รมช.คมนาคม ลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุรถทัวร์เสียหลักตกถนนพุ่งชนอัดต้นไม้ริมถ.เพชรเกษม จ.ประจวบคีรีขันธ์ เสียชีวิต 14 ศพบาดเจ็บ 21 รายพร้อมเยี่ยมให้กำลังใจญาติและผู้บาดเจ็บที่รักษาอยู่ที่2โรงพยาบาล กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบเหตุเต็มที่ เล็งนำกรณีนี้วางแนวทางป้องกัน เกิดเหตุซ้ำช่วงเทศกาล‘ปีใหม่สงกรานต์’ ด้านกรมขนส่งเผยจีพีเอสความเร็วรถทัวร์ก่อนเกิดเหตุวิ่งแค่88กม./ชม ไม่เกินกำหนด!
ความคืบหน้าอุบัติเหตุรถโดยสาร สาย กรุงเทพฯ-นาทวี ของบริษัท ศรีสยามเดินรถ จำกัด หมายเลขทะเบียน 14-3301 กรุงเทพมหานครซึ่งเป็นรถร่วมบริการของบริษัทขนส่งจำกัด(บขส.)เสียหลักพุ่งชนต้นไม้ข้างทาง บนทางหลวง หมายเลข 4 (เพชรเกษม) ขาล่องใต้ หลัก กม.ที่ 331-332 หมู่ที่ 7 ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ใกล้ทางเข้าอุทยานแห่งชาติหาดวนกรทำให้มีผู้บาดเจ็บ 32 ราย เสียชีวิต 14 รายเหตุเกิดเมื่อเวลา01.16น.ของวันที่ 5 ธ.ค.66นั้น
เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม พร้อมด้วย นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ว่าที่พันตรีอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุรถทัวร์โดยสารเสียหลักตกถนนพุ่งชนต้นไม้ริมถนนเพชรเกษม ฝั่งขาล่องใต้ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ใกล้ทางเข้าอุทยานแห่งชาติหาดวนกร เพื่อวิเคราะห์สาเหตุอุบัติเหตุ
โดยได้รับฟังรายงานการวิเคราะห์สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ พบว่าสภาพเส้นทางบริเวณดังกล่าวเป็นทางตรง ผิวการจราจรดี เบื้องต้นยังไม่แน่ชัดว่าพนักงานขับรถมีอาการหลับในหรือไม่ ซึ่งจะต้องสืบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัด
จากนั้นได้ไปตรวจดูสภาพซากรถทัวร์ที่จอดไว้ริมทางใกล้โรงพักห้วยยางก่อนเดินทางไปให้กำลังใจญาติและเยี่ยมผู้บาดเจ็บ ที่พักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ทับสะแก และรพ.ประจวบคีรีขันธ์ รวม 21 คน โดยผู้บาดเจ็บรักษาที่รพ.ทับสะแก 5 คน และรพ.ประจวบคีรีขันธ์ 16 คน ในจำนวนผู้บาดเจ็บทั้งหมดนี้มีผู้ที่อาการสาหัส 6 คน
ทั้งนี้ รมช.คมนาคมได้เข้าเยี่ยมอาการผู้บาดเจ็บพร้อมติดตามแนวทางการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบเหตุ โดยกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินการช่วยเหลือครอบครัวและญาติของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอย่างเต็มที่โดยเร็วตามสิทธิทางกฎหมาย ส่วนร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 14 คน ญาติรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลแล้ว 11 คน และวันนี้ ญาติติดต่อขอรับร่างกลับอีก 3 คน
นายสุรพงษ์ ให้สัมภาษณ์ว่าการเดินทางมาครั้งนี้เพื่อเป็นตัวแทนของรัฐบาลในการให้กำลังใจผู้ประสบเหตุ ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บทุกคนโดยได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุ โดยจะนำเหตุการณ์นี้ เป็นกรณีศึกษาเพื่อวางแนวทางป้องกัน ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลที่ที่จะมาถึงทั้งเทศกาลปีใหม่ เทศกาลสงกรานต์ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้รับรายงานจากกรมการขนส่งทางบก ทราบว่ารถคันที่เกิดเหตุผ่านการตรวจสอบสภาพตามที่กำหนด และขณะเกิดเหตุตรวจสอบจากระบบ GPS พบว่าใช้ความเร็ว 88 กม.ต่อ ชม. ซึ่งไม่เกิน 90 กม.ต่อ ชม.ตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนกรณีที่ผู้สื่อข่าวถามว่าควรจะต้องเพิ่มจำนวนพนักงานขับรถมากกว่า 2 คนเพื่อผลัดเปลี่ยนกันขับหรือไม่นั้น เรื่องนี้จะต้องมีการพิจารณาด้วย
ทั้งนี้ มีรายงานว่า แนวทางการดูแลผู้ประสบเหตุ บริษัทศรีสยามเดินรถจำกัด จะเป็นผู้รับผิดชอบส่งร่างผู้เสียชีวิตกลับภูมิลำเนา และมอบเงินช่วยเหลือ เบื้องต้น 5,000 บาท จะมีเงินค่าชดเชยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ กรณีเสียชีวิต ได้รับรายละ500,000 บาท กรณีบาดเจ็บ จ่ายตามจริง ไม่เกินรายละ 80,000 บาท ส่วนเกินจาก พ.ร.บ.ภาคบังคับ เบิกค่ารักษาจากประกันอุบัติเหตุ ไม่เกินรายละ 100,000 บาท หากญาติผู้ประสบเหตุต้องการความช่วยเหลือด้านที่พักสามารถติดต่อได้ที่หมายเลข 084-875-4170 หรือ 089-178-0031
ขณะที่นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่ารัฐบาลแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตกรณีเหตุรถทัวร์โดยสารประจำทางสายกรุงเทพฯ-นาทวี ประสบอุบัติเหตุเสียหลักตกไหล่ทางชนต้นไม้ริมถนนเพชรเกษม หน้าอุทยานแห่งชาติหาดวนกร มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 14 รายและที่โรงพยาบาล 2 ราย โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับความปลอดภัยบนท้องถนนมาโดยตลอดไม่ว่าจะช่วงเทศกาลหรือไม่ใช่ช่วงเทศกาลจะมีการรณรงค์เรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียขึ้น
“นายกรัฐมนตรี ขอให้กระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอำนวยความสะดวกกับผู้ประสบเหตุและญาติ ดังนั้นจะเห็นว่ารัฐบาลเอาจริงเอาจังกับความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างมาก มีการรณรงค์ในทุกเทศกาล เพื่อลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น” นางรัดเล้า กล่าวและยังชื่นชมประชาชนในที่เกิดเหตุที่ให้ความช่วยเหลือ ด้วยการเปิดห้องพักในละแวกนั้นให้ญาติผู้ประสบเหตุที่มาติดต่อรับศพ หรือ มาเยี่ยมผู้บาดเจ็บได้พักครอบครัวละ 1 ห้องฟรี เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน และขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เข้าช่วยเหลือ
ด้าน สำนักงานขนส่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงพื้นที่ทันทีหลังเกิดเหตุพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบอุบัติเหตุเบื้องต้นและให้การช่วยเหลือผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล ขณะที่กรมขนส่งได้ตรวจสอบระบบจีพีเอสความเร็วรถก่อนเกิดอุบัติเหตุใช้ความเร็วอยู่ที่ 88 กิโลเมตรต่อชั่วโมงซึ่งไม่เกินกว่าความเร็วที่กฎหมายกำหนด คือ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนภาษีรถสิ้นอายุวันที่ 30 ก.ย.67 โดยมีนายสมศักดิ์ อายุ 36 ปี เป็นพนักงานขับรถ ใบอนุญาตขับรถสิ้นอายุ 5 ส.ค. 69 ขณะนี้อาการสาหัส ถูกส่งตัวมารักษาต่อที่ รพ.ประจวบคีรีขันธ์ ยังไม่สามารถสอบสวนถึงสาเหตุอุบัติเหตุครั้งนี้
ขณะที่บรรยากาศ ที่บ้านของนายสมบูรณ์ ผู้เสียชีวิต ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จ.พัทลุง ศพของผู้เสียชีวิตได้มาถึงบ้านแล้ว โดยทางญาติได้นำศพมาประกอบพิธีทางศาสนาอิสลาม จะฝังร่างของผู้เสียชีวิตเช้าวันที่ 7 ธ.ค. สอบถามนางดะพี่สาวผู้เสียชีวิตบอกว่าน้องชายเดินทางมาจากกรุงเทพฯซึ่งน้องชายไปกรุงเทพฯ เพื่อสั่งเสื้อผ้ามาขาย ตอนนี้น้องชายอยู่คนเดียว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี