "เสี่ยแป้ง" ไม่ใช่อาวุธสงครามคาดมีการดัดแปลง ด้าน "รองธนา" ขอให้เชื่อมั่นการทํางาน ปัดตอบหนีออกต่างประเทศ ตั้งจเรสอบนายพลช่วยหลบหนี

วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เปิดเผยกรณีอาวุธปืนที่ "เสี่ยแป้ง" ใช้ต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตํารวจบนเทือกเขาบรรทัดว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าอาวุธปืนดังกล่าวเป็นปืนที่ครอบครองถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ แม้ว่าในภาพจะเห็นเป็นอาวุธสงครามหรือปืนเอ็ม 16 ก็ตาม แต่ต้องทําการตรวจสอบอย่างละเอียดว่ามีการดัดแปลงหรือไม่ เนื่องจากปืนที่เสี่ยแป้งใช้นั้นคาดว่ามีการเสริมพันท้ายและขนาดของลํากล้อง ซึ่งเป็นประเภทที่ประชาชนสามารถครอบครองได้ แต่จะไม่สามารถยิงแบบฟลูออโต้ได้ต่างจากปืนของเจ้าหน้าที่ตํารวจที่สามารถยิงแบบฟลูออโต้ได้ซึ่งถือเป็นอาวุธสงคราม แต่จะใช้ในราชการเท่านั้นประชาชนทั่วไปไม่สามารถขอใบอนุญาตครอบครองได้ อย่างไรก็ตามการที่เสี่ยแป้งใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ก็ถือว่ามีความผิดอยู่แล้ว

 ด้าน พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ กล่าวว่า การที่ตำรวจรู้เบาะแส วัน เวลา และผู้ให้การช่วยเหลือเสี่ยแป้งหลบหนีลงจากเทือกเขาบรรทัด แต่ยังไม่ถูกจับกุมทั้งที่มีตํารวจปิดล้อมรอบพื้นที่อยู่นั้น ขอเรียนให้ทราบว่า "ตํารวจก็มีวิธีการทํางานในแบบของเรา" ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณชนได้ ส่วนของกระแสข่าวการหลบหนีไปต่างประเทศนั้น "ข่าวก็คือข่าว" แต่ต้องมีการตรวจสอบ ส่วนจะอยู่ในประเทศหรือไม่ ยังไม่ขอตอบรายละเอียดในเรื่องนี้ แต่ขอให้มั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตํารวจ

ทั้งนี้ในกรณีที่มีนายตํารวจยศระดับนายพลให้การช่วยเหลือเสี่ยแป้งนั้น ขณะนี้ทางผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติสั่งตั้งจเรตํารวจตรวจสอบแล้ว หากพบพยานหลักฐานเกี่ยวข้องไปถึงใคร จะดําเนินคดีทั้งอาญาและวินัยโดยไม่มีข้อยกเว้น แต่จะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย