กลุ่มผู้ประกอบการนำเข้าสัตว์จากเมียนมา พื้นที่เมืองแม่ฮ่องสอน และพื้นที่ปางมะผ้าในนามชมรมผู้ประกอบการค้าโคกระบือจากเมียนมาเดินทางไปยื่นหนังสือขอผ่อนผันให้มีการนำเข้าสัตว์จากเมียนมา ต่อ ผวจ.แม่ฮ่องสอน โดยมีนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รอง ผวจ.แม่ฮ่องสอน ออกมารับหนังสือและจะรายงานปัญหาไปยังหน่วยเหนือเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 เวลา 11.00 น. นางสุนทรี จันปาลี แกนนำกลุ่มเกษตรกรผู้นำเข้าสัตว์จากประเทศเมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยผู้ประกอบการนำเข้าสัตว์ จำนวน 20 รายได้เดินทางไปยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อขอให้มีการพิจารณาผ่อนผันให้มีการนำเข้าสัตว์มีชีวิตจากประเทศเมียนมา ทั้งนี้ จากคำสั่งของอธิบดีกรมปศุสัตว์ ที่ให้ชะลอการนำเข้าสัตว์จากประเทศเมียนมา เป็นฉบับที่ 4 คราวละ 3 เดือน ได้ส่งผลกระทบต่อการนำเข้าสัตว์จากประเทศเมียนมา
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้กลุ่มผู้ประกอบการ นำเข้าสัตว์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เดินทางไปพบกับ นายไช พรมมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร ฯ ซึ่งได้มีการรับปากว่า จะเปิดโอกาสให้มีการนำเข้าสัตว์ แต่พอถึงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2566 ทางอธิบดีกรมปศุสัตว์กลับมีคำสั่งประกาศห้ามนำเข้าสัตว์จากเมียนมาไปอีก 3 เดือน ทำให้ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ค้าโคกระบือเป็นอย่างมาก
นายภูเบศวร์ ไชยศรี เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ตามที่กรมปศุสัตว์มีการแจ้งชะลอนำเข้าโค กระบือ แพะ แกะ จากสาธารณรัฐเมียนมาร์ เป็นฉบับที่ 4 ผู้ประกอบการฯ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ทราบเรื่องการประกาศชะลอโดยทั่วกัน เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 ทำให้ผู้ประกอบการฯ และผู้ที่เกี่ยวข้องหมดหวังและหมดกำลังใจ ซึ่งที่ผ่านมากรมปศุสัตว์ได้ประกาศชะลอการนำเข้า สัตว์จากประเทศเมียนมาร์ ก่อนหน้านี้ทั้งหมด 3 ฉบับแล้ว แต่ละฉบับที่ประกาศมีระยะเวลา 90 วัน (3 เดือน) การเริ่มประกาศตั้งแต่มีนาคม 2566 - 28 พฤศจิกายน 2566 รวมระยะเวลาที่ปิดตั้งแต่วันประกาศราชกิจจานุเบกษาจนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลา 270 วัน หรือ 9 เดือน
โดยทางกรมปศุสัตว์อ้างว่าเนื่องจากเกิดโรคระบาดจากสัตว์ที่นำเข้าจากประเทศเมียนมาร์ ทางผู้ประกอบการฯ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เห็นว่าตลอดระยะเวลา เดือนที่ผ่านมา เราปฏิบัติตามกรมปศุสัตว์ทุกประการ หวังอย่างยิ่งว่าหมดระยะเวลา 9 เดือน ทางกรมปศุสัตว์จะแก้ปัญหาเรื่องโรคที่ทางกรมปศุสัตว์กล่าวอ้างข้างต้น แต่ไม่มีเลย กลับประกาศชะลอการนำเข้าสัตว์จากประเทศเมียนมาร์ในครั้งนี้อีกทางผู้ประกอบการฯ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจึงอยากขอ ความอนุเคราะห์หาทางออกให้กับชาวแม่ฮ่องสอนที่เดือดร้อนในครั้งนี้ การประกาศชะลอการนำเข้าสัตว์จากประเทศเมียนมาร์ในครั้งนี้ส่งผลเดือนร้อนเป็นอย่างมาก ไม่เฉพาะผู้ประกอบการฯ อีกทั้งยังมีผู้ที่เดือนร้อนเป็นวงกว้าง พ่อค้า โค-กระบือ รถขนส่งสินค้าปศุสัตว์ ผู้ผลิตอาหารสัตว์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทางจังหวัดแม่ฮ่องสอน จะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวให้กับผู้ที่เดือดร้อนด้วย
นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า เรื่องการชะลอนำเข้าสัตว์ เป็นเรื่องของกรมปศุสัตว์ ซึ่งทางปศุสัตว์จังหวัดได้รับเรื่องดังกล่าวแล้วและจะรายงานไปยังกรมปศุสัตว์เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้นำเข้าสัตว์ต่อไป แต่อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ คงต้องรอดูท่าทีของกรมปศุสัตว์ว่า จะตอบสนองอย่างใดต่อข้อร้องเรียนดังกล่าว ทั้งนี้ทางจังหวัดแม่ฮ่องสอน ก่อนหน้านี้ได้มีการประชุมและเตรียมมาตรการนำเข้าสัตว์ในพื้นที่อำเภอปางมะผ้า และ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน แล้ว แต่เมื่อมีการประกาศจากกรมปศุสัตว์ทำให้ต้องรอต่อไปอีก 3 เดือน อย่างไรก็ตามอยากจะขอความร่วมมือผู้ประกอบการด้วยในเรื่องการลักลอบนำเข้าสัตว์จากเมียนมาควรที่จะยุติการนำเข้าซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และส่งผลให้มีการประกาศห้ามนำเข้าสัตว์ต่อไปอีก
สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการนำเข้าสัตว์และเกษตรกรที่เกี่ยวข้อง ได้มีการเดินทางไปยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดแล้ว ยังได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจสิงหนาท ที่ค่ายม่อนตะแลง เพื่อขอช่วยพิจารณาเรื่องดังกล่าวอีกด้วย - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี