‘คณะสงฆ์ไทย-ชมรมไตรรัตนภูมิ-เครือข่ายองค์กรชาวพุทธไทย-อินเดีย’จัดกิจกรรมบรรพชาอุปสมบทหมู่ชาวอินเดีย มุ่งเผยแผ่-ฟื้นฟูพระพุทธศาสนากลับสู่มาตุภูมิ ถวายพระกุศลสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ
8 ธันวาคม พ.ศ. 2566 คณะกรรมการจัดกิจกรรม “ปลูกหน่อพุทธบุตร สืบพระศาสนา สู่แดนพุทธภูมิ” บรรพชาอุปสมบทหมู่ชาวพุทธอินเดีย อันเป็นกิจกรรมหนึ่งในโครงการ “พลิกฟื้นคืนพุทธธรรมสู่พุทธภูมิ” โดยชมรมไตรรัตนภูมิ มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแผ่และฟื้นฟูพระพุทธศาสนากลับสู่ดินแดนต้นกำเนิด และยังถือเป็นโอกาสมงคลที่จะได้ถวายพระกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ 7 ธันวาคม 2566 และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาส ราชนครินทร์ ในโอกาสครบ 100 ปี วันประสูติ 6 พฤษภาคม 2566 กิจกรรมจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 ธันวาคม 2566 ถึง 15 มกราคม 2567
ทั้งนี้เ มื่อวันที่ 7 ธันวาคม ที่ผ่านมา นายนาเคศ ซิงห์ เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย ในนามตัวแทนชาวอินเดียทั้งประเทศ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีสมโภชผ้าไตรพระราชทานและพิธีเจริญ พระพุทธมนต์ถวายพระกุศล เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ณ พระอุโบสถ วัดธาตุทอง เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ด้วย
สำหรับการบรรพชาอุปสมบทหมู่ชาวพุทธอินเดียในครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้ชื่อกิจกรรม “ปลูกหน่อ พุทธบุตร สืบพระศาสนา สู่ดินแดนพุทธภูมิ” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “พลิกฟื้นคืนพุทธธรรมสู่พุทธภูมิ” ที่ทางชมรมไตรรัตนภูมิ วัดธาตุทอง, มูลนิธิกากัน มาลิก, มูลนิธิอาชเรย์ ร่วมกับภาคีเครือข่ายองค์กรทางพระพุทธศาสนา 2 ประเทศ (ไทย - อินเดีย) ได้จัดกิจกรรมเกี่ยวกับการเผยแผ่และฟื้นฟูพระพุทธศาสนากลับสู่ดินแดนมาตุภูมิ ซึ่งมีกิจกรรมที่ดำเนินการไปแล้วและยังดำเนินการอยู่อีกมากมาย เช่น กิจกรรม 84,0000 พระพุทธปฏิมาคืนลมหายใจพระพุทธศาสนาสู่แดนพุทธภูมิ เป็นกิจกรรมส่งมอบพระพุทธรูปจากพุทธศาสนิกชนไทยให้กับอาราม-วิหาร ชุมชนชาวพุทธทั่วประเทศอินเดีย ซึ่งขณะนี้ดำเนินการไปแล้วกว่า 40 เปอร์เซ็นต์, กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงพุทธทั่วประเทศอินเดีย เพื่อให้ชาวพุทธจากทั่วโลกได้เห็นว่าในประเทศอินเดียไม่ได้มีพุทธสถานเฉพาะแค่ในแถบพื้นที่ 4 สังเวชนียสถาน ที่ชาวพุทธไทยส่วนมากรู้จัก แต่หากยังมีพุทธสถานโบราณอีกมากมายทั่วประเทศอินเดีย และบางแห่งยังคงวิถีชาวพุทธอยู่กว่า 1000 ปี ไม่เคยจางหาย, กิจกรรมธุดงค์ธรรมยาตรา ที่จัดในพื้นที่ส่วนต่าง ๆ ของอินเดีย และได้รับความสนใจจากชาวพุทธอินเดียจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากสถานเอกอัครราชทูตอินเดีย ประจำประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยว รัฐบาลอินเดีย และหน่วยงานองค์กรต่าง ๆ ของไทย เช่น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี กรมการศาสนา กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม โครงการกำลังใจ กระทรวงยุติธรรม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย คณะพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย - เนปาล ฯลฯ
กิจกรรม “ปลูกหน่อพุทธบุตร สืบพระศาสนา สู่แดนพุทธภูมิ” นำชาวพุทธอินเดียที่ถือเป็นลูกหลานทายาทขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาเข้าพิธีบรรพชาอุปสมบทเพื่อเรียนรู้หลักธรรมคำสอนและแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องของพระพุทธศาสนาแบบเถรวาท ซึ่งในครั้งนี้มีชาวพุทธอินเดียเข้าร่วมกิจกรรมบรรพชาอุปสมบทจำนวน 47 ท่าน ถือเป็นครั้งที่ 4 ที่ทาง พระราชวรญาณโสภณ เจ้าอาวาสวัดธาตุทอง ได้มีโอกาสดำเนินการ โดยในครั้งนี้ได้รับเมตตาจาก สมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธานอุปถัมภ์ พระพรหมวชิรากร เจ้าอาวาสวัดราชผาติการาม กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธานคณะทำงาน และยังได้รับเมตตาจากพระเถรานุเถระ พระสังฆาธิการ พระภิกษุสงฆ์ทุกภาคส่วนทั้งปริยัติและปฏิบัติ และเรื่องที่เป็นมหามงคลอีกประการคือ ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าไตร จำนวน ๑ ไตร และเครื่องไทยธรรม ๑ ชุด ถวายพระอุปัชฌาย์ และพระราชทานผ้าไตรจำนวน ๔๗ ไตร แก่ผู้อุปสมบท นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดไม่ได้
ระหว่างการอุปสมบทผู้เข้าร่วมโครงการจะได้เรียนรู้พระธรรมวินัย วิถีชาวพุทธแบบเถรวาท และการศึกษาดูงานพุทธสถานสำคัญต่าง ๆ ภาควิชาการได้รับความร่วมมือจาก มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในการส่งพระวิทยากร / วิทยากรเพื่อถวายความรู้แก่พระนวกะทั้งภาษาอังกฤษและภาษาฮินดี ภาคปฏิบัติมีกิจกรรมธุดงค์ธรรมยาตรา จากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาถึงจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งได้รับเมตตาจาก พระพรหมวชิรากร พระราชวัชรวิสุทธิวงศ์ พร้อมพระเถรานุเถระผู้มีภูมิรู้ภูมิธรรมอีกมากมาย อาทิ พระธรรมศากยวงศ์วิสุทธิ์, ดร., พระเทพมงคลโสภณ, พระเทพวชิรสุนทร, พระเมธีวัชรบัณฑิต, ศ.ดร. ฯลฯ ร่วมอบรมสั่งสอนและถ่ายทอดความรู้อันจะเป็นประโยชน์แก่การฟื้นฟูพระพุทธศาสนากับสู่ประเทศอินเดียอีกครั้ง โดยตลอดระยะเวลาจัดกิจกรรม นายกากัน มาลิก หรือ ทิดกากัน (อดีตพระกากัน อโสโก) นักแสดงชาวอินเดียผู้เลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา เป็นที่รู้จักของคนไทยจำนวนไม่น้อยและเคยมาอุปสมบทที่วัดธาตุทอง เมื่อปี 2565 เป็นเวลา 99 วัน จะรับหน้าที่เป็นโยมอุปัฏฐาก ร่วมถวายความรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ แก่พระนวกะทั้ง 47 รูป
ตลอดโครงการด้วย นายกากัน มาลิค กล่าวว่า “ชาวพุทธอินเดีย ที่ได้สมัครเข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทในครั้งนี้ มีความแน่วแน่ ตั้งใจฝึกซ้อมท่องจำคำขานนาคที่มีการออกเสียงแบบภาษามคธ ตามที่คณะสงฆ์ไทยได้เน้นย้ำ ซึ่งมีความใกล้เคียงกับภาษาท้องถิ่นของตนอย่างมาก และนอกจากนี้ยังมีคณะจิตอาสาชาวอินเดียอีกจำนวนหนึ่งที่จะเข้ามาช่วยอุปัฏฐาก คณะพระนวกะในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญที่ทำให้ชาวอินเดียจำนวนไม่น้อยหันมาให้ความสำคัญ และตระหนักถึงคุณค่าของพระพุทธศาสนาในประเทศตน” ทั้งนี้นายกากัน ยังกล่าวถึงความรู้สึกปราบปลื้มอย่างหาที่สุดมิได้ ในการที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน ผ้าไตรให้กับชาวอินเดียที่จะเข้าอุปสมบททั้ง 47 คน ด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจติดตามข่าวสารระหว่างการจัดกิจกรรม สามารถติดตามได้ทางช่องทาง Facebook: ชมรมไตรรัตนภูมิ, สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย หรือหน่วยงานเครือข่ายองค์กรชาวพุทธที่เข้าร่วมกิจกรรม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี