‘ไทกร’บุกสภาฯร้องกมธ.เกษตรฯตรวจสอบปมทำลาย‘หมูเถื่อน’จำนวน 4,500 ตัน อ้างมีพฤติกรรมพิรุธน่าสงสัย แถมยังถูกชาวบ้านในพื้นที่สระแก้วต่อต้านหลังถูกระบุว่าติดโรคระบาด และส่งกลิ่นเหม็นทำเดือดร้อนไปทั่ว ปูด 90% ที่นำเข้าหมูเถื่อนเขียนสำแดงสินค้าว่า หัวปลาแซลมอน จี้นายกฯเร่งกวาดล้างให้หมด ด้าน กมธ.รับลูกเตรียมเชิญดีเอสไอให้ข้อมูล 14 ธ.ค.นี้
29 พ.ย.2566 ที่รัฐสภา นายไทกร พลสุวรรณ ตัวแทนประชาชน เข้ายื่นหนังสือต่อนายศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบการทำลายเนื้อสุกรผิดกฎหมายจำนวน 4,500 ตัน ซึ่งมีพฤติกรรมพิรุธน่าสงสัย
โดยนายไทกร กล่าวว่า หลังจากที่ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งให้มีการทำลายเนื้อหมูเถื่อนที่อยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบังจำนวน 4,500 ตันในทางลับ ซึ่งเรื่องนี้มีการส่อพิรุธโดยอ้างเหตุว่ามีกระบวนการต่อต้านการฝังกลบเนื้อหมูเถื่อน ของกลางที่จับได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือการทำงานของกรมปศุสัตว์และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เอาหมูเถื่อนที่กรมปศุสัตว์ระบุว่าติดโรคระบาดไปฝังที่อำเภอคลองหาด จ.สระแก้ว ฝังแค่ 30 ตัน กลิ่นเน่าเหม็นคลุ้งไปทั่ว จนชาวบ้านประท้วง ซึ่งสาเหตุที่ชาวบ้านไม่ให้ฝังเพราะไม่มีการทำประชาคมของชาวบ้านในพื้นที่และเป็นการกระทำที่ผิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รักษาและส่งเสริมสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ รวมถึงผิดพ.ร.บ.การสาธารณสุข และผิดกฎกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการกำจัดมูลฝอยติดเชื้อ ผิดพ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ เพราะกรมปศุสัตว์แจ้งว่าเนื้อหมูที่อยู่ในคลังสินค้าของท่าเรือแหลมฉบังติดเชื้อโรคที่ระบาดได้ไกลถึง 259 กิโลเมตร จึงถือว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อการเลี้ยงสัตว์และการทำปศุสัตว์ในประเทศ
นายไทกร กล่าวต่อว่า ส่วนสาเหตุที่ต้องมาอาศัยอำนาจของ กมธ.ฯ เพราะเห็นว่าประวัติแต่ละคนที่ดูแลเรื่องการกำจัดหมูเถื่อน 4,500 ตัน นั้นดูแล้วไม่โปร่งใส และจะเชื่อได้อย่างไรว่าจะไม่เอาหมูเถื่อนเข้ามาเวียนขายอีก นอกจากนี้ ยังเห็นอีกว่า 90%ที่นำหมูเถื่อนเข้ามามีการเขียนสำแดงสินค้าว่า หัวปลาแซลมอน ตนฝากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถ้าจะกวาดล้างต้องล้างทั้งหมด ทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการที่นำเข้ามา ทำงานล่าช้า ไม่ใช่ย้ายเฉพาะอธิบดีดีเอสไอ แล้วคนอื่นลอยหน้าลอยตาแบบนี้ ขอให้ กมธ.ฯ เร่งใช้อำนาจจัดการเรื่องนี้
นายไทกร ยังกล่าวถือกรณีที่มีการย้ายอธิบดีดีเอสไอว่า “เป็นเรื่องที่ไม่ปกติ เพราะย้ายหลังจากที่ไปจับห้างของเจ้าสัว และในวันถัดไปก็มาย้ายเขา มองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ เรื่องนี้นายกฯต้องทำให้ความจริงปรากฎ
ด้านนายศักดินัย กล่าวว่า ทางกมธ.ฯ จะนำเรื่องนี้เข้ามาดำเนินการและจะติดตามอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจะลงไปดูกระบวนการในการทำงานว่ามีการทำอย่างไร ทั้งนี้ จะมีการเชิญดีเอสไอในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ เพื่อเข้ามาให้ข้อมูล
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี