สตม.จับบ่อนใหญ่

ย่านเมืองนนทบุรี

รวบชาวจีน 26 คน

ยึดเงินสด 3.5 ล้าน

สตม.นำหมายศาล บุกตรวจค้น โรงแรมย่านงามวงศ์วาน จ.นนทบุรี จับ “บ่อนพนันขนาดใหญ่” จับกุมนักพนันชาวจีน 26 คน-พนักงานคนไทย 23 คน พบโต๊ะ-อุปกรณ์เล่นพนันอื้อ พร้อมยึดเงินสดอีก 3.5 ล้านบาท รุดขยายผลหาเจ้าของ ด้าน ผบ.ตร.ยังไม่เด้ง 5 เสือโรงพัก

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำลังตำรวจสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พร้อมหมายศาลอาญา บุกเข้าตรวจค้นโรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านงามวงศ์วาน จ.นนทบุรี ภายหลังสืบทราบว่าพื้นที่บริเวณชั้น 8 และ 9 ของโรงแรมดังกล่าว ถูกลักลอบเปิดเป็นบ่อนการพนันขนาดใหญ่

จากการตรวจค้นบริเวณก่อนทางเข้าชั้น 9 อาคารโรงแรมแห่งนี้ เจ้าหน้าที่พบป้ายระบุชื่อสถานที่ ซึ่งเป็นชื่อของบ่อนที่รู้จักกันดีในกลุ่มนักพนัน โดยภายในห้องถูกตกแต่งอย่างหรูหรา มีโต๊ะการพนันหลายประเภท เจ้าหน้าที่พบโต๊ะพนันบาคาร่า 6 โต๊ะ ตู้สล็อต 6 เครื่อง และเครื่องยิงปลา 1 ตัว รวมถึงไพ่กว่าร้อยสำรับ ชิปแลกเงินมูลค่าหลายสิบล้าน พร้อมด้วยเงินสด 3.5 ล้านบาท

ทั้งนี้ สำหรับแต่ละโต๊ะพนัน จะมีคอมพิวเตอร์และพนักงานประจำโต๊ะ คอยควบคุมดูแล ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจชาวจีน และนักท่องเที่ยว ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้าไปเล่นพนันกันเป็นประจำ เบื้องต้นจับกุมนักพนันชาวจีน ไว้ได้ทั้งหมด 26 คน พร้อมกับจับกุมพนักงานคนไทย 23 คน พร้อมของกลางและเงินสด โดยคุมตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ดำเนินคดี ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนหาเจ้าของบ่อนตัวจริงเพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป

ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.กล่าวยอมรับว่า รับทราบกรณีการเข้าตรวจค้นโรงแรมที่ลักลอบเปิดบ่อนการพนันดังกล่าวแล้ว ส่วนรายละเอียดต่างๆ ยังไม่ทราบว่ามีบุคคลใดที่เกี่ยวข้องบ้าง ขณะนี้ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.เข้าตรวจสอบรายละเอียด และที่มาที่ไปของบ่อนแห่งนี้ รวมถึงประเด็นที่มีการระบุว่า มีเจ้าของเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งเข้ามาลักลอบเปิดบ่อน โดยให้รายงานผลให้ทราบโดยเร็ว ซึ่งหากมีมูลความผิดก็จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีจเรตำรวจแห่งชาติร่วมตรวจสอบด้วย และจะพิจารณาดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกราย อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าเป็นการร่วมกันปฏิบัติการจับกุม หรือหน่วยงานภายนอก เข้ามาจับกุม คงต้องขอตรวจสอบก่อน

ส่วนการพิจารณาโยกย้าย 5 เสือโรงพักในพื้นที่รับผิดชอบนั้น ผบ.ตร.ระบุว่า ยังไม่มีนโยบายในการออกคำสั่งโยกย้ายให้ไปช่วยราชการ เนื่องจากยังต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดเจนก่อน แต่หากพบว่ามีการปล่อยปละเลย หรือพบมูลความผิดจริง ก็จะพิจารณาโยกย้ายโดยไม่รอวาระการแต่งตั้งโยกย้ายประจำปี เนื่องจากที่ผ่านมา มีนโยบายเน้นย้ำให้ตรวจตราเรื่องอบายมุขทุกพื้นที่ทั่วประเทศ อีกทั้งยังเป็นนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่เน้นย้ำให้ร่วมกับหน่วยงานฝ่ายปกครอง ในการกวดขันอบายมุขทุกประเภท