1 กรกฎาคม 2568 จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์รับแจ้งเหตุมีคนโดนทำร้ายด้วยอาวุธมีด จุดเกิดเหตุอยู่ภายในบ้านเลขที่ 2 หมู่ที่ 1 บ้านไทร ตำบลบ้านไทร อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ หลังจากรับแจ้งร้อยเวร 30 รับทราบและเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
ที่เกิดเหตุพบคนบาดเจ็บ 3 ราย ทราบว่าเป็นพ่อตา แม่ยาย และภรรยา ส่วนคนก่อเหตุเป็นลูกเขย สภาพภายในบ้านข้าวของกระจัดกระจาย มีคราบเลือดนองเต็มพื้น ทราบว่าชื่อคนเจ็บทั้ง 3 ราย 1.นางสาวสุวิมล มณีรัตน์ อายุ 22 ปี เป็นแฟนผู้ก่อเหตุ ถูกมีดฟันที่หัวและแขนอาการสาหัส ,2.นายบรรเจิด มณีรัตน์ อายุ 55 ปีพ่อตา โดนมีดฟันที่แขน และคออาการสาหัส , 3.นางสมศรี นิตย์ลาภ อายุ 54 ปี แม่ยาย โดนมีดฟันที่ฝ่ามือบาดเจ็บ) เจ้าหน้าที่กู้ชีพได้เร่งนำตัวคนเจ็บทั้ง 3 รายไปส่งโรงพยาบาลประสาทเพื่อช่วยเหลือต่อไป จากจุดเกิดเหตุห่างไปประมาณ 5 เมตร
พบคนก่อเหตุทราบชื่อ นายปรีชา อายุ 32 ปี ได้จบชีวิตตัวเองด้วยการแขวนคอเพื่อหนีความผิด ถึงอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภอปราสาทได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐาน และตรวจสอบจุดเกิดเหตุอย่างละเอียด เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการกฎหมายต่อไป
ล่าสุด วันนี้วัน (1 ก.ค.68) ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปที่บ้านหลังดังกล่าวที่เกิดเหตุยังมีคราบเลือดติดอยู่บนฝาผนังของบ้านและพบขวดเหล้าอยู่หน้าบ้าน พร้อมกับมีข้าวของกระจัดกระจาย ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงและถามถึงพฤติกรรมรวมไปถึงเรื่องราวความเป็นมาในขณะตอนเกิดเหตุ
นางโสมสุดา อายุ 61 ปี ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง เล่าว่า ตอนเกิดเหตุตนเองกำลังขายของอยู่ในบ้านได้ยินเสียงตะโกนกรีดร้องเสียงดัง และมีชาวบ้านตะโกนขึ้นว่า ไอ้แจ็ค มันจะเอามีดไปฟันเมียมันแล้วและชาวบ้านก็ลุกฮือพากันวิ่งตามไปดู เพราะกลัวว่าได้แจ็คจะทำร้ายคนอื่นไปด้วยและตามไปก็ไม่ทัน ไอ้แจ็คก็ได้ลงมือฟันเมียตัวเองพร้อมเอาด้ามมีดทุบหัวเมียด้วย และพ่อตาแม่ยายก็โดนไปด้วย แล้วมันก็ผูกคอตาย และเคยทำร้ายร่างกายเมีนบ่อยครั้งจนต้องเข้าโรงพยาบาลโดยอ้แจ็คมีนิสัยก้าวร้าวและเคยยกพวกมาทำร้ายคนอื่นเอกามีดแทงคนอื่น ตอนนี้ก็ยังขึ้นโรงขึ้นศาลอยู่ 'ตนเองไม่มีอะไรอยากฝากถึงไอ้แจ็ค นอกจากให้มันตายไปเถอะคนแบบนี้ ชาวบ้านสบายใจที่มันตายจะได้ไม่เป็นภัยสังคม'
นางผลิต อายุ 81 ปี(ชาวบ้านละแวกใกล้เคียง เล่าว่า นายแจ็คเป็นคนนิสัยก้าวร้าว ขนาดตอนที่ยังไม่ตายช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมามันยังมาชวนหลานตนไปกินเหล้าด้วยที่บ้าน โดยตอนนั้นที่หลานตนเองไปหานายแจ็คที่บ้านและเห็นลูกชายของแจ็คเป็นเด็กเล็กเลยพูดกับลูกชายแจ็คว่า มาเล่นกับหมาที่บเนของลุงไม ซึ่งมีหมาน้อยอยู่ นายแจ็คได้ยินแบบนั้นจึงเกิดความไม่พอใจ มาว่าหลานตนเปรียบลูกมันเหมือนหมา ไม่รู้มันเอาสมองส่วนไหนคิด และมันก็เตะก้านคอหลานของตน ตอนนี้รู้สึกสบายอกสบายใจที่มันตายจะได้ไม่เป็นภัยของสังคม ตนและสามีจะไม่ขอไปร่วมงานศพ
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปที่งานศพนายแจ็ค อายุ 32 ปี (คนก่อเหตุ) บรรยากาศภายในงานศพสุดเงียบเหงา ชาวบ้านน่าจะเกิดความไม่พอใจเลยไปร่วมงานศพกันน้อยคน และผู้สื่อข่าวก็ได้พูดคุยกับแม่ของนายแจ็ค เคลียร์เรื่องปมปัญหาที่ลูกชายได้ก่อเหตุกระทำลงไป
นางหอม อายุ 50 ปี แม่นายแจ็ค เล่าว่า ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั่งหมด อยากขอโทษครอบครัวของภรรยาลูกชายทุกคนที่ลูกชายของตนได้ก่อเหตุลงไป ตอนนี้ลูกสะใภ้อาการหนักเนื่องจากโดนดามมีดทุบที่หัวและฟันที่หัวตอนนี้หมอกำลังรอผ่าตัดสมอง ส่วนพ่อตาก็อาการสาหัส ส่วนสาเหตุคาดว่าลูกชายน่าจะเครียดเหมือนพ่อตาจะจับแยกทางกัน วันที่เกิดเหตุลูกชายได้กลับมาอยู่บ้านซึ่งห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 600 เมตร พ่อตาได้กลับมาจากทำงานที่กรุงเทพทำให้ลูกชายต้องแยกตัวออกมาจากบ้านที่เกิดเหตุเพื่อมาอยู่บ้านตัวเอง ก่อนเกิดเหตุพ่อตาได้สั่งให้ลูกชายของตนมาเอารถออกและเก็บข้าวของก่อนที่ลูกชายตนเองจะไปก่อเหตุได้มาขอเงินเติมเน็ตโทรศัพท์มือดถือ ซึ่งตอนนั้นตนก็ฝากให้ลูกชายซื้อชูรสมาด้วย 10 บาท และลูกชายของตนก็ได้ขี่จักรยานยนต์ออกไป จนกระทั่งมีคนมาบอกว่าลูกชายได้ฟันคน ตอนนั้นไม่รู้ว่าลูกชายฟันใครจึงได้วิ่งออกมาดูและชาวบ้านก็บอกว่ามันผูกคอตายตามไปแล้ว ตนถึงกับเข่าทรุด
.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี