วันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. , กก.2 บก.ปทส. ร่วมกับ U.S. fish & Wildlife service หรือ กรมบริหารทรัพยากรสัตว์น้ำและสัตว์ป่าสหรัฐอเมริกา และชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่าและพืช (ชุดเหยี่ยวดง) ร่วมกันจับนายกานต์ อายุ 41 ปี ชาวแพร่ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 2058/2566 ลงวันที่ 20 พ.ย.2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ ค้าและมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ” ตรวจยึดของกลาง ซากเสือโคร่งจำนวน 163 รายการ , ซากเสือดาว จำนวน 108 รายการ , ซากเสือดำ 133 รายการ , ซาก เสือลายเมฆ 77 รายการ และซากเสือไฟ จำนวน 19 รายการ
พฤติการณ์สืบเนื่องจากเดือน ม.ค. 2566 ชุดสืบสวนของ กก.1 บก.ปทส. จับผู้ต้องหา 2 ราย ค้าซากเสือไฟ ขายสายมู พร้อมของกลาง ซากเสือไฟ ได้ที่บ้านพักย่านจระเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ ต่อมาได้ขยายผลจากเครือข่ายค้าซากสัตว์ออนไลน์พบว่ามี เฟซบุ๊กบัญชีหนึ่ง มีพฤติการณ์ค้าซากหนังเสือโคร่งออนไลน์ จึงสืบสวนขออนุมัติศาลออกหมายจับนายกานต์
ตำรวจ กก.1 และ กก.2 บก.ปทส. ได้ทำการตรวจค้นบ้านพักของ นายกานต์ฯ จากการสอบถามรับว่า เป็นเจ้าของเฟซบุ๊กที่ค้าเสือโคร่ง โดยสั่งซากเสือมาจากเฟซบุ๊กไม่ทราบว่าต้นทางมาจากไหน โดยค้าซากเสือมาประมาณ 2 ปี จะสั่งซื้อซากเสือมาเป็นตัวแล้วตัดแบ่งขาย ซึ่งซื้อซากเสือโคร่ง 1 ตัวในราคาประมาณ 40,000 - 50,000 บาท ส่วนชิ้นส่วนของเสือโคร่งต่าง ๆ เช่น หัวโคร่งจะขายราคาหัวละ 10,000 - 20,000 บาท ลำตัวขาย 12,000 บาท และส่วนต่าง ๆ ส่วนกลุ่มลูกค้าจะเป็นนักสะสม หรือไว้เป็นเครื่องรางของขลัง ตำรวจจึงนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปทส. ดำเนินการตามกฎหมาย.
ที่มาภาพ/ข่าว : #ตำรวจสอบสวนกลาง โดย บก.ปทส. #ซากเสือ #สายมู #ของขลัง #สัตว์ป่าคุ้มครอง #ดาวแปดแฉก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี